กมธ.ทหาร สว. ขอเปิดอภิปราย ให้รัฐบาลแจงปมชายแดนไทย-กัมพูชา

รัฐสภา 16 มิ.ย.-กมธ.การทหาร สว. ขอเปิดอภิปรายทั่วไป ม.153 ให้รัฐบาลแจงข้อเท็จจริง ปมชายแดนไทย-กัมพูชา “เกรียงไกร” ชี้รัฐบาลต้องยืนยัน ไม่ร่วมศาลโลก และต้องหนักแน่นต่อกลไกการพูดคุย

พลเอกสวัสดิ์ ทัศนา ประธานคณะกรรมาธิการการทหาร และความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา กล่าวถึงผลการประชุม JBC ในประเด็นสถานการณ์ ความขัดแย้ง บริเวณชายแดน ไทย-กัมพูชา ว่า จากที่ทราบผลการประชุมมองว่าไม่เป็นผลดีกับประเทศไทย ทำให้คณะกรรมาธิการการทหารฯจำเป็นต้องออกแถลงการณ์ เรื่องขอเปิดอภิปรายทั่วไป ของวุฒิสภา โดยไล่เรียงตั้งแต่เหตุการณ์กระทบกระทั่งตามแนวชายแดนไทย -กัมพูชา อำเภอน้ำยืนจังหวัดอุบลราชธานีเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ฝ่ายกัมพูชาในฐานะผู้กระทำที่ไร้ความจริงใจ และบ่อนทำลายประเทศไทยด้วยสารพัดวิธีเพื่อหวังครอบครองแผ่นดินไทยเป็นของตนเรื่อยมา และทางคณะกรรมการได้ออกแถลงการณ์ก่อนหน้านี้เพื่อประณามการกระทำของฝ่ายกัมพูชามาแล้ว 1 ฉบับ อีกทั้งยังได้มีการลงพื้นที่และจัดกิจกรรมถกแถลง


และล่าสุดวุฒิสภาได้ออกแถลงการณ์เพื่อเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าฝ่ายบริหารให้ดำเนินการ เรียกประชุมรัฐสภาเป็นการประชุมสมัยวิสามัญเพื่อให้ฝ่ายบริหารได้ แถลงข้อเท็จจริงทั้งหมดเกี่ยวกับ สถานการณ์ชายแดนไทย -กัมพูชาต่อประชาชนทั้งประเทศ รวมทั้งสาเหตุ ของปัญหาและแนวทางการแก้ปัญหาทั้งระยะสั้นและระยะยาวซึ่งต้องกระทำเป็นการด่วน แต่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีคำตอบจากทางรัฐบาลหรือสัญญาณขอความร่วมมือจากวุฒิสภา เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวแต่อย่างใด

ดังนั้นวุฒิสภา จึงขอใช้สิทธิ์ เปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อให้คณะรัฐมนตรีแถลงข้อเท็จจริงหรือชี้แจงปัญหาตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยมาตรา 153 ที่กำหนดให้สมาชิกวุฒิสภาจำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของวุฒิสภามีสิทธิ์เข้าชื่อขอเปิดอภิปรายทั่วไปในวุฒิสภา พื่อให้คณะรัฐมนตรีแถลงข้อเท็จจริงหรือชี้แจงปัญหาที่สำคัญเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินโดยไม่มีการลงมติ


ทั้งนี้เพื่อเปิดโอกาสให้สมาชิกวุฒิสภาได้เสนอแนวคิดและแนวทางในการคลี่คลายสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อให้รัฐบาลได้นำไปเป็นข้อพิจารณาประกอบการตัดสินใจโดยเร็วต่อไป ตามที่ผู้นำรัฐบาลเพิกเฉยไม่ได้ตอบโต้ฝ่ายกัมพูชาและไม่ได้กำหนดมาตรการแก้ไขปัญหาที่ชัดเจนทำให้การประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทยกัมพูชา ครั้งที่ 6 ล้มเหลวไม่เกิดประโยชน์ใดๆ กับฝ่ายไทย และฝ่ายกัมพูชายังฉวยโอกาส ออกแถลงการณ์ บิดเบือนข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏเป็นข่าว คือจะนำเรื่องพื้นที่พิพาท 4 จุดเข้าสู่การพิจารณาของศาลโลก และการใช้แผนที่ 1:200000 เพื่อกำหนดเขตแดน และเรื่องอื่นๆ ที่ฝ่ายกัมพูชาฉกฉวยโอกาส เช่นการเรียกร้องนานาชาติให้กดดันไทยยอมรับอำนาจศาลโลกการแถลงอย่างแข็งกร้าวไม่ยอมรับการประชุมทวิภาคีการกีดกันสินค้าและภาพยนตร์ไทยการเรียกแรงงานกัมพูชากลับประเทศการปลุกระดมว่าอาจ ถูกฝ่ายไทยกลั่นแกล้งทำร้าย ตลอดจนความอ่อนด้อย เกณฑ์การเมืองระหว่างประเทศของ ผู้นำรัฐบาลไทย ความล่าช้าของนโยบายที่ทำให้ การปฏิบัติของผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องไม่ทันเวลา ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ทำให้ประชาชนสิ้นศรัทธาในผู้นำรัฐบาล

ดังนั้น จากเหตุการณ์ต่างๆและสถานการณ์บ้านเมืองที่เป็นอยู่ในปัจจุบันการที่ผู้นำรัฐบาลคือนายกรัฐมนตรีขาดความน่าเชื่อถือ ส่งผลกระทบทางลบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อคณะรัฐมนตรีโดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีปัญหาแนวชายแดนไทยกัมพูชา ซึ่งกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทยแต่ปล่อยปละละเลย ให้นายกรัฐมนตรีและ คณะรัฐมนตรีดำเนินการแก้ไขเรื่องนี้ตามอำเภอใจ อาจทำให้อธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทยถูกรุกล้ำและยึดครองดังนั้นคณะกรรมาธิการทหารและความมั่นคงของรัฐวุฒิสภา จึงมีความเห็นว่าวุฒิสภาสมควรเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อให้คณะรัฐมนตรีแถลงข้อเท็จจริงหรือชี้แจงกรณีปัญหา ชายแดนไทย-กัมพูชา ให้เร็วที่สุด

“คณะกรรมาธิการตระหนักในบทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบต่ออธิปไตยความมั่นคงของชาติโดยจะทำหน้าที่ของคณะกรรมาธิการเพื่อประเทศชาติและประชาชนคนไทยให้ดีที่สุด แผ่นดินนี้ พ่อกูอยู่ ปู่กูตาย กูสุดอาย หากเสียที ไพรีกอง ด้วยความ เคารพและห่วงใย” พลเอกสวัสดิ์ กล่าว


ด้านพลเอกเกรียงไกร ศรีรักษ์รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 กล่าวว่า ผลจากการประชุม JBC ทั้ง 2 วัน ยังไม่ได้ข้อยุติเป็นเพียง เรื่องของการ พูดคุยของคณะกรรมการชายแดนไทยกัมพูชาเท่านั้นในเรื่องของการปักปันเขตแดน ไม่ได้พูดถึงกรณีพิพาทที่เกิดขึ้น และฝ่ายกัมพูชายังหยิบยกพื้นที่ทั้ง 4 ขึ้นศาลโลก ซึ่งรัฐบาล ต้องยืนยัน ว่าประเทศไทย จะไม่นำเรื่องนี้และไม่ยอมรับที่จะขึ้นศาลโลก

ส่วนของการนำแผนที่ 1:200000 ที่มีความละเอียดน้อยกว่า 1:50000 ที่เรายึดถืออยู่ 4 เท่า ดูพื้นที่ 1:200000 เป็นเอกสารที่ไม่ได้รับการรับรอง แต่ในส่วนที่เรายึดถือไว้ ได้เขียนรายละเอียดในเรื่องของการปักปันเขตแดนในเรื่องของสารปั่นน้ำเอาไว้ เพราะฉะนั้นทั้งสองเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ ที่รัฐบาลจะต้องยืนยัน และรัฐบาลจะต้องชี้แจง ให้กับประชาชน ทราบ เพราะปัจจุบันมีการบิดเบือน จนกระทั่งข่าวขณะนี้ประชาชนคนไทยตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก

และอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญคือมาตรการที่รัฐบาลมอบหมายให้กับฝ่ายทหารฝ่ายความมั่นคง หรือกองทัพบกในการประกาศ การดำเนินการใดๆที่จะตอบโต้ในเรื่องของการเปิดปิดด่านชายแดน เรื่องนี้ต้องกระชับเข้มงวดและให้อำนาจในส่วนของการปฏิบัติของฝ่ายความมั่นคงที่อยู่หน้าแนว อย่างทันท่วงทีไม่เช่นนั้นผลกระทบที่เกิดขึ้น ถ้าเราไม่เข้มงวด เราผ่อนปรน ฝ่ายกัมพูชาก็ไม่สนใจและมีมาตรการตอบโต้ รัฐบาลต้องมีความหนักแน่น ต่อการพูดคุยเพราะมีกลไกอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเราแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ด้วยดีมาตลอดเกมการเมืองต่างๆที่เกิดขึ้น ตนก็ขอให้คิดคำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติคิดคำนึงถึงอธิปไตย บูรณภาพเหนือดินแดนที่บรรพบุรุษของเราเอาเลือดเอาเนื้อเอาชีวิตเข้าแลกเอาไว้เราต้องปกปักรักษาถึงที่สุด

พลเอกเกรียงไกร ยังกล่าวถึง กรณีที่วุฒิสภาต้องการให้เปิดประชุมสมัยวิสามัญขึ้นมา แต่ทางรัฐบาลปฏิเสธมาและให้เหตุผลว่าไม่จำเป็น ว่า ถ้ารัฐบาลได้รับฟังสมาชิกรัฐสภาและมีโอกาสในการเสนอความคิดเห็นมีโอกาสในการท้วงติงนำข้อเสนอแนะข้อมูลต่างๆมาพูดคุยกันในสภาก็จะทำให้รัฐบาลได้ข้อมูลต่างๆอย่างรอบด้านและเก็บเกี่ยวข้อมูลเหล่านั้นเพื่อที่จะไปทำข้อตกลง และกำหนดแนวทางในการ แก้ไขข้อพิพาทที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา ทั้งระยะสั้นและระยะยาวเราสามารถกำหนดเป็นนโยบายให้หน่วยปฏิบัตินำไปสู่การปฏิบัติได้อย่างชัดเจน โดยรัฐบาลจะมี หลังพิงคือเสียงของสมาชิกรัฐสภาแต่เมื่อไม่สามารถเปิดประชุมสมัยวิสามัญของรัฐบาลได้ ในส่วนของวุฒิสภาจึงมีสมาชิกพร้อมใจกันขอเปิดอภิปรายทั่วไปกับคณะรัฐมนตรีขึ้นมา เพื่อให้คณะรัฐมนตรีและมีโอกาสมาชี้แจงข้อเท็จจริง เพื่อให้ประชาชนและสภาทราบ
สมาชิกวุฒิสภาก็ได้มีโอกาสในการแสดงความคิดเห็นและรัฐบาลก็จะได้นำไปสู่การตัดสินใจ

ส่วนกรณีที่กัมพูชาอ้างแผนที่ 1:200000 ฝ่ายไทยควรจะตอบโต้โดยการขอยกเลิก MOU 43 ได้หรือไม่ พลเอกเกรียงไกรกล่าวว่า ใน MOU 43 ก็ไม่ได้ยอมรับแทนที่ 1 :200,000 แสนอยู่แล้ว

เมื่อถามว่าไทยจะไม่เสียเปรียบในเรื่องนี้ใช่หรือไม่ พลเอกเกรียงไกรกล่าวว่า ถ้าเราดำเนินการไปตามกรอบที่ตนว่า เราจะไม่เสียเปรียบในเรื่องของการใช้แผนที่ และรวมถึงเรื่องของการปักปันเขตแดน

เมื่อถามถึงกระแสที่ว่านายกฯไทยหัวใจกัมพูชา พลเอกเกรียงไกร กล่าวว่าเรื่องนี้ประชาชนว่า ตนไม่ได้ว่า ซึ่งการที่ตนขอเปิดอภิปรายทั่วไป นายกรัฐมนตรีก็ จะได้ชี้แจง เรื่องพวกนี้ที่มีขึ้นมาต่างๆในโซเชียลด้วย ซึ่งรัฐบาลก็จะได้ตอบและบอกว่าที่ประชาชนพูดอย่างนั้นไม่จริง.-315.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

กัมพูชายืนยันไม่รับแผนที่ 1 : 50,000

15 มิ.ย. – กัมพูชาแถลงปฏิเสธแผนที่ 1 ต่อ 50,000 อย่างเด็ดขาด อ้างไทยเขียนขึ้นฝ่ายเดียว ยึดมั่นแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ตาม MOU43 เท่านั้น พร้อมยินดีร่วมมือกับไทยด้วยกลไกทวิภาคี ยกเว้น 4 จุดที่นำขึ้นศาลโลก เว็บไซต์ข่าว Khmer Times รายงานภายหลังเสร็จการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วม หรือ JBC ที่กรุงพนมเปญ ว่า ฝ่ายกัมพูชาแสดงจุดยืนปฏิเสธอย่างหนักแน่นที่จะรับรองแผนที่ที่ฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำใช้อ้างอิงอันเป็นที่มาหลักของปัญหาข้อพิพาทชายแดนที่เรื้อรังมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต ทั้งนี้ แผนที่ที่กัมพูชาอ้างว่าฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำไปสู่ปัญหาข้อพิพาทเขตแดนไม่สิ้นสุดนั้นคือแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 50,000 ซึ่งมีความละเอียดแม่นยำมากกว่าแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ที่กัมพูชายึดถือ Khmer Times อ้างตามเอกสารข่าวเผยแพร่จากสำนักเลขาธิการกิจการชายแดนเกี่ยวกับการประชุม JBC ที่จัดขึ้นระหว่างฝ่ายกัมพูชาและฝ่ายไทย ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายฬำ เจีย รัฐมนตรีประจำสำนักกิจการชายแดนและประธาน JBC ฝ่ายกัมพูชา และนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศของไทย และประธาน JBC ฝ่ายไทย […]

“ลูกหมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้หนี้พร้อมดอกเบี้ย

สำนักงานกฎหมายทนายคลายทุกข์ 13 มิ.ย. – “ลูกหมี รัศมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้ 2 ล้านบาท รวมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ด้าน “ทนายเดชา” เผยหาก 30 วัน ไม่ใช้หนี้ เตรียมยื่นเรื่องยึดทรัพย์-ฟ้องล้มละลาย นางสาวรัศมี ทองสิริไพรศรี หรือลูกหมี นางแบบชื่อดัง พร้อมนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา และนางสาวอำนวยพร มณีวรรณ์ หรือทนายกุ้ง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกรณีลูกหนี้ ซึ่งเป็นอดีตดารานักแสดงชื่อดัง ได้ทำการกู้ยืมเงิน พร้อมจ่ายเช็คเด้ง จำนวน 2 ล้านบาท โดยไม่ยอมชำระคืนตามที่ได้ตกลงทำสัญญากันไว้ ทนายเดชา กล่าวว่า คดีนี้คุณลูกหมีฟ้องลูกหนี้ในความผิดเกี่ยวกับเรื่องสัญญากู้ยืมเงิน โดยเงินต้นจำนวน 2 ล้านบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ศาลพิพากษาว่า สัญญากู้เงินต้น 2 ล้านบาท เป็นสัญญาที่ชอบด้วยกฎหมาย ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด […]

อิสราเอลและอิหร่านโจมตีตอบโต้กันในระลอกใหม่

เทลอาวีฟ 15 มิ.ย. – อิสราเอลและอิหร่านได้เปิดฉากโจมตีตอบโต้กันอีกครั้งในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน ซึ่งจุดชนวนความกังวลว่าจะเกิดความขัดแย้งในวงกว้างขึ้น หลังจากที่อิสราเอลได้ขยายการโจมตีอิหร่าน ด้วยการโจมตีแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก อิหร่านได้ยกเลิกการเจรจานิวเคลียร์ที่สหรัฐเคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่าเป็นหนทางเดียวที่จะหยุดยั้งการทิ้งระเบิดของอิสราเอลได้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลกล่าวว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นจนถึงขณะนี้ยังถือว่าไม่มีอะไรที่จะเทียบเคียงกับสิ่งที่อิหร่านจะได้เห็นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า การโจมตีของอิหร่านล่าสุดเริ่มต้นขึ้นไม่นานหลังเวลา 23:00 น. ของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกัล 03.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย เมื่อเสียงสัญญาณเตือนภัยทางอากาศดังขึ้นในนครเยรูซาเลมและเมืองไฮฟา ทำให้ผู้คนราวหนึ่งล้านคนต้องรีบเข้าไปในสถานที่หลบภัย หน่วยบริการพยาบาลกล่าวว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คนตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ซึ่งมีเด็กวัย 10 ขวบและหญิงสาววัยราว ๆ  20 ปีรวมอยู่ด้วย และมีผู้บาดเจ็บกว่า 140 คนจากการโจมตีที่เกิดขึ้นหลายครั้ง สื่ออิสราเอลรายงานว่ามีผู้สูญหายอย่างน้อย 35 คน หลังจากที่ขีปนาวุธพุ่งเป้าไปที่เมืองบัตยัม ซึ่งเป็นเมืองทางใต้ของกรุงเทลอาวีฟ โฆษกหน่วยบริการฉุกเฉินกล่าวว่าขีปนาวุธลูกหนึ่งพุ่งชนอาคาร 8 ชั้นในเมืองนั้น และในขณะที่ผู้คนจำนวนมากได้รับการช่วยเหลือ แต่ก็มีผู้เสียชีวิตด้วยเช่นกัน ขณะนี้่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีอาคารกี่หลังที่ถูกโจมตีเมื่อคืนนี้ จนถึงขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตในอิสราเอลล่าสุดอยู่ที่อย่างน้อย 9 ราย และบาดเจ็บกว่า 300 ราย นับตั้งแต่อิหร่านเปิดฉากโจมตีตอบโต้อิสราเอลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

พยาบาลเกษียณร้องไซเบอร์ ถูกโรแมนซ์สแกม สูญ 12 ล้าน

16 มิ.ย. – พยาบาลเกษียณ วัย 65 ปี ร้องตำรวจไซเบอร์ ถูกหลอกสร้างความสัมพันธ์เชิงชู้สาว หรือโรแมนซ์สแกม ชวนลงทุนคริปโต สูญเงิน 12 ล้าน นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พาพยาบาลเกษียณอายุราชการวัย 65 ปี ผู้เสียหาย ถูกมิจฉาชีพหลอกหลอกให้รัก (Romance Scam) และชักชวนให้ลงทุนในระบบคริปโตผ่านแพลตฟอร์มเทรดปลอม สูญเงินเกือบ 12 ล้านบาท เข้าร้องทุกข์กับตำรวจไซเบอร์ โดยมี พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 รับเรื่อง นางสาวอ้อ อายุ 65 ปี อดีตพยาบาลผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2567 มิจฉาชีพหรือ นางสาวพร (นามสมมติ) ทักข้อความมาหาตนผ่านแอพ TikTok และชวนพูดคุยในลักษณะเชิงชู้สาว และต้องการหาคู่ชีวิต และชวนคุยเรื่องส่วนตัวจนเตนเชื่อใจ จนผ่านไป 2 […]

“ประศาสน์” ยันไม่เคยรับรองแผนที่ 1 : 200000

ก.ต่างประเทศ 16 มิ.ย.-“ประศาสน์” ยันไม่เคยรับรองแผนที่ 1 : 200000 แฉ “กัมพูชา” ถูกสั่งห้ามคุยปม 4 พื้นที่พิพาทในวง JBC แต่เสียดาย ไม่มีในบันทึกการประชุม เพราะหารือในวงเล็ก ยัน JBC รอบนี้ราบรื่นที่สุด บอกแต่ก่อนทะเลาะกันเยอะกว่านี้ นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือ JBC แถลงชี้แจงผลการประชุม JBC ว่า ตนเข้าร่วมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 แล้ว จากระดับเจ้าหน้าที่ และครั้งนี้ไปประชุมในฐานะประธาน ถือว่าราบรื่นที่สุดเท่าที่เคยประชุมมา แต่ก่อนทะเลาะกันแรงกว่านี้เยอะ และครั้งนี้ ประสบความสำเร็จทางด้านเทคนิค พร้อมอธิบายภารกิจของ คณะกรรมการ JBC ว่า ประกอบไปด้วย 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นการตรวจหาหลักเขตที่ปักปันตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 ปี 2462-2463 ซึ่งมีการปักหลักเขตไปแล้ว 73 หลัก ตอนนี้เห็นชอบไปแล้ว 45 หลัก อีก […]

นายกฯ เผย กต.เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ลั่นไทยเคารพกรอบทวิภาคี

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – นายกฯ เผย กต. เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ทำความเข้าใจกรณีไทย-กัมพูชา ย้ำไทยให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ลั่นการเคลื่อนไหวนอกเหนือจากการเจรจาถือเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ ประกาศกร้าว จะไม่ยอมให้ใครมากลั่นแกล้ง ใส่ร้าย ข่มขู่ เราก็เป็นประเทศที่มีศักดิ์ศรีเช่นกัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ ก.ต่างประเทศ เรียกประชุมทูตต่างประเทศประจำประเทศไทยให้ได้รับทราบ ถ้าไม่เคารพกติกา ทั่วโลกก็จะไม่ยอมรับ ยอมรับไทยมีการสื่อสารที่เป็นสาธารณะน้อยมาก เพราะให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ทั้งไทยและกัมพูชาจะต้องยึดตามกรอบการเจรจาทวิภาคี การเคลื่อนไหวที่นอกเหนือจากการเจรจาถือว่าเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ นอกจากนี้ระหว่างความสัมพันธ์ของรัฐบาลกับกองทัพ มีการพูดคุยอย่างต่อเนื่อง ว่าท่าทีของไทยจะเป็นอย่างไร อะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ เพื่อรักษาอธิปไตยของไทย และยืนยันว่าไม่มีปัญหากันแน่นอน.-สำนักข่าวไทย

Hun Sen delivers speech in Cambodia's Senate

“ฮุน เซน” ขู่ให้ไทยเปิดด่านทั้งหมดภายในวันนี้

พนมเปญ 16 มิ.ย.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชาประกาศว่า ไทยต้องเปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดภายใน 24 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมด และห้ามสินค้าไทยทุกอย่างเข้ากัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายฮุน เซนยื่นคำขาดระหว่างกล่าวสุนทรพจน์พิเศษก่อนการประชุมวุฒิสภาในเช้าวันนี้ว่า เดิมกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมดในวันนี้ แต่รัฐบาลได้เลื่อนการตัดสินใจออกไป หลังจากที่เขาและนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีแพรทองธาร ชินวัตรของไทย หากไทยไม่เปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดอีกครั้งตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป กัมพูชาจะห้ามผักและผลไม้ผ่านจุดผ่านแดนทั้งหมดของกัมพูชา นอกจากนี้กัมพูชาจะยกเลิกมาตรการจำกัดการผ่านแดนกับไทยที่ใช้อยู่ในขณะนี้ หากทางการไทยกลับมาเปิดจุดผ่านแดนตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.ตามเดิม นายฮุน เซนประกาศชัดเจนว่า ทางการกัมพูชาจะไม่มีวันนั่งโต๊ะเจรจากับทางการไทยเรื่องการจำกัดการผ่านแดน เนื่องจากไทยเป็นฝ่ายเริ่มก่อน โดยได้ตั้งคำถามว่า กองทัพไทยเป็นฝ่ายจำกัดการผ่านแดน และเมื่อกัมพูชาทำเช่นเดียวกัน ก็ต้องการเจรจาเพื่อรักษาหน้าเช่นนั้นหรือ พร้อมกับสำทับว่า กัมพูชาจะไม่ปล่อยให้ชื่อเสียงประเทศตกอยู่ในความเสี่ยงเพราะความผิดพลาดของคนอื่น.-814.-สำนักข่าวไทย