“ภูมิใจไทย” จ่อฟ้องกลับ คกก.ไต่สวนชุดที่ 26 ปมฮั้ว สว.

พรรคภูมิใจ​ไทย​ 16​ มิ.ย.-โฆษก ภท. ย้ำไม่มีคุยปรับ ครม. ในที่ประชุมพรรค แค่กำชับให้ สส.เขตชายแดน ลงพื้นที่ช่วยประชาชน ยันจะฟ้องกลับคณะกรรมการไต่สวนชุดที่ 26 ฐานแจ้งความเท็จ ปมฮั้วเลือก สว. ขอปกป้องและรักษาเกียรติพรรคภูมิใจไทย

นางสาวแนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี ในฐานะโฆษกพรรคภูมิใจ แถลงภายหลังการประชุมกรรมการบริหารพรรค และ สส.พรรคภูมิใจไทยว่า การประชุมพรรคภูมิใจไทย ไม่ได้มีวาระพิเศษอะไร เพราะเป็นการประชุมพรรคประจำเดือน ในช่วงปิดสมัยการประชุมสภา คือการติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ของ สส.พรรคภูมิใจไทย ให้ไปดูแลช่วยเหลือประชาชนในเขตของตัวเอง และในพื้นที่อื่นๆ พื้นที่ใกล้เคียง


ประเด็นที่ 1 เรื่องความมั่นคง จุดยืนของพรรคภูมิใจไทยชัดเจนในการรักษาอธิปไตยของประเทศไทยเอาไว้ ตามที่หัวหน้าพรรคเคยแถลง ได้เน้นย้ำ สส. ที่อยู่ในพื้นที่หรือจังหวัดที่อยู่ติดกับชายแดน โดยเฉพาะ สส.โซนอีสานใต้ ที่ติดกับชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน ให้ทำความเข้าใจกับประชาชนหรือให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น เป็นการเสริมสิทธิ์ให้กับประชาชนในเรื่องของความปลอดภัย การทำหลุมหลบภัยตามหมู่บ้านต่างๆ และพรรคภูมิใจไทยยืนยันเสมอว่าเราให้กำลังใจทหารทุกนายที่กำลังปฎิบัติหน้าที่ในการรักษาอธิปไตยของชาติเอาไว้ และให้กำลังใจกับประชาชนบริเวณที่อยู่ใกล้เคียงหรือติดกับชายแดน
ประเด็นที่ 2 เราให้ สส. สมาชิกพรรค ใส่ใจเรื่องของภัยธรรมชาติ โรคระบาด ฝน ที่คาดการณ์ไว้แล้วว่าปีนี้จะมีเหตุการณ์น้ำท่วม พื้นที่ที่เคยประสบเหตุปัญหาน้ำท่วม ทางพรรคภูมิใจไทยมอบโจทย์ให้ สส. ทำความเข้าใจกับประชาชน ประสานงานด้านต่างๆ กับหน่วยงานของรัฐ เมื่อเกิดภัยธรรมชาติ ให้การช่วยเหลือกับประชาชนให้ไวที่สุด
ประเด็นที่ 3 ภัยเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้อง ให้ลงพื้นที่ชี้แจงประเด็นเรื่องโครงการการเปลี่ยนแปลงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ให้ประชาชนเข้าใจว่ารัฐบาลกำลังทำอยู่

ส่วนอีกหนึ่งประเด็นที่เป็นข่าวในขณะนี้ กรณีที่มีจดหมายเชิญในการรับทราบข้อกล่าวหาของ หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทยทุกคน พรรคภูมิใจไทยพร้อมชี้แจงและมั่นใจว่าไม่ได้กระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหา กรณีที่กรรมการการเลือกตั้ง โดยคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนส่วนกลางคณะที่ 26 ได้เชิญหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรครับทราบข้อกล่าวหาและชี้แจง แสดงพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการเลือกสมาชิกวุฒิสภา ทุกคนพร้อมให้ความร่วมมือชี้แจงข้อกล่าวหาตามที่ได้รับเชิญ “ขอปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เนื่องจากหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทย รวมถึงสมาชิกพรรค และสส.ทุกคน ไม่มีส่วนร่วมในการเลือก สว. ตามที่ถูกกล่าวหา” และหัวหน้าพรรคก็เคยกล่าวถึงประเด็นนี้ในการประชุมพรรคตั้งแต่ ปี 67 ว่าห้ามกรรมการบริหารพรรค และ สส. กระทำการใดๆ ที่ขัดกับ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เป็นการแสดงเจตนารมย์ของหัวหน้าพรรค และสมาชิกทุกคนได้ปฏิบัติตามการประกาศของหัวหน้าอย่างเคร่งครัด


ดังนั้น ข้อกล่าวหาที่ได้แจ้งมี 4 ประเด็น คือ 1.การเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเลือกสมาชิกระดับอำเภอ ระดับจังหวัด ระดับประเทศ 2.การจ่ายเงินให้เป็นค่าจ้าง จ่ายเงินค่าใช้จ่ายในการเลือกสมาชิกวุฒิสภา 3.การทำโพยฮั้วเลือก สว. 4.การให้ผู้สมัครเลือกสมาชิกวุฒิสภาที่ผ่านการเลือกระดับจังหวัด เขียนใบลาออกล่วงหน้าโดยไม่ลงวันที่

ทั้งสี่ประเด็นนี้ทำให้การเลือกสมาชิกวุฒิสภาไม่สุจริต นี่คือข้อกล่าวหาที่คณะอนุสืบสวนไต่สวนได้แจ้งกับหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคทั้งหมด แจ้งข้อกล่าวหาการกระทำผิดเป็นการขัดหลักพื้นฐานในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นข้อหาที่รุนแรงและร้ายแรง

สำหรับพรรคภูมิใจไทย มีเจตนารมย์และอุดมการยึดมั่นในหลักการการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขมาโดยตลอด หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคทุกคนที่ถูกกล่าวหาใช้สิทธิ์ตามกฏหมายเพื่อปกป้องและรักษาเกียรติของตนเอง


พรรคภูมิใจไทยได้ขอเรียนว่า หัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคภาคทุกท่านได้รับหนังสือแจ้งข้อกล่าวหาที่มีข้อความทุกตัวอักษรเหมือนกันทั้งหมด ซึ่งข้อสังเกตข้อกล่าวหาทุกคนเป็นการบรรยายความ ไม่มีรายละเอียด ไม่ระบุพฤติกรรม วันเวลาการกระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหา แตกต่างจากการแจ้งข้อกล่าวหาที่คณะกรรมการการเลือกตั้งเคยดำเนินการมาตลอด ในการเลือกตั้งทุกระดับที่ผ่านมา กกต. เวลาแจ้งข้อกล่าวหา แต่ละครั้งจะระบุถึงพฤติกรรมการกระทำความผิดตามข้อกล่าวหาอย่างชัดเจน ว่าบุคคลใดชื่อนามสกุล กระทำผิดอย่างไร วันเดือนปี สถานที่ แต่การแจ้งข้อกล่าวหาในครั้งนี้ไม่มีรายละเอียดและไม่มีพยานหลักฐานประกอบข้อกล่าวหา พรรคภูมิใจไทยมีข้อสังเกตว่าการแจ้งข้อกล่าวหาต่อหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคในครั้งนี้ มีเนื้อหาใกล้เคียงกับเนื้อหาที่ พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว สว.สำรอง และนายณฐพร โตประยูร เคยร้องเรียนต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ กกต. ศาลรัฐธรรมนูญ ป.ป.ช. ให้ข้อมูลแก่สื่อมวลชนหลายครั้งว่าได้รับข้อมูลจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งคณะกรรมการสืบสวนมีพนักงานของกรมสอบสวนคดีพิเศษ 3 คนร่วมอยู่ในคณะนี้ด้วย ประกอบกับการดำเนินการของพนักงานสอบสวนมีพฤติกรรมที่แปลกและแตกต่างจากมาตรฐานดำเนินการของ กกต.

นอกจากนี้ พรรคภูมิใจไทยได้ตั้งข้อสังเกตว่า การประชุมและการดำเนินสอบสวนไต่สวนของคณะที่ 26 ถูกชี้นำหรือครอบงำโดยพนักงานสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษใช่หรือไม่ สิ่งที่เกิดขึ้นกับหัวหน้าพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรค เป็นไปตามที่หัวหน้าพรรคได้ตอบข้อซักถามกับสื่อมวลชนว่าเกี่ยวข้องในเรื่องของการเมืองหรือไม่ เป็นไปตามแผนยุบพรรคภูมิใจไทย และสังเกตว่าการแจ้งข้อกล่าวหาครั้งนี้ที่กระทำผิดร่วมกัน มีการกระทำเป็นขบวนการ ทั้งบุคคลที่เปิดเผยตัวและบุคคลที่ยังเป็นทางลับ

“หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค จะขอใช้สิทธิ์ดำเนินการตามกฎหมายที่แจ้งความเท็จให้ถึงที่สุด เพื่อปกป้องสิทธิ์และรักษาเกียรติของพรรคภูมิใจไทย” โฆษกพรรรคภูมิใจไทยกล่าว

เมื่อถามว่า สส. ไม่ถามหัวหน้าพรรคเรื่องสถานการณ์การเมืองในการปรับ ครม. หรือไม่ โฆษกพรรคภูมิใจไทย เผยว่า ประเด็นนี้ไม่ได้คุยกัน พวกเราถือว่าหัวหน้าพรรคให้สัมภาษณ์และตอบสื่อมวลชนทุกครั้ง นายอนุทิน ยังแน่วแน่ในการทำงานและมั่นใจว่าการทำงานในฐานะรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ต่อประชาชน ประเด็นที่บอกว่าได้ไม่ได้คุยเรื่องการปรับ ครม. ไม่มี ขณะนี้ไม่น่าจะใช่ช่วงเวลาที่เหมาะในการพิจารณาเรื่องการปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรี เหตุการณ์ในช่วงนี้ของประเทศจะมีแค่เรื่องเศรษฐกิจ ภัยความมั่นคง ภัยธรรมชาติ ภัยโรคระบาด และภัยเศรษฐกิจ การปรับเปลี่ยนครั้งนี้เหมือนเป็นการตั้งหัวขบวนใหม่ เหมือนนับหนึ่งใหม่ ต้องมองอีกมุมว่าประชาชนรอไม่ไหวที่จะให้ใครนับหนึ่งใหม่และเริ่มทำงานใหม่

เมื่อถามว่าโฆษกพรรคภูมิใจไทย มีชื่อในการถูกเรียกครั้งนี้หรือไม่ นางสาวแนน เผยว่า กระบวนการในการแจ้งข้อกล่าวหาของหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทย เรามองว่าเป็นเกณฑ์การเมืองเพื่อจ้องยุบพรรคภูมิใจไทย และที่ถามว่ามีชื่อของตนปรากฏแทบทุกสื่อว่าเป็นหนึ่งในหลายๆ คนที่ถูกเรียกล็อตที่ 7 ขอยืนยันว่าตนไม่โดนเรียก ไม่มีหมายเรียก เนื้อหาในการเชิญรับทราบข้อกล่าวหาของหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคทั้งหมดเป็นเนื้อหาเดียวกัน ข้อหาเดียวกัน ตัวอักษรเหมือนกันเพียงแค่ชื่อและตำแหน่งของแต่ละคนที่โดน ทำให้มองอีกมุมว่า ตำแหน่งโฆษกพรรคภูมิใจไทยไม่ได้อยู่ในคณะกรรมการบริหารพรรค รอบนี้เล็งไปที่กรรมการบริหารพรรคอย่างเดียว

“เป็นประเด็นที่น่ามองว่า ความละเอียดรอบคอบที่จะเชิญหัวหน้าและคณะกรรมการบริหารพรรคทั้งหมดไปรับทราบข้อกล่าวหา แต่เอกสารของหลายคนไม่สมบูรณ์ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เรายืนยันว่าเราจะใช้สิทธิ์เพื่อปกป้องและรักษาเกียรติของทุกคนและพรรคภูมิใจไทย“ โฆษกพรรคภูมิใจไทยกล่าว.-319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทบ.จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพ 4 ทหารหาญ พร้อมปูนบำเหน็จ

กทม. 30 ก.ค.-กองทัพบกสดุดีทหารกล้า จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพ 4 ทหารหาญ พร้อมปูนบำเหน็จ ขอพระราชทานยศทหารเลื่อนขั้นอย่างสมเกียรติ วันที่ 30 ก.ค. 68 กองทัพบกร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรมและส่วนราชราชการพื้นที่ จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพทหารกล้าที่สละชีพเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ จากเหตุการณ์พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยใน พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้มอบให้คณะผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพบก ร่วมเป็นเกียรติในพิธีพระราชทานเพลิงศพของทหารหาญ จำนวน 4 นาย ดังนี้ 1.ส.อ.จิรายุ สิงห์อ้น ตำแหน่งพลลาดตระเวน กองร้อยลาดตระเวนระยะไกลที่ 6 (ร้อย ลว.ไกล 6) กองพลทหารราบที่ 6 ซึ่งเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ (25 ก.ค.68) ณ วัดตลาดราชมงคล อ.จตุรพักตรพิมาน จ.ร้อยเอ็ด โดยมี พล.อ. ณัฐวุฒิ นาคะนคร รองผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานในพิธีพระราชเพลิงศพ โดยกองทัพบกได้ดำเนินการปูนบำเหน็จพิเศษ 7 ขั้น ขอพระราชทานยศทหารเป็นร้อยโท […]

ทบ.ยันไทยมีแผนพานานาชาติดูจุดเขมรถล่มเหมือนกัน

กทม. 30 ก.ค.-กองทัพบก ยันไทยมีแผนพานานาชาติดูจุดเขมรถล่มเหมือนกัน ประชาคมโลกต้องเห็นความเสียหาย ทั้งบ้านเรือน-โรงเรียน-โรงพยาบาล เร็วๆ นี้ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีฝ่ายกัมพูชานำคณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศ เข้าดูพื้นที่บริเวณจุดปะทะ บริเวณช่องอานม้า จ.อุบลราชธานีว่า จุดที่ฝ่ายกัมพูชานำคณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศลงไปดูพื้นที่ปฏิบัติการทางทหาร บริเวณจุดที่เคยมีการปะทะกันนั้น เป็นบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี จึงเห็นมีภาพปรากฏถึงความเสียหายที่เกิดจากการใช้อาวุธจากทั้งสองฝ่าย ซึ่งคงเป็นเรื่องปกติ เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ในบริบทของพื้นที่ทางยุทธการ และบริเวณนั้นเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายทางทหาร สำหรับฝ่ายไทยมีแผนจะจัดกิจกรรมในลักษณะดังกล่าวเช่นกัน โดยฝ่ายไทยจะไม่เน้นการสร้างภาพลวงแบบฉาบฉวย แต่จะเน้นสื่อสารเชิงคุณภาพ สิ่งที่จำเป็นจะต้องสื่อถึงประชาคมโลกคือ ความเสียหายต่อบ้านเรือน โรงเรียน โรงพยาบาล ที่ฝ่ายทหารกัมพูชาจงใจพุ่งเป้าโจมตีไปยังเป้าหมายเหล่านั้น จนมีพลเรือน ประชาชน เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ทั้งที่พื้นที่ดังกล่าวอยู่ลึกไกลเข้ามาภายในประเทศไทย และห่างจากพื้นที่สู้รบเข้ามาในไทยไกลมากถึง 10-30 กิโลเมตร พล.ต.วินธัย กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดอธิปไตยของไทย รวมถึงขัดต่อหลักปฏิบัติทางทหารตามกฎหมายสากล และหลักมนุษยธรรมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการเจตนาละเมิดอนุสัญญาระหว่างประเทศหลายฉบับ ที่ห้ามการโจมตีพื้นที่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการรบ กองทัพบกไทยขอยืนยันอีกครั้งว่า เราปฏิบัติการเฉพาะต่อเป้าหมายทางทหารเป็นหลักเท่านั้น และยึดมั่นในกติกาสากล โดยขอย้ำว่า ฝ่ายไทยไม่ได้รุกรานใคร แต่เรามีสิทธิชอบธรรมในการปกป้องประชาชนและผืนแผ่นดินของเรา.-313.-สำนักข่าวไทย

เปิดภาพโรงพยาบาลไทยเสียหายหนัก หลังถูกกัมพูชาโจมตีด้วยอาวุธหนัก

ทำเนียบ 30 ก.ค.-โฆษกรัฐบาล เปิดภาพโรงพยาบาลไทยเสียหายหนัก หลังถูกกัมพูชาโจมตีด้วยอาวุธหนัก พร้อมประณามกัมพูชาละเมิดมนุษยธรรมร้ายแรง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ประณามการกระทำของรัฐบาลและกองทัพกัมพูชาอย่างรุนแรง กรณีการใช้อาวุธโจมตีเป้าหมายที่เป็นสถานพยาบาลของไทยในหลายพื้นที่ ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักมนุษยธรรมขั้นพื้นฐานและเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างชัดเจน พร้อมกันนี้นายจิรายุ ยังเปิดภาพโรงพยาบาลบางส่วนที่ได้รับความเสียหาย ได้แก่ โรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) คำโปรย, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) โคก, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ซำเม็ง “ประเทศไทยขอเรียกร้องให้ประชาคมโลกจับตามองและประณามการกระทำดังกล่าว ซึ่งต่างจากประเทศไทยที่ยึดมั่นในหลักมนุษยธรรมอย่างเคร่งครัด โดยปฏิบัติการเฉพาะต่อเป้าหมายทางทหารเท่านั้น เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียแก่พลเรือ” โฆษกรัฐบาล ระบุ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า ข้อมูลล่าสุดจากกระทรวงสาธารณสุข ณ วันที่ 30 กรกฎาคม 2568 เวลา 10.00 น. พบว่า จากการโจมตีโดยไม่เลือกเป้าหมายของกัมพูชา ได้ส่งผลให้มีพลเรือนเสียชีวิตแล้ว 15 ราย ในพื้นที่จ.อุบลราชธานี และศรีสะเกษ บาดเจ็บสาหัส 12 […]

เหตุพลุระเบิด เสียชีวิตเพิ่มเป็น 10 คน

สุพรรณบุรี 30 ก.ค. – เหตุพลุระเบิด จ.สุพรรณบุรี พบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย ที่โรงพยาบาล รวมเสียชีวิต 10 ราย บาดเจ็บ 1 ราย สั่งการตั้งศูนย์ ศปก. ที่วัดโพธิ์ท่าทราย ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย คืบหน้าเหตุพลุระเบิดที่จังหวัดสุพรรณบุรี ล่าสุด พล.ต.ต.วัชรินทร์ ประสพดี ผู้บังคับการภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้มียอดผู้เสียชีวิต จำนวน 10 ราย เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 9 ราย และเสียชีวิตที่โรงพยาบาล 1 ราย และมีผู้บาดเจ็บ 1 ราย ขณะนี้ได้สั่งการตั้งศูนย์ ศปก. ที่วัดโพธิ์ท่าทราย ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมถึงประสานชุด EOD เข้าเก็บกู้ดินปืน เนื่องจากตรวจสอบพบหลุมขนาดใหญ่สีดำจำนวน 2 หลุม และดินปืนจำนวนหนึ่ง อีกทั้งยังพบร่างผู้เสียชีวิต ชิ้นส่วนจำนวนหนึ่งบริเวณที่เกิดเหตุ ส่วนข้อมูลการตรวจสอบ พบว่าบ้านหลังนี้มีการลักลอบผลิตพลุไล่นก.-สำนักข่าวไทย