“ภูมิใจไทย” จ่อฟ้องกลับ คกก.ไต่สวนชุดที่ 26 ปมฮั้ว สว.

พรรคภูมิใจ​ไทย​ 16​ มิ.ย.-โฆษก ภท. ย้ำไม่มีคุยปรับ ครม. ในที่ประชุมพรรค แค่กำชับให้ สส.เขตชายแดน ลงพื้นที่ช่วยประชาชน ยันจะฟ้องกลับคณะกรรมการไต่สวนชุดที่ 26 ฐานแจ้งความเท็จ ปมฮั้วเลือก สว. ขอปกป้องและรักษาเกียรติพรรคภูมิใจไทย

นางสาวแนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี ในฐานะโฆษกพรรคภูมิใจ แถลงภายหลังการประชุมกรรมการบริหารพรรค และ สส.พรรคภูมิใจไทยว่า การประชุมพรรคภูมิใจไทย ไม่ได้มีวาระพิเศษอะไร เพราะเป็นการประชุมพรรคประจำเดือน ในช่วงปิดสมัยการประชุมสภา คือการติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ของ สส.พรรคภูมิใจไทย ให้ไปดูแลช่วยเหลือประชาชนในเขตของตัวเอง และในพื้นที่อื่นๆ พื้นที่ใกล้เคียง


ประเด็นที่ 1 เรื่องความมั่นคง จุดยืนของพรรคภูมิใจไทยชัดเจนในการรักษาอธิปไตยของประเทศไทยเอาไว้ ตามที่หัวหน้าพรรคเคยแถลง ได้เน้นย้ำ สส. ที่อยู่ในพื้นที่หรือจังหวัดที่อยู่ติดกับชายแดน โดยเฉพาะ สส.โซนอีสานใต้ ที่ติดกับชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน ให้ทำความเข้าใจกับประชาชนหรือให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น เป็นการเสริมสิทธิ์ให้กับประชาชนในเรื่องของความปลอดภัย การทำหลุมหลบภัยตามหมู่บ้านต่างๆ และพรรคภูมิใจไทยยืนยันเสมอว่าเราให้กำลังใจทหารทุกนายที่กำลังปฎิบัติหน้าที่ในการรักษาอธิปไตยของชาติเอาไว้ และให้กำลังใจกับประชาชนบริเวณที่อยู่ใกล้เคียงหรือติดกับชายแดน
ประเด็นที่ 2 เราให้ สส. สมาชิกพรรค ใส่ใจเรื่องของภัยธรรมชาติ โรคระบาด ฝน ที่คาดการณ์ไว้แล้วว่าปีนี้จะมีเหตุการณ์น้ำท่วม พื้นที่ที่เคยประสบเหตุปัญหาน้ำท่วม ทางพรรคภูมิใจไทยมอบโจทย์ให้ สส. ทำความเข้าใจกับประชาชน ประสานงานด้านต่างๆ กับหน่วยงานของรัฐ เมื่อเกิดภัยธรรมชาติ ให้การช่วยเหลือกับประชาชนให้ไวที่สุด
ประเด็นที่ 3 ภัยเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้อง ให้ลงพื้นที่ชี้แจงประเด็นเรื่องโครงการการเปลี่ยนแปลงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ให้ประชาชนเข้าใจว่ารัฐบาลกำลังทำอยู่

ส่วนอีกหนึ่งประเด็นที่เป็นข่าวในขณะนี้ กรณีที่มีจดหมายเชิญในการรับทราบข้อกล่าวหาของ หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทยทุกคน พรรคภูมิใจไทยพร้อมชี้แจงและมั่นใจว่าไม่ได้กระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหา กรณีที่กรรมการการเลือกตั้ง โดยคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนส่วนกลางคณะที่ 26 ได้เชิญหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรครับทราบข้อกล่าวหาและชี้แจง แสดงพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการเลือกสมาชิกวุฒิสภา ทุกคนพร้อมให้ความร่วมมือชี้แจงข้อกล่าวหาตามที่ได้รับเชิญ “ขอปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เนื่องจากหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทย รวมถึงสมาชิกพรรค และสส.ทุกคน ไม่มีส่วนร่วมในการเลือก สว. ตามที่ถูกกล่าวหา” และหัวหน้าพรรคก็เคยกล่าวถึงประเด็นนี้ในการประชุมพรรคตั้งแต่ ปี 67 ว่าห้ามกรรมการบริหารพรรค และ สส. กระทำการใดๆ ที่ขัดกับ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เป็นการแสดงเจตนารมย์ของหัวหน้าพรรค และสมาชิกทุกคนได้ปฏิบัติตามการประกาศของหัวหน้าอย่างเคร่งครัด


ดังนั้น ข้อกล่าวหาที่ได้แจ้งมี 4 ประเด็น คือ 1.การเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเลือกสมาชิกระดับอำเภอ ระดับจังหวัด ระดับประเทศ 2.การจ่ายเงินให้เป็นค่าจ้าง จ่ายเงินค่าใช้จ่ายในการเลือกสมาชิกวุฒิสภา 3.การทำโพยฮั้วเลือก สว. 4.การให้ผู้สมัครเลือกสมาชิกวุฒิสภาที่ผ่านการเลือกระดับจังหวัด เขียนใบลาออกล่วงหน้าโดยไม่ลงวันที่

ทั้งสี่ประเด็นนี้ทำให้การเลือกสมาชิกวุฒิสภาไม่สุจริต นี่คือข้อกล่าวหาที่คณะอนุสืบสวนไต่สวนได้แจ้งกับหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคทั้งหมด แจ้งข้อกล่าวหาการกระทำผิดเป็นการขัดหลักพื้นฐานในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นข้อหาที่รุนแรงและร้ายแรง

สำหรับพรรคภูมิใจไทย มีเจตนารมย์และอุดมการยึดมั่นในหลักการการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขมาโดยตลอด หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคทุกคนที่ถูกกล่าวหาใช้สิทธิ์ตามกฏหมายเพื่อปกป้องและรักษาเกียรติของตนเอง


พรรคภูมิใจไทยได้ขอเรียนว่า หัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคภาคทุกท่านได้รับหนังสือแจ้งข้อกล่าวหาที่มีข้อความทุกตัวอักษรเหมือนกันทั้งหมด ซึ่งข้อสังเกตข้อกล่าวหาทุกคนเป็นการบรรยายความ ไม่มีรายละเอียด ไม่ระบุพฤติกรรม วันเวลาการกระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหา แตกต่างจากการแจ้งข้อกล่าวหาที่คณะกรรมการการเลือกตั้งเคยดำเนินการมาตลอด ในการเลือกตั้งทุกระดับที่ผ่านมา กกต. เวลาแจ้งข้อกล่าวหา แต่ละครั้งจะระบุถึงพฤติกรรมการกระทำความผิดตามข้อกล่าวหาอย่างชัดเจน ว่าบุคคลใดชื่อนามสกุล กระทำผิดอย่างไร วันเดือนปี สถานที่ แต่การแจ้งข้อกล่าวหาในครั้งนี้ไม่มีรายละเอียดและไม่มีพยานหลักฐานประกอบข้อกล่าวหา พรรคภูมิใจไทยมีข้อสังเกตว่าการแจ้งข้อกล่าวหาต่อหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคในครั้งนี้ มีเนื้อหาใกล้เคียงกับเนื้อหาที่ พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว สว.สำรอง และนายณฐพร โตประยูร เคยร้องเรียนต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ กกต. ศาลรัฐธรรมนูญ ป.ป.ช. ให้ข้อมูลแก่สื่อมวลชนหลายครั้งว่าได้รับข้อมูลจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งคณะกรรมการสืบสวนมีพนักงานของกรมสอบสวนคดีพิเศษ 3 คนร่วมอยู่ในคณะนี้ด้วย ประกอบกับการดำเนินการของพนักงานสอบสวนมีพฤติกรรมที่แปลกและแตกต่างจากมาตรฐานดำเนินการของ กกต.

นอกจากนี้ พรรคภูมิใจไทยได้ตั้งข้อสังเกตว่า การประชุมและการดำเนินสอบสวนไต่สวนของคณะที่ 26 ถูกชี้นำหรือครอบงำโดยพนักงานสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษใช่หรือไม่ สิ่งที่เกิดขึ้นกับหัวหน้าพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรค เป็นไปตามที่หัวหน้าพรรคได้ตอบข้อซักถามกับสื่อมวลชนว่าเกี่ยวข้องในเรื่องของการเมืองหรือไม่ เป็นไปตามแผนยุบพรรคภูมิใจไทย และสังเกตว่าการแจ้งข้อกล่าวหาครั้งนี้ที่กระทำผิดร่วมกัน มีการกระทำเป็นขบวนการ ทั้งบุคคลที่เปิดเผยตัวและบุคคลที่ยังเป็นทางลับ

“หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค จะขอใช้สิทธิ์ดำเนินการตามกฎหมายที่แจ้งความเท็จให้ถึงที่สุด เพื่อปกป้องสิทธิ์และรักษาเกียรติของพรรคภูมิใจไทย” โฆษกพรรรคภูมิใจไทยกล่าว

เมื่อถามว่า สส. ไม่ถามหัวหน้าพรรคเรื่องสถานการณ์การเมืองในการปรับ ครม. หรือไม่ โฆษกพรรคภูมิใจไทย เผยว่า ประเด็นนี้ไม่ได้คุยกัน พวกเราถือว่าหัวหน้าพรรคให้สัมภาษณ์และตอบสื่อมวลชนทุกครั้ง นายอนุทิน ยังแน่วแน่ในการทำงานและมั่นใจว่าการทำงานในฐานะรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ต่อประชาชน ประเด็นที่บอกว่าได้ไม่ได้คุยเรื่องการปรับ ครม. ไม่มี ขณะนี้ไม่น่าจะใช่ช่วงเวลาที่เหมาะในการพิจารณาเรื่องการปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรี เหตุการณ์ในช่วงนี้ของประเทศจะมีแค่เรื่องเศรษฐกิจ ภัยความมั่นคง ภัยธรรมชาติ ภัยโรคระบาด และภัยเศรษฐกิจ การปรับเปลี่ยนครั้งนี้เหมือนเป็นการตั้งหัวขบวนใหม่ เหมือนนับหนึ่งใหม่ ต้องมองอีกมุมว่าประชาชนรอไม่ไหวที่จะให้ใครนับหนึ่งใหม่และเริ่มทำงานใหม่

เมื่อถามว่าโฆษกพรรคภูมิใจไทย มีชื่อในการถูกเรียกครั้งนี้หรือไม่ นางสาวแนน เผยว่า กระบวนการในการแจ้งข้อกล่าวหาของหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทย เรามองว่าเป็นเกณฑ์การเมืองเพื่อจ้องยุบพรรคภูมิใจไทย และที่ถามว่ามีชื่อของตนปรากฏแทบทุกสื่อว่าเป็นหนึ่งในหลายๆ คนที่ถูกเรียกล็อตที่ 7 ขอยืนยันว่าตนไม่โดนเรียก ไม่มีหมายเรียก เนื้อหาในการเชิญรับทราบข้อกล่าวหาของหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคทั้งหมดเป็นเนื้อหาเดียวกัน ข้อหาเดียวกัน ตัวอักษรเหมือนกันเพียงแค่ชื่อและตำแหน่งของแต่ละคนที่โดน ทำให้มองอีกมุมว่า ตำแหน่งโฆษกพรรคภูมิใจไทยไม่ได้อยู่ในคณะกรรมการบริหารพรรค รอบนี้เล็งไปที่กรรมการบริหารพรรคอย่างเดียว

“เป็นประเด็นที่น่ามองว่า ความละเอียดรอบคอบที่จะเชิญหัวหน้าและคณะกรรมการบริหารพรรคทั้งหมดไปรับทราบข้อกล่าวหา แต่เอกสารของหลายคนไม่สมบูรณ์ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เรายืนยันว่าเราจะใช้สิทธิ์เพื่อปกป้องและรักษาเกียรติของทุกคนและพรรคภูมิใจไทย“ โฆษกพรรคภูมิใจไทยกล่าว.-319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ว่าฯ สงขลา จัดคิวนายอำเภอรับ-ส่ง “เดชอิศม์” ทุกสัปดาห์

กทม. 18 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สงขลา ทำหนังสือด่วน จัดคิวนายอำเภอ เวียนต้อนรับ-ส่ง “เดชอิศม์” สนามบินหาดใหญ่ ทุกสัปดาห์ นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ทำหนังสือด่วนที่สุด ที่ สข 0017.3/17839 เรื่อง ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวก นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เรียน นายอำเภอเมืองสงขลา ด้วยจังหวัดสงขลาได้รับแจ้งว่า นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย มีกำหนดเดินทางมาราชการในพื้นที่จังหวัดสงขลา เพื่อตรวจราชการสำคัญตามนโยบายรัฐบาล และมีกำหนดเดินทางกลับไปปฏิบัติราชการ ณ กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 18 สิงหาคม 2568 โดยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD 3103 เวลา 08.25-09.50 น. เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จังหวัดสงขลาจึงขอให้ท่านดำเนินการ ดังนี้ 1. เชิญนายอำเภอเมืองสงขลา ร่วมส่งนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ณ ห้องรับรอง ท่าอากาศยานหาดใหญ่ […]

ดราม่า “ไข่เจียวปู 4,000” ถึงหูพาณิชย์

กรุงเทพฯ​ 18 ส.ค.​-“จตุพร” สั่งกรมการค้าภายในตรวจสอบประเด็น​ดราม่า​ “ไข่​เจียวปู” ร้าน​ Michelin Guide สูงถึง​จานละ 4,000 บาท​ จาก​ที่​แจ้งราคาในเมนู​ 1,500​ บาท ย้ำ​ไม่ตรงปกไม่ได้ กรณี “พีชชี่” ยูทูบเบอร์ชื่อดัง โพสต์เล่าประสบการณ์สั่งไข่เจียวปูร้านดังราคาเมนู 1,500 บาท แต่ถูกเก็บจริง 4,000 บาท กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ ล่าสุด นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า จะมอบหมายให้กรมการค้าภายใน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ขณะนี้​ยังไม่ได้รับรายละเอียด​ แต่โดยหลักการแล้ว ราคาที่เรียกเก็บจากผู้บริโภคต้องตรงกับราคาที่ระบุในเมนู หาก “ไม่ตรงปก” จะบั่นทอนความเชื่อมั่นทางการค้า “การค้าขายจะยั่งยืนได้ต้องอาศัยความไว้เนื้อเชื่อใจ หากผู้บริโภครู้สึกว่า​ ราคาไม่ตรงกับที่เห็นในเมนู ย่อมเสียความรู้สึก” นายจตุพรกล่าว เรื่องนี้เริ่มจาก “พีชชี่” โพสต์ผ่าน X เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ระบุว่าไปทานไข่เจียวปู ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยเพียงไม่กี่แห่งที่ได้รับการบรรจุใน Michelin Guide โดยเมนูระบุราคา 1,500 […]

“บิ๊กต่าย” ถกบอร์ดกลั่นกรอง เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร.

กรุงเทพฯ 17 ส.ค. – ผบ.ตร. นั่งหัวโต๊ะประชุมกลั่นกรองแต่งตั้งนายพลสีกากี เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร. ที่ห้องประชุม 2 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ ตร. หรือ “บอร์ดกลั่นกรอง” พิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรอง ผบ.ตร.-ผบก. โดยมี พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.นิรันดร เหลื่อมศรี รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. และ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.สกพ. และเลขานุการ เข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ […]

เสียงเรียกแห่งความอร่อย…ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วโบราณเชียงใหม่

เชียงใหม่ 17 ส.ค. – โดดเด่นไม่เหมือนใคร “ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วสูตรโบราณ” ของอาแปะตี๋อ้วน ที่แต่งกายแบบล้านนาโบราณ เดินหาบขายตามตลาดและย่านชุมชนใน จ.เชียงใหม่ มานานกว่า 10 ปีแล้ว โดยใช้การตีกังสดาล หรือระฆังวงเดือน เรียกลูกค้า สะดุดตาผู้พบเห็น หลายคนติดใจในรสชาติและราคาที่ย่อมเยา จนมีลูกค้ามากมาย .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

หลักฐานชัด! ทหารกัมพูชาลอบวางทุ่น PMN-2 ภูมะเขือ

19 ส.ค.- กองทัพเรือพบหลักฐานสำคัญ ยืนยันทหารกัมพูชาลักลอบใช้ทุ่นระเบิด PMN-2 บริเวณภูมะเขือ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ชุดเก็บกู้กวาดล้างที่ 1 หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมกองทัพเรือ (นปท.ทร.) ซึ่งสนับสนุนการปฏิบัติงานเก็บกู้และกวาดล้างทุ่นระเบิดในพื้นที่ภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ ร้อย ร.132 พัน.13 (ฐานเหนือเมฆ) ตรวจพบโทรศัพท์มือถือของทหารกัมพูชาที่ทิ้งไว้ในพื้นที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบภายในเครื่อง พบคลิปวิดีโอและภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ทหารกัมพูชากำลังถือทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 พร้อมทั้งมีการบันทึกเสียงเป็นภาษาเขมร คาดว่าเป็นการสาธิตวิธีการใช้งาน ก่อนนำไปลักลอบฝังในพื้นที่ชายแดนไทย หลักฐานจากโทรศัพท์ยังระบุวันเวลาที่ถ่ายภาพและวิดีโอไว้อย่างชัดเจน จึงนับเป็นพยานหลักฐานสำคัญที่ยืนยันพฤติกรรมการละเมิดข้อตกลง และการใช้ทุ่นระเบิด ซึ่งขัดต่ออนุสัญญาระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ นปท.ทร. ได้แสดงถึงความรอบคอบและไหวพริบในการตรวจสอบหลักฐานทันที ก่อนส่งมอบให้หน่วยกองทัพบกในพื้นที่ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป. – สำนักข่าวไทย

“มทภ.2” ชี้เขมรไว้ใจไม่ได้-ชายแดนยัง 50-50 หากปะทะพร้อมสู้

วปอ. 19 ส.ค.- “แม่ทัพภาค 2” ลั่นกลางวง วปอ. เหตุชายแดนยัง 50-50 ชี้ ‘เขมร’ ไว้ใจไม่ได้ หากปะทะพร้อมสู้ เตรียมคุย ‘อาร์บีซี’ ปลาย ส.ค.นี้ หวังคุยกันเข้าใจ ยึดผลประโยชน์ชาติ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวภายหลังพิธีมอบความช่วยเหลือทหารที่บาดเจ็บ รวมทั้งเสริมสร้างความมั่นคงของฐานที่มั่นในการปกป้องอธิปไตย จากเหตุการณ์ปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า รู้สึกชื่นชมและดีใจที่ประเทศชาติเราเป็นอย่างนี้ คนไทยไม่ทิ้งกัน เหตุการณ์ตลอดแนวชายแดนเกือบ 1,000 กิโลเมตร มีหลายเหตุการณ์ ลูกหลานทหารพยายามทำให้ดีที่สุด ทั้งนี้ การสูญเสียพวกเราป้องกันอย่างเข้มงวดทุกระดับชั้น แต่การเข้าตีบางอย่างเราเป็นฝ่ายรุกอาจมีเหตุที่พวกเราบาดเจ็บบ้าง “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยทหารทุกนายที่ได้รับผลกระทบ การปฏิบัติด้านยุทธการครั้งนี้ พระองค์ทรงรับเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ทั้งหมด” แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวอีกว่า ขอขอบคุณสิ่งของที่มอบให้ในวันนี้ จะนำไปใช้กับน้องๆ ที่อยู่หน้าแนวตามวัตถุประสงค์ ที่ทุกท่านได้มอบให้โดยด่วน ซึ่งบางครั้งงบประมาณราชการ กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก รัฐบาล ได้มอบให้เพียงพอ แต่บางรายการนั้นเร่งด่วน รอการจัดหาตามช่วงเวลาไม่ทัน […]

ผู้ว่าฯ สงขลา ตั้งกรรมการสอบปมหนังสือต้อนรับ “เดชอิศม์”

สงขลา 19 ส.ค. – ผู้ว่าฯ สงขลา สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีหนังสือราชการมีลายเซ็นผู้ว่าฯ ลงนามถึงนายอำเภอเมืองสงขลา ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวก “เดชอิศม์” ขีดเส้นแล้วเสร็จใน 30 วัน นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ออกคำสั่งจังหวัดสงขลา เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีสื่อโซเชียลมีการเผยแพร่ภาพหนังสือราชการที่มีลายเซ็นผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ลงนามถึงนายอำเภอเมืองสงขลา ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวกนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในการเดินทางมาราชการในพื้นที่ จนก่อให้เกิดความเสียหาย มีการตั้งข้อสังเกตวิพากษ์วิจารณ์ไปในทางเสื่อมเสีย ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของจังหวัดสงขลา คณะกรรมการดังกล่าวมีนายวิทยา จันทน์เสนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ประธานกรรมการฯ ให้ตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ก่อนรายงานผล พร้อมเสนอความเห็นต่อผู้สั่งแต่งตั้ง เพื่อพิจารณาสั่งการ และหากปรากฏมีการกระทำความผิดจริงให้ดำเนินการทั้งทางวินัยและทางอาญาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ครม.เคาะแต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กมหาดไทย 25 ตำแหน่ง

ทำเนียบ 19 ส.ค. – ครม.เห็นชอบแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงกระทรวงมหาดไทย 25 ตำแหน่ง ผู้ว่าฯ หนองบัวลำภู ผงาดขึ้นอธิบดี พช. โยก “สยาม” อธิบดี พช. นั่งพ่อเมืองปากน้ำ การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (19 ส.ค. 68) กระทรวงมหาดไทย (มท.) เสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำแหน่งบริหารระดับสูงให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 25 ตำแหน่ง ในที่ประชุมมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ เช่น ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป ยกเว้นนายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง เป็นต้นไป -สำนักข่าวไทย