“ประศาสน์” ยันไม่เคยรับรองแผนที่ 1 : 200000

ก.ต่างประเทศ 16 มิ.ย.-“ประศาสน์” ยันไม่เคยรับรองแผนที่ 1 : 200000 แฉ “กัมพูชา” ถูกสั่งห้ามคุยปม 4 พื้นที่พิพาทในวง JBC แต่เสียดาย ไม่มีในบันทึกการประชุม เพราะหารือในวงเล็ก ยัน JBC รอบนี้ราบรื่นที่สุด บอกแต่ก่อนทะเลาะกันเยอะกว่านี้

นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือ JBC แถลงชี้แจงผลการประชุม JBC ว่า ตนเข้าร่วมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 แล้ว จากระดับเจ้าหน้าที่ และครั้งนี้ไปประชุมในฐานะประธาน ถือว่าราบรื่นที่สุดเท่าที่เคยประชุมมา แต่ก่อนทะเลาะกันแรงกว่านี้เยอะ และครั้งนี้ ประสบความสำเร็จทางด้านเทคนิค พร้อมอธิบายภารกิจของ คณะกรรมการ JBC ว่า ประกอบไปด้วย 2 ส่วน


ส่วนแรกเป็นการตรวจหาหลักเขตที่ปักปันตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 ปี 2462-2463 ซึ่งมีการปักหลักเขตไปแล้ว 73 หลัก ตอนนี้เห็นชอบไปแล้ว 45 หลัก อีก 29 หลัก ยังเห็นต่างกัน

ส่วนที่สอง คือ การบินหาหลักฐานภาพถ่ายทางอากาศ ซึ่งเขาเสนอว่าต้องหาหลักเขตที่ปักไว้ ในสมัยรัชกาลที่ 6 แต่เราบอกว่า “ไม่พอ” จุดประสงค์ของเราไม่ต้องการให้ทำเหมือนกับมาเลเซีย แต่ต้องการให้เห็นเขตแดนที่ชัดเจนยิ่งขึ้น จะได้เป็นประโยชน์ต่อหน่วยปฏิบัติในพื้นที่ จึงได้มีการถ่ายภาพทางอากาศ


จากนั้น ทั้งสองฝ่ายก็มานั่งคุยกันว่า จะเดินสำรวจในแนวทางไหน เมื่อเห็นพ้องตรงกันก็ปักหลักเขตให้ถี่ขึ้น และทำแผนที่ฉบับใหม่

นายประศาสน์ กล่าวว่า ในการประชุมเมื่อวานนี้ เราได้เห็นชอบบันทึกการประชุมอนุกรรมธิการ ในชั้นเทคนิคเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเรื่องนี้คุยกันใช้เวลาไม่นาน แค่ 2 นาทีก็เสร็จแล้ว

นอกจากนี้ ยังมีการตกลงกันว่าจะใช้ เครื่องบินบินถ่ายภาพทางอากาศ โดยใช้เทคนิคการติดกล้อง เรียกว่า Lidar และยิงเลเซอร์ลงมา เป็นเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่มีความแม่นยำกว่าเดิม และได้มีการคุยในรายละเอียดว่า จะใช้ขนาดโดรนเท่าไหร่ บินสูงแค่ไหน ใช้ความถี่เท่าไหร่ และมีการคุยกันว่าใครจะเป็นคนออกค่าใช้จ่าย


“คงคุยต่อกันไปว่าใครเป็นคนทำใครเป็นคนจ่าย ซึ่งต้องจ่ายคนละครึ่งแน่ๆ เราทำกับลาวกับเมียนมาร์ ก็เคยทำร่วมกัน ไม่มีปัญหาอะไร แต่ทางกัมพูชาค่อนข้างเซนต์ซิทีฟหน่อย ว่าใครจะเป็นคนบิน” นายประศาสน์ กล่าว

นายประศาสน์ ย้ำว่า ขั้นตอนการประชุมเป็นไปด้วยความรวดเร็วมาก ซึ่งทางกัมพูชาได้สอบถามว่า ทำไมไม่ส่งเจ้าหน้าที่ไปสำรวจหลักเขต ตนก็ได้ชี้แจงว่า เห็นด้วยในหลักการที่จะส่งเจ้าหน้าที่ลงไป แต่ติดอยู่สองเรื่องคือ ยังไม่ได้ทำคู่มือให้เจ้าหน้าที่ และตาม TOR จะต้องมีเทคนิค Lidar ให้พร้อมก่อน จะให้ไปเดินไม่รู้เหนือรู้ใต้ ไปเดินดุ่มๆ แถวชายแดน เราก็ห่วงเจ้าหน้าที่ของเรา เพราะมีกับระเบิด ถึงจะเก็บไปเยอะแล้ว แต่เพื่อความปลอดภัยของทั้งสองฝ่าย อย่างไรก็ตาม กัมพูชาก็ได้ทักท้วงว่า ทำไมไม่ส่งเจ้าหน้าที่ ลงสำรวจพื้นที่ ตอนที่ 6 ช่วงปราสาทเขาพระวิหารจนถึงภาคตะวันออก ซึ่งประเด็นนี้ก็เถียงกันไปเถียงกันมา โดยตนก็ได้ชี้แจงไปว่าต้องทำภาพถ่ายทางอากาศก่อน
ตอนนั้นในปี 2556 เป็นพื้นที่ที่มีการยิงกัน ต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน

นายประศาสน์ อธิบายเพิ่มถึงการประชุมที่มีเนื้อหาละเอียดอ่อน โดยจะเป็นการประชุมกลุ่มเล็ก ซึ่งข่าววาระการประชุมที่มีหลุดออกมา คือวาระก่อนการประชุมกลุ่มเล็กของทั้ง 2 ฝ่าย พร้อมย้ำว่าการทำงานของคณะ JBC คือการทำให้เห็นเขตแดนอย่างชัดเจน โดยยกตัวอย่างของประเทศมาเลเซียที่ใช้เวลานานกว่า 12 ปีกับเขตแดน 556 กิโลเมตร โดยที่ไม่มีปัญหาของการเมืองเข้ามาแทรกแซง แต่กับไทยยังเรียกได้ว่ายังไม่ถึงขั้นตั้งไข่ ไม่รู้ว่าจะสำเร็จได้เมื่อไหร่ อาจจะนาน 15-20 ปีในด้านเทคนิค ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมือง

เมื่อถามว่าทำแมปปิ้ง มีการตกลงกันหรือไม่ไม่ว่าจะยึดแผนที่ 1 ต่อ 200,000 หรือ 1 ต่อ 50,000 นายประศาสน์ กล่าวว่า ขอยืนยันให้ชัดเจนเรื่องแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ที่เป็นข่าวว่าตนไปตกลง และพูดในที่ประชุม ยืนยันว่าไม่มีพูดเลย แต่จัดทำเขตแดนที่พูดถึงนี้ไม่เกี่ยวข้องกับแผนที่ 1 ต่อ 200,000 หรือ 1 ต่อ 50,000 ที่ต่างฝ่ายต่างทำกันเองเลย แต่เป็นแผนที่จากภาพทางอากาศที่ทำในอัตรา 1 ต่อ 50,000 ซึ่งสองฝ่ายจะต้องทำร่วมกัน เพื่อใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ ในส่วนของแผนที่ 1 ต่อ 50,000 ที่ไทยใช้ เป็นแผนที่ทางยุทธการ ซึ่งมีความเร็วในระดับหนึ่งแล้ว

เมื่อถามว่า หลังจากกัมพูชาได้มีการแถลงการณ์ออกมาแล้ว ทางไทยได้มีการติดต่อไปเจรจาเพื่อทำความเข้าใจหรือไม่ นายประศาสน์ กล่าวว่า ตนทำเฉพาะเรื่องทางเทคนิคเท่านั้น ส่วนเรื่องการแถลงคลาดเคลื่อน เป็นหน้าที่ของโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ที่จะแถลงชี้แจง ซึ่งเมื่อเช้าตนได้แจ้งว่า เพิ่งเปิดประตูให้เจรจากันได้ ดังนั้นจะเป็นการคุยแค่เฉพาะเทคนิคล้วนๆ เรื่องชวนทะเลาะไม่เอา เรื่องชวนทะเลาะ ปิดประตูคุยกันก็เคยมาแล้ว ตนเจอหนักกว่านี้มาแล้ว เมื่อวานถือว่าสมูทที่สุดแล้ว มีการอัดกันเบาๆ ในห้องประชุม ประมาณ 2 ชั่วโมง สำหรับตนคือเบามาก กว่าที่เคยเจอมาก่อนหน้านี้

เมื่อถามว่า กัมพูชาได้มีการแจ้งว่า จะยื่นเรื่อง 4 พื้นที่พิพาท ต่อศาลโลกในที่ประชุมหรือไม่ และในการประชุมครั้งหน้า กัมพูชายืนยันว่าจะไม่มีการพูดคุย 4 พื้นที่พิพาท ในกลไกทวีภาคี ดังนั้นในการพูดคุยในเดือนกันยายน ไทยจะเป็นผู้เสนอ กลับเข้าสู่ที่ประชุมเจบีซีได้หรือไม่ นายประศาสน์ กล่าวว่าเรื่องนี้อยู่เกินขอบข่ายที่ตนจะต้องพูด แต่ตนขอตอบเลยว่า นายกฯของเขา ได้โพสต์ข้อความก่อนวันประชุม ว่าไม่ให้พูดเรื่องนี้ในที่ประชุม เขาจึงยกเรื่องนี้ขึ้นมาในวงเล็ก เพื่อบอกว่าเขาจะไม่พูด ตนก็โอเครับทราบว่าเขาจะไม่พูด แต่บอกว่าเสียดาย แม้จะไม่พูดเรื่องเขตแดนเพราะต้องการเอาขึ้นศาลโลกก็เรื่องของท่าน แต่หนึ่งในนั้นเป็นจุดที่เกิดการปะทะกัน และอดีตเคยมีประธานไปคุยกันที่แนวชายแดน ไปดูให้เห็นกับตาและกำหนดมาตรการชั่วคราว มีการตีกรอบไม่ให้เข้าไปทำกิจกรรมใดๆ กำหนดความกว้างความยาวเท่าที่จำเป็น ไม่ให้เข้าไปใกล้กันจนเกิดการกระทบกระทั่ง แต่ตนขอว่าเราเคยมีหลักปฏิบัติชั่วคราวเพื่อป้องกันเจ้าหน้าที่ และชาวบ้านทะเลาะกัน ขอยกรื่องนี้มาพูดได้หรือไม่ แต่ก็ไม่ได้ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นการพูดในวงเล็ก จึงไม่มีอยู่ในรายงานการประชุมเลย แต่มีการคุยกันเกือบชั่วโมง แต่เขาได้รับคำสั่งชัดเจนว่าไม่ให้พูด ไม่ให้ยกขึ้นหารือ และเมื่อเขาเอาเรื่องในกลุ่มเล็กมาพูด ตนก็เอามาพูดได้บ้างแล้วกัน ในเรื่องที่คิดว่าไม่ ทำให้เกิดความเสียหาย ให้เห็นบรรยากาศ จริงๆ มันสมูท ไม่ได้งี่เง่าไปถูกเขาหลอกแบบสมูทนะ เพราะมีการอัดกันแรงพอสมควร แต่ยืนยันว่าแรงน้อยที่สุดแล้ว ตั้งแต่ตนเคยเจอมา

เมื่อถามว่า ในMOU 43 มีการบันทึกว่า การปักปันแนวเขตจะต้องยึดที่สันปันน้ำใช่หรือไม่ และแนวเขตในการปักปันแตกต่างแผนที่ 1 ต่อ 200,000 และ 1 ต่อ 50,000 อย่างไร นายประศาสน์ กล่าวว่า เรายึดจากสนธิสัญญาสยามฝรั่งเศส ปี 1904 และ 1907 รวมถึงแผนที่ ซึ่งเป็นผลการสำรวจปักปันในอดีต รวมถึงเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้อง ที่กฏหมายระหว่างประเทศให้การรับรอง เช่นรายงานข้าหลวง ที่ไปปั่นเขตแดน ทางกัมพูชานอกจากนี้ทางกัมพูชาเคยไปปักปันหลักไม้ไว้ 2 ครั้ง และมีการจัดทำภาพแผนผัง ที่หลายคนเรียกว่าบันทึกวาจา ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนเป็นหลักซีเมนต์ และทำบันทึกวาจาไว้

เมื่อถามว่าเมื่อกัมพูชาอ้างว่า แผนที่ 1 ต่อ 50,000 เป็นแผนที่ที่ไทยทำเพียงฝ่ายเดียว นายประศาสน์ ชี้แจงว่า แผนที่ 1 ต่อ 50,000 เป็นแผนที่ยุทธการ ที่แต่ละประเทศผลิตขึ้นมาเองไม่ว่าจะด้วยทางเทคโนโลยีหรือความร่วมมือต่างๆ ในส่วนของไทยในปี 2495 เราเคยทำมาแล้วที่โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยสหรัฐ เป็นผู้ทำให้กับ อินโดจีน ไทย ลาว กัมพูชา หลังจากนั้นแต่ละประเทศ ก็จะไปพัฒนาข้อมูลต่างๆ ซึ่งถือเป็นการทำฝ่ายเดียว เป็นการต่างคนต่างทำ ไม่มีผลผูกพัน แต่ต่อให้ทำร่วมกันก็ไม่มีผลผูกพันระหว่างประเทศ ไม่ใช่แผนที่ที่ทำโดยสนธิสัญญา.-315.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก-เจ้าคุณประสิทธิ์ สึกแล้ว

พิษณุโลก 16 ก.ค. – พระชั้นผู้ใหญ่ที่พัวพันสีกากอล์ฟยังทยอยสึกเพิ่ม ล่าสุด “เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก” แอบสึกแล้วที่วัดสว่างอารมณ์ จ.ตาก หลังมีข่าวลือสะพัดมาตั้งแต่เช้า ขณะที่ “เจ้าคุณประสิทธิ์” ถอดใจสึกแล้ว พระราชรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก เป็นพระชั้นผู้ใหญ่อีก 1 รูป ที่มีชื่อพัวพันกับสีกากอล์ฟ ซึ่งในช่วงเช้ามีข่าวลือว่าจะลาสิกาในวันนี้ ผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบตามวัดต่างๆ ในจังหวัดพิษณุโลก โดยเฉพาะที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร มีตำรวจนอกเครื่องแบบ และเจ้าหน้าที่ มาคอยเฝ้าดูแลตลอดเวลา กระทั่ง เวลา 12.00 น. เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ปรากฏตัวในชุดขาว คาดว่าไปลาสิกขาที่วัดสว่างอารมณ์ อำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก สำหรับพระราชรัตนสุธี มีตำแหน่งเป็นเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ผู้อำนวยการวิทยาลัยสงฆ์พุทธชินราช เป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่ของจังหวัดพิษณุโลกที่ได้รับความเคารพอย่างสูงรูปหนึ่ง เพราะมีบทบาทสำคัญและมีคุณูปการขับเคลื่อนงานคณะสงฆ์ให้รุ่งเรือง นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกมายืนยันเช่นกันว่า ขณะนี้อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลกได้ทำการลาสิกขาแล้ว และวันนี้เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ก็มารายงานตัวกับเจ้าคณะใหญ่หนกลางด้วยเช่นเดียวกัน กรณีเอกสารสำนักพุทธจังหวัดสมุทรสาครหายออกไปจากวัด ซึ่งขณะนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าเอกสารยังมีอยู่หรือไม่ และถ้าหากเอกสารหายไปจริงก็ถือว่าเป็นการผิดวินัย และเจ้าอาวาสบกพร่อง ต้องไปดูด้วยว่าสาเหตุที่หายเพราะอะไร เพราะเอกสารทางราชการมีการรับส่งเป็นระบบ […]

เปิดคำสารภาพ “สีกากอล์ฟ”

กทม. 16 ก.ค.-เปิดคำสารภาพ “สีกากอล์ฟ” ด้านอดีตพระมหาบุญเลิศ แฉถูกสีกากอล์ฟ กุเรื่องลวงไปบ้านพัก ซ้ำถูกเชิดเงิน 1 แสน เตรียมเข้าแจ้งความเอาผิดเพิ่ม พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีน.ส.วิลาวัลย์ หรือ สีกากอล์ฟ อายุ 35 ปี ว่า จากการสอบปากคำเมื่อวานที่ผ่านมา เจ้าตัวให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีเป็นอย่างมาก พร้อมให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี ซึ่งในวันพรุ่งนี้ทางพนักงานสอบสวน บก.ปปป. จะนำตัวส่งฝากขังยังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อฝากขังเป็นผัดแรก ด้านพ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม (รอง ผบก.ป.) กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบปากคำ น.ส.วิลาวัลย์ ในส่วนของคดีข่มขืนใจและรีดเอาเงินทิดแหล่ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ ว่า เบื้องต้น สีกากอล์ฟ ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี รวมถึงให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ซึ่งจากการสอบปากคำเบื้องต้นเจ้าตัวยังคงให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยยอมรับในข้อเท็จจริงว่าเคยมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพระผู้ใหญ่รูปต่างๆ จริง ส่วนกรณีที่ถูกกล่าวหาว่าข่มขู่รีดเอาเงิน และบังคับทิดแหล่ ให้ร่างหนังสือร้องเรียนเจ้าคุณอาชว์ อดีตเจ้าอาวาสวัดตรีฯ เรื่องการมีเพศสัมพันธ์กับหญิงสาว เจ้าตัวอ้างว่าไม่เป็นความจริง แต่ยอมรับว่าเป็นคนให้ทิดแหล่ร่างหนังสือดังกล่าวจริง เพียงแต่เป็นการไหว้วาน ไม่ได้เป็นการบังคับ […]

มทภ.2 เรียกร้องผู้นำเขมรขอโทษทหารไทยที่ถูกผลักอกล้ม

สุรินทร์ 16 ก.ค.-มทภ.2 สั่ง กกล.สุรนารี จัดระเบียบนักท่องเที่ยวปราสาทตาเมือนธม หารือ พล.ต.เนี๊ยะ ได้ข้อยุติ 3 ประการ เรียกร้องผู้นำกัมพูชาตำหนิหญิงเขมร และขอโทษทหารไทยที่ถูกผลักอกล้ม ลั่นไทยดำเนินคดีอดีตทหารพรานตามกฎหมายแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเกิดเหตุความวุ่นวาย ที่ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ จากกรณีที่ผู้หญิงชาวกัมพูชา เข้ามาด่าทอทหารไทย ในเขตพื้นที่ของไทยวานนี้(15 ก.ค.) ล่าสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งการให้มีการจัดระเบียบนักท่องเที่ยวที่ขึ้นมาเที่ยวปราสาทตาเหมือนธม เพื่อป้องกันเหตุการณ์ซ้ำรอย ป้องกันกลุ่มคนไม่หวังดี โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พ.อ.บุญเสริม บุญบำรุง รอง ผบ.กกล.สุรนารี ได้หารือร่วม พล.ต.เนี๊ยะ วงค์ ผบ.พลน้อย ร.42 เพื่อพบปะหารือ ณ ปราสาทตาเมือนธม โดยมีสรุปผลการพบปะดังนี้ 1.หากมีปัญหาจากนักท่องเที่ยวเกิดขึ้น หากเป็นนักท่องเที่ยวไทย ขอให้ฝ่ายกัมพูชาแจ้งกับฝ่ายไทยเพื่อนำนักท่องเที่ยวออกจากพื้นที่ เช่นเดียวกันหากนักท่องเที่ยวกัมพูชา ก่อปัญหา ขอให้ฝ่ายไทยแจ้ง ฝ่าย กัมพูชาเพื่อให้ฝ่ายกัมพูชา นำตัวนักท่องเที่ยวออกจากพื้นที่ 2.หากมีปัญหาในพื้นที่ การแก้ปัญหาให้ชุดประสานงานในพื้นที่ […]

“แพทองธาร” ยินดีมวยไทยบรรจุในกีฬาทหารโลก 2027

กระทรวงวัฒนธรรม 16 ก.ค.- “แพทองธาร” ยินดีความสำเร็จมวยไทยบรรจุในกีฬาทหารโลก 2027 อย่างเป็นทางการ ชี้ เป็นผลลัพธ์การทำงานอย่างมุ่งมั่นของคกก.ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ด้านกีฬา-กองทัพไทย-สมาคมส่งเสริมกีฬาทหาร (ประเทศไทย) ผลักดันสู่เวทีกีฬาสากล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่ายกระดับมวยไทยสู่เวทีโลกอีกขั้น ดิฉันขอแสดงความยินดีอย่างยิ่ง กับความสำเร็จล่าสุดของประเทศไทย — #มวยไทย ได้รับการบรรจุเป็นหนึ่งในชนิดกีฬาของการแข่งขัน CISM World Summer Games 2027 (กีฬาทหารโลก 2027) อย่างเป็นทางการแล้วค่ะ การแข่งขันกีฬาทหารโลก จัดโดย สภากีฬาทหารระหว่างประเทศ เป็นมหกรรมกีฬาระดับนานาชาติ ปัจจุบันมีประเทศในสมาชิก 141 ถือเป็นเวทีสำคัญที่ทั่วโลกให้การยอมรับ ประเทศไทยเพิ่งเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน 1st CISM Military Muaythai Challenge เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ถือเป็นก้าวแรกของการเปิดเวทีระหว่างประเทศให้มวยไทยเข้าสู่การแข่งขันของกองทัพนานาชาติ การบรรจุมวยไทยในกีฬาทหารโลกครั้งนี้ ถือเป็นความสำเร็จสำคัญของประเทศไทย และเป็นผลลัพธ์จากการทำงานอย่างมุ่งมั่นของคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรม Soft Power ด้านกีฬา ร่วมกับกองทัพไทย และสมาคมส่งเสริมกีฬาทหาร (ประเทศไทย) ที่ผลักดันให้ “มวยไทย” […]