ศบ.ทก.​เผยไทยเตรียมประท้วง หากกัมพูชาวางทุ่นระเบิดใหม่

ทำเนียบ 18 ก.ค.-ศบ.ทก.​ ยัน​ไทยไม่เพิกเฉย​ เตรียมประท้วง หากพบกัมพูชาวางทุ่นระเบิดใหม่​ ผิดอนุสัญญา​ออตตาวา​ ปี​ 2542 ทำ 3 ทหารพรานเหยียบทุ่นระเบิดขณะลาดตระเวน​ เผย​ผลหารือร่วม​ เหตุหญิงกัมพูชาทำวุ่นปราสาทตาเมือนธม​ คัดกรองเข้มนักท่องเที่ยว​ ส่งชุดประสานงานไทย-กัมพูชา ฝ่ายละ 7 คน ดูแลนักท่องเที่ยว ห้ามเรียกกำลังเพิ่ม​ หวังลดการเผชิญหน้า

พลเรือตรีสุรสันต์ คงสิริ รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย และนางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงผลการประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ​ ศบ.ทก.​


โดยพลเรือตรีสุร​สันต์​ กล่าวชี้แจงกรณี พลเอกณัฐพล​ นาคพาณิชย์​รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม​ รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และในฐานะผอ.ศบ.ทก​ ได้ลงพื้นที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานีเยี่ยมทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิด​ ขณะปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนพื้นที่ช่องบก​ จังหวัดอุบลราชธานี โดยทหารทั้ง 3 นาย​ อยู่ในสภาวะขวัญและกำลังใจที่ดีเยี่ยม ปัจจุบันได้ดูแลอย่างใกล้ชิดจากคณะแพทย์ เป็นไปตามมาตรฐาน​ และทันท่วงทีจนอาการทั้ง 3 นายอยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัย

สำหรับพลทหารที่เหยียบกับระเบิดจนทำให้ขาด้านซ้ายขาด กองทัพภาคที่ 2 ได้มีมาตรการในการช่วยเหลือสวัสดิการให้กับกำลังพลอย่างเต็มที่ โดยมีการปูนบำเหน็จเลื่อนขั้นจากพลทหารเป็นสิบเอก​ หลังจากรักษาตัวเสร็จด้วยเหตุสูญเสียจากการรบ​ นอกจากนี้ได้รับบำเหน็จเดือนละ 15,600 บาท หากรวมเงินรายเดือนจากหน่วยงานต่างๆคาดว่าจะได้รับเงินจำนวนถึง 29,800 บาทต่อเดือน นอกจากนี้​ ยังได้รับเงินก้อนจากหน่วยงานองค์กรต่างๆ รวมทั้งสิ้นประมาณ 1 ล้านบาทเศษ ซึ่งทางราชการเล็งเห็นถึงคุณประโยชน์ที่กำลังพลได้ปฏิบัติช่วยเหลือทางราชการ มองเห็นการบรรจุทายาททดแทน​ ซึ่งทางพี่สาวกำลังพลดังกล่าวประสงค์ที่จะรับราชการ ก็จะมีการพิจารณาเป็นกรณีพิเศษด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังได้รับเหรียญพิทักษ์เสรีชนประเภท 2 ชั้น 1 และบัตรทหารผ่านศึกชั้นที่ 3 ที่จะมีสิทธิลดค่าน้ำ​ ค่าไฟ และค่าเดินทางตลอดชีวิตของกำลังพล


พลเรือตรีสุร​สันต์ กล่าวว่าขณะเดียวกัน​หน่วยทุ่นระเบิด​ กองทัพบก​ ส่งหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมเข้าไปในพื้นที่เกิดเหตุเพื่อเก็บหลักฐานนำมาวิเคราะห์ โดยผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดอย่างละเอียดซึ่งคาดการณ์ว่าจะใช้เวลา 2-3 วัน​ เพื่อให้ได้ข้อมูลข้อเท็จจริงที่ชัดเจนในเรื่องของชนิดและห้วงเวลาที่มีการวางทุ่นระเบิด ว่าจะเป็นการวางทุ่นระเบิดขึ้นมาใหม่หรือเป็นของเดิม ซึ่งหากเป็นการวางทุ่นระเบิดใหม่ ถือว่าเป็นการละเมิดต่ออนุสัญญาออตตาวา​ ว่าด้วยการห้ามใช้และเก็บสะสมทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​ เพราะไทยและกัมพูชา​ เป็นประเทศภาคีในอนุสัญญาดังกล่าวตั้งแต่ปีพ.ศ. 2542 พร้อมเน้นย้ำว่าทางรัฐบาลไทย ถ้ามีการตรวจพบว่าเป็นทุ่นระเบิดที่มีการวางใหม่ ฝ่ายไทยจะไม่เพิกเฉย

นอกจากนั้นหากมีการพบว่ามีการรุกล้ำอธิปไตยของไทยทางเราจะมีการดำเนินการโต้ตอบอย่างชัดเจน พร้อมขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่าเราไม่ได้นิ่งนอนใจถึงสถานการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นทางฝ่ายไทยได้ยึดมั่นในการใช้ข้อเท็จจริงซึ่งเป็นหลักการที่เรายึดมั่นมาโดยตลอด ในการยึดถือปฏิบัติตามหลักสากลโดยข้อมูลต่างๆเหล่านี้จะนำไปสู่การปฏิบัติของฝ่ายไทยต่อไป

พลเรือตรีสุร​สันต์ กล่าวถึง กรณีที่หญิงชาวกัมพูชาตะโกนใส่ทหารไทย ที่ปราสาทตาเมือนธม​ เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทางฝ่ายไทยและกัมพูชาได้ประชุมหารือเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม เพื่อร่วมกำหนดมาตรการในการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้ซ้ำซ้อน โดยทั้งสองฝ่ายได้ข้อสรุป หากมีปัญหาจากนักท่องเที่ยวเกิดขึ้น ขอให้ชุดประสานประสาทของฝ่ายไทยเป็นผู้ดำเนินการของนักท่องเที่ยวประเทศนั้น​ และหากมีปัญหาในพื้นที่​ให้ชุดประสานงาน​ที่มีอยู่ฝ่ายละ​ 7 คน แก้ไขปัญหา โดยไม่ต้องเรียกกำลังชุดอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องมาเพิ่มเติม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุเผชิญหน้าจากทั้งสองฝ่าย​ พร้อมขอให้ทั้งสองฝ่ายได้ดำเนินการคัดกรองนักท่องเที่ยวของแต่ละฝ่ายก่อนขึ้นมาท่องเที่ยวบริเวณปราสาทอย่าเข้มข้น ซึ่งก็น่าจะสามารถช่วยแก้ไขปัญหานักท่องเที่ยวขึ้นมาได้เนื่องจากจะมีการตรวจสอบ อย่างเข้มข้นมากขึ้น


ด้านนางมาระตี​ กล่าวว่า​ สถานการณ์ในจุดผ่านแดนมีความเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย ไทยยังคงมาตรการเดิม แต่เพิ่มมาตรการควบคุมการผ่านแดนให้เข้มข้น พร้อมขอกัมพูชาประสานเวลาเปิด-ปิดด่าน เพื่อลดผลกระทบกับประชาชนทั้ง 2 ประเทศ​ ที่ต้องการผ่านข้ามแดน​ และเพื่อประโยชน์ของความร่วมมือต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติร่วมกัน

ขณะเดียวกันทางกระทรวงการต่างประเทศ​ ขอแสดงความเสียใจ กับเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้น ที่ช่องบกอุบลราชธานี ทำให้มีทหารที่ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ขอให้ทหารไทยที่ได้รับบาดเจ็บ และในระหว่างที่กองทัพบกกำลังตรวจสอบข้อเท็จจริง ว่าเป็นของเก่าหรือของใหม่ กระทรวงการต่างประเทศไม่ได้นิ่งนอนใจ และเมื่อรับทราบผลการตรวจสอบอย่างเป็นทางการ จากในพื้นที่แล้วจะดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ซึ่งปัจจุบันทั้งไทยและกัมพูชาเป็นภาคีอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งในข้อบทแรกของอนุสัญญาดังกล่าวชัดเจนว่า ห้ามใช้​ ห้ามผลิต ภาคีมีหน้าที่ที่ต้องทำลายคลังทุ่นระเบิดที่มี ซึ่งฝ่ายกัมพูชาเองเป็นเจ้าภาพ การประชุมทบทวนอนุสัญญา ครั้งที่ 5 เมื่อวันที่ 25 -​29 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา ดังนั้นหากการตรวจสอบและพบหลัก ฐานที่เป็นที่ประจักษ์​ นอกเหนือจากจะเป็นที่ผิดหวังของรัฐภาคี ที่สำคัญก็จะถือว่า ผิดต่อภาคีอนุสัญญา ใครจะดำเนินการในเรื่องนี้ต่อไปไม่ว่าจะเป็นการประท้วงโดยตรงต่อกัมพูชาและทวิภาคีและมาตรการอื่นๆตามความเหมาะสม

โดยเฉพาะหากพบว่า เป็นการละเมิด MOU 2543​ และละเมิดอธิปไตย แต่ว่าไทยเคารพกฎหมายระหว่างประเทศ ยืนยันจุดยืนที่จะเจรจาทวิภาคี เพื่อแก้ไขสถานการณ์ความตึงเครียดในเวลานี้ ผ่านกลไกที่มีอยู่ โดยเฉพาะ JBC RBC และ GBC ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศจะมีหนังสืออย่างเป็นทางการ ไปถึงฝ่ายกัมพูชา เพื่อประชุม JBC สมัยพิเศษ ที่ฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพในช่วงเดือนกันยายนที่กรุงเทพฯ ตามที่ได้ตกลงกันไว้แล้ว.-315.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

ตรึงกำลังเข้ม-รถจีโน่เข้าประจำการชายแดนสระแก้ว

สระแก้ว 20 ก.ย. – เจ้าหน้าที่ตรึงกำลังเข้มบ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง จ.สระแก้ว นำรถจีโน่เข้าประจำการชายแดน เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ ขณะที่น้ำใจชาวไทยหลั่งไหลสู่เจ้าหน้าที่ไม่ขาดสาย ส่วนที่จันทบุรี วางลวดหนามหีบเพลงตามจุดล่อแหลม.-สำนักข่าวไทย

Delayed flights at Brussels airport after cyberattack disrupts operations

เหตุโจมตีไซเบอร์ป่วนสนามบินในยุโรป

ลอนดอน 20 ก.ย. – สนามบินในยุโรปหลายแห่งได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์โจมตีไซเบอร์ต่อระบบเช็กอินและการขึ้นเครื่อง ทำให้เที่ยวบินล่าช้าและถูกยกเลิกบางส่วน ขณะที่สหรัฐมีเหตุขัดข้องที่สนามบินในเมืองดัลลัส ท่าอากาศยานฮีทโธรว์ในกรุงลอนดอนของอังกฤษแจ้งเตือนเรื่องเที่ยวบินล่าช้า เนื่องจากบริษัทคอลลินส์ แอโรสเปซ (Collins Aerospace) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการระบบเช็คอินและขึ้นเครื่องให้กับสายการบินหลายสายในสนามบินหลายแห่งทั่วโลกกำลังประสบปัญหาทางเทคนิค ซึ่งอาจกระทบต่อผู้โดยสารขาออก   ขณะที่ท่าอากาศยานบรัสเซลส์ของเบลเยียมแถลงผ่านเว็บไซต์ว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อคืนวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น การโจมตีไซเบอร์ครั้งนี้ทำให้ระบบการเช็คอินอัตโนมัติไม่สามารถใช้งานได้ จึงต้องใช้การเช็คอินและขึ้นเครื่องด้วยระบบมือเท่านั้น ส่งผลกระทบครั้งใหญ่ต่อกำหนดตารางการบิน ทำให้เที่ยวบินล่าช้าและยกเลิก ขอให้ผู้โดยสารที่มีกำหนดเดินทางในวันเสาร์ตรวจสอบกับสายการบินก่อนเดินทางไปยังสนามบิน ด้านท่าอากาศยานเบอร์ลินของเยอรมนีแจ้งข้อความผ่านเว็บไซต์ว่า เนื่องจากบริษัทผู้ให้บริการระบบเกิดปัญหาขัดข้องทางเทคนิค ส่งผลให้การเช็คอินต้องใช้เวลานานขึ้น แต่ท่าอากาศยานแฟรงเฟิร์ต ซึ่งเป็นสนามบินใหญ่ที่สุดในเยอรมนีและท่าอากาศยานซูริคของสวิตเซอร์แลนด์ไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด อาร์ทีเอ็กซ์ คอร์ปอเรชัน ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของคอลลินส์ แอโรสเปซแจ้งว่า ทราบเรื่องซอฟต์แวร์ที่สนามบินบางแห่งมีปัญหาที่เกี่ยวกับไซเบอร์แล้ว แต่ไม่ได้ระบุชื่อสนามบินเหล่านั้น ส่วนที่สหรัฐองค์การบริหารการบินแห่งชาติหรือเอฟเอเอ (FAA) ได้สั่งระงับเที่ยวบินขาออกมากกว่า 1,800 เที่ยวที่สนามบิน 2 แห่งของเมืองดัลลัส ในรัฐเท็กซัสเมื่อวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น และต้องยกเลิกเที่ยวบินอีกหลายร้อยเที่ยว หลังจากระบบโทรคมนาคมเกิดปัญหาขัดข้อง เอฟเอเอระบุว่า ปัญหาการจราจรล่าช้าเกิดจากอุปกรณ์ของบริษัทโทรคมนาคมท้องถิ่นมีปัญหา ไม่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์ของเอฟเอเอ และเอฟเอเอได้ร่วมมือกับบริษัทโทรคมนาคมดังกล่าวเพื่อหาสาเหตุของปัญหาแล้ว.-816(814).-สำนักข่าวไทย

อพยพด่วน! พนังกั้นน้ำแตกทะลักท่วมเทศบาลเมืองหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์

เพชรบูรณ์ 20 ก.ย. – พนังกั้นน้ำหน้าสวนดงตาลแตก ทำให้น้ำทะลักท่วมเทศบาลเมืองหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ เจ้าหน้าที่เร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเตียงและอพยพประชาชนไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย มีรายงานว่า พนังกั้นน้ำหน้าสวนดงตาลแตก ฝั่งถนนพิทักษ์ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ทำให้น้ำทะลักท่วมเทศบาลเมืองหล่มสัก รอบที่ 2 กู้ชีพกู้ภัย รถพยาบาล ระดมกำลังเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเตียง และอพยพประชาชนไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย ขณะที่เจ้าหน้าที่ประกาศห้ามรถทุกชนิดผ่าน และให้ยกของขึ้นที่สูงโดยด่วน ส่วนอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการชลประทาน พร้อมทหาร เร่งวางแบริเออร์ กระสอบทรายบริเวณสวนสาธารณะดงตาล เพื่อชะลอมวลน้ำไม่ให้เข้าในพื้นที่.-สำนักข่าวไทย

“20 ชม.” แพทย์ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ผ่าตัดต่อมือเด็กสำเร็จ

เชียงใหม่ 20 ก.ย.- ทีมแพทย์ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ผ่าตัด 20 ชั่วโมง ต่อมือเด็กหญิงวัย 14 ปี ประสบความสำเร็จ หลังถูกฟันขาด เบื้องต้นยังต้องเฝ้าระวังใกล้ชิด เหตุการณ์ ขณะนายจายอ้ายหม่อง หรือ นายหม่อง อันธพาลเมียนมาและพวก ถือมีดสปาต้า วิ่งเข้าไล่ฟันกลุ่มผู้เสียหาย จนได้รับบาดเจ็บ 3 คน หนึ่งในนั้น คือ ด.ญ.อายุ 14 ปี ซึ่งยกแขนขึ้นบัง ทำให้ถูกนายหม่องฟันจนข้อมือขาด เหตุเกิดเมื่อกลางดึกของวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา บริเวณร้านซักรีดแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.หนองป่าครั่ง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ต่อมาตำรวจตามจับคนก่อเหตุได้ทั้งหมด 15 ราย ล่าสุด รศ.นพ.นเรนทร์ โชติรสนิรมิต คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ออกแถลงการณ์ ระบุได้รับผู้ป่วยเด็กหญิงอายุ 14 ปี ซึ่งถูกทำร้ายด้วยอาวุธมีดจนมือขวาขาดระดับข้อมือ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 […]