กรุงเทพฯ 23 มิ.ย. – สงครามตะวันออกกลาง ฉุดหุ้นไทยร่วง 11 จุด เงินบาทอ่อนค่าเล็กน้อย ลุ้นประชุม กนง.วันที่ 25 มิ.ย. อาจลดดอกเบี้ยนโยบาย จากปัจจัยความขัดแย้งตะวันออกกลาง-การเมืองในประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะหุ้นไทยวันนี้ เปิดตลาดภาคเช้าวันที่ 23 มิ.ย.68 ที่ระดับ 1,059.37 จุด ลดลง 8.26 จุด โดยล่าสุดเวลา 11.50 น. ดัชนีหุ้นไทยอยู่ที่ 1,063.54 ลดลง 4.09 จุด หรือ 0.38 % มูลค่าซื้อขาย 15,932.67 ล้านบาท ดัชนีสูงสุด 1,062.54 จุด ต่ำสุด 1,053.79 จุด ลดลง 11.35 จุด
นายพิชัย เลิศสุพงษ์กิจ กก.ผจก.สายธุรกิจหลักทรัพย์ บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ ให้สัมภาษณ์ในรายการนาทีลงทุน ช่อง 9 MCOT HD ระบุว่าสถานการณ์สงครามตะวันออกกลางต่อเศรษฐกิจไทยว่า ก่อนหน้านี้ไทยซึมซับข่าวลบทั้งสถานการเมืองในประเทศ รวมถึงสถานการณ์ในตะวันออกกลางไปในระดับหนึ่งแล้ว โดยวันนี้พบว่าทองคำปรับลดลงเล็กน้อย 0.2% ส่วนเงินบาทที่อ่อนค่าลงไปแตะ 33 บาท/ดอลลาร์ ราคาน้ำมัน เปิดตลาดแตะ 80 ดอลลาร์/ออนซ์ ก่อนย่อลงเล็กน้อย แสดงให้เห็นว่าตลาดซึมซับความเสี่ยงของสงครามที่จะขยายวงไปในระดับหนึ่งแล้ว และส่วนใหญ่ประเมินแล้วว่าผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยจะผ่านต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น กำลังซื้อภายในประเทศชะลอลง รวมถึงสร้างแรงกดดันดุลการค้า เนื่องจากประเทศไทย นำเข้าน้ำมันสุทธิ 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ตาม มองว่า ยังเร็วเกินไปที่ดัชนีจะหลุดกรอบ 1,000 จุด โดยให้กรอบล่างที่ 1,030 – 1,050 จุด
ทั้งนี้ มองว่าตลาดยังให้น้ำหนักกับปัจจัยภายนอกประเทศ มากกว่าปัจจัยการเมืองที่เป็นปัจจัยภายในประเทศ แต่ประเมินว่า ทั้งสองปัจจัย มีโอกาสถึง 50% ที่จะส่งผลให้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมวันที่ 25 มิถุนายนนี้ ซึ่งจะช่วงพยุงตลาดโดยรวมได้
ขณะที่ค่าเงินบาท เปิดเช้านี้ ที่ระดับ 32.85 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลงเล็กน้อย” จากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่านับตั้งแต่ช่วงคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา เงินบาท ทยอยอ่อนค่าลงบ้าง ในลักษณะ Sideways Up (แกว่งตัวในกรอบ 32.71-32.90 บาทต่อดอลลาร์) โดยเงินบาทอ่อนค่าลงบ้าง ในช่วงเช้าของตลาดการเงินเอเชีย หลังตลาดรับรู้ผลกระทบจากการโจมตีทางอากาศต่อเป้าหมายโครงสร้างพื้นฐานนิวเคลียร์ของอิหร่านโดยสหรัฐฯ ผ่าน “Operation Midnight Hammer” ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงที่ทางการอิหร่านอาจตอบโต้สหรัฐฯ ด้วยการปิดช่องแคบฮอร์มุซ กระทบต่อโฟลว์น้ำมันตลาดโลก ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบพุ่งสูงขึ้นเกิน +2% ทว่า การอ่อนค่าของเงินบาทก็ถูกชะลอลงบ้าง ตามการรีบาวด์ขึ้นของราคาทองคำ ที่ได้รับอานิสงส์จากสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง
สำหรับสัปดาห์นี้ รอลุ้นผลการประชุม กนง. และรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญจากฝั่งสหรัฐฯ ยุโรป และญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางอย่างใกล้ชิด มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 32.50-33.20 บาท/ดอลลาร์ ส่วนกรอบเงินบาทในช่วง 24 ชั่วงโมงข้างหน้า คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.65-33.00 บาท/ดอลลาร์ .-516-สำนักข่าวไทย