โฆษก กต. ชี้เพื่อนบ้านที่ดี ต้องไม่ยื่นคำขู่

ก.ต่างประเทศ 16 มิ.ย.- กต.แถลงผลประชุม JBC ผิดหวังกัมพูชาเมินกลไกทวิภาคี “นิกรเดช” ยันเตรียมรับมือไว้แล้ว ชี้เพื่อนบ้านที่ดี ต้องไม่ยื่นคำขู่ บอกไทยมีสติรอบคอบ เน้นตอบโต้ระดับรัฐบาล ไม่ใช้ความสัมพันธ์ระดับประเทศมาเป็นประเด็นการเมือง เจรจาด้วยความจริงใจ-สุจริตใจ ขณะ JBC ครั้งหน้า กัมพูชาตอบรับมาแล้ว ก.ย.นี้

กระทรวงการต่างประเทศ จัดแถลงข่าวสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ภายหลังการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ระหว่างวันที่ 14-15 มิ.ย.68 นำโดยนายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการ JBC ฝ่ายไทย และนายเบจมินทร์ สุกาญจนัทจที อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย


นายนิกรเดช เปิดเผยว่าตามที่ได้ทราบแล้วว่าเมื่อคืนวานนี้ (15 มิ.ย.68) กระทรวงการต่างประเทศได้ออกแถลงข่าวเรื่องผลการประชุม JBC สะท้อนท่าทีว่าไทยที่ชัดเจนเรื่องการปกป้องผลประโยชน์ของชาติ และกลไกทวิภาคีตามที่รัฐบาลไทยได้แถลงยืนยันมาโดยตลอดว่า ไทยยึดมั่นในการใช้กลไกทวิภาคีเพื่อแก้ไขปัญหาเขตแดนด้วยความจริงใจและสุจริตใจ รวมถึงการเข้าร่วมประชุม JBC ที่ผ่านมาที่ไทยเข้าร่วมด้วยความตั้งใจจริงและความสุจริตใจที่จะเห็นผลลัพธ์เป็นประโยชน์กับทั้งสองฝ่าย

นายนิกรเดช กล่าวว่า วันนี้เห็นเราว่าฝ่ายกัมพูชาไม่ได้ตอบสนอง แต่ยังคงเลือกที่จะเสนอพื้นที่ 4 จุด ได้แก่ ช่องบก ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด และปราสาทตาควาย ต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ซึ่งในการเจรจาร่างระเบียบวาระการประชุม ฝ่ายกัมพูชาเลือกที่จะไม่หารือกรณีพื้นที่ 4 จุดในการประชุมครั้งนี้ ฝ่ายไทยจึงแสดงความผิดหวัง เพราะประเด็นด้านเขตแดนทั้งหมดอยู่ในขอบเขตการทำงานของ JBC ซึ่งเป็นประเด็นเชิงเทคนิค


นายนิกรเดช กล่าวว่า การประชุม JBC ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมีประสิทธิผลและทำต่อเนื่องมาตลอด 25 ปี การประชุม JBC จึงได้รับความสนใจเป็นพิเศษเนื่องจากสถานการณ์ชายที่เกิดขึ้น จึงย้ำว่ากลไกทวิภาคีผ่านการประชุม JBC ยังดำเนินการได้ มีส่วนช่วยลดความตึงเครียดของสถานการณ์นำไปสู่การแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนในอนาคต โดยไทยจะเป็นเจ้าภาพการประชุม JBC สมัยพิเศษในเดือน ก.ย.ที่จะถึงนี้ ซึ่งฝ่ายกัมพูชาได้ตอบตกลงที่จะเข้าร่วม

ขณะที่การร้องต่อ ICJ ของกัมพูชา รัฐบาลไทยไม่รับเขตอำนาจศาล ICJ มาตั้งตั้งแต่ปี 2503 จนถึงปัจจุบัน ประธาน JBC ฝ่ายไทยได้ย้ำในถ้อยแถลง ซึ่งประธาน JBC ฝ่ายกัมพูชาได้รับทราบ และกระทรวงการต่างประเทศได้เตรียมแนวทางการรับมือเรื่องนี้ไว้แล้ว

สำหรับมาตรการตอบโต้ระหว่างไทย-กัมพูชา กัมพูชามีมาตรการต่างๆ รวมถึงคำขู่ว่าจะปิดด่านและงดนำเข้าสินค้าจากไทย หากไม่เปิดด่าน นายนิกรเดช ย้ำว่าไทยปฏิบัติตามหลักสากล การเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่ดี จะไม่ใช้การยื่นคำขาดต่อกัน โดยที่ไม่มีการหารือ หรือหาทางออกสร้างสรรค์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนทั้งสองฝ่ายมากที่สุด ทั้งนี้ไทยยึดถือผลประโยชน์สูงสุดของประชาชนมาโดยตลอด


“มาตรการของไทยที่ผ่านมาเป็นการตอบโต้ระดับรัฐบาล ไม่มีเป้าหมายโจมตีประชาชน แนวทางการสื่อสารผ่านโซเชียลมิเดีย ไม่ใช่ช่องทางที่เป็นทางการ การยื่นคำขาดต่อกันอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดระดับประชาชน สะท้อนว่ากัมพูชาขาดความตั้งใจจริงในการใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ร่วมกับบทพื้นฐานความเป็นเพื่อนบ้านที่ดี รัฐบาลใช้วิจารณญาณและความมีสติในการออกมาตรการตอบโต้อย่างรอบคอบและมีวุฒิภาวะ ไม่ใช้อารมณ์และจะไม่เอาเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมาเป็นประเด็นทางการเมือง ยกตัวอย่างกรณีแรงงานต่างชาติ นายกรัฐมนตรีไทยได้กล่าวเรื่องนี้ไปแล้วว่า รัฐบาลไม่มีแนวคิดผลักดันแรงงานไทยออกนอกราชอาณาจักร ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของแรงงานเอง” นายนิกรเดช กล่าว

นายนิกรเดช กล่าวว่า ส่วนการชี้แจงต่อประชาคมระหว่างประเทศ รัฐบาลไทยยังดำเนินการอยู่และดำเนินการมาพักหนึ่งแล้ว เราไม่เคยนิ่งนอนใจ ซึ่งวันนี้กระทรวงการต่างประเทศจะจัดรายงานสรุปให้กับคณะทูตในเวลา 15.30 น. เพื่อให้ข้อเท็จจริงว่าอะไรเกิดขึ้น ทั้งนโยบายสันติที่ไทยดำเนินการมาโดยตลอด และแนวทางที่จะไทยจะใช้ต่อไป

นายนิกรเดช ย้ำว่าขอให้ประชาชนตรวจสอบข้อมูลอย่างชัดเจน ฝ่ายไทยจะนำเสนอข้อมูลที่ถูกต้อง ไม่บิดเบือน เพื่อให้ประชาชนรับทราบอย่างถูกต้อง และหลีกเลี่ยงการนำข้อมูลที่ไม่ถูกต้องไปเผยแพร่ในวงกว้าง

ในช่วงถามตอบ นายนิกรเดช ชี้แจงถึงการแถลงข่าวของทางการไทยที่ล่าช้า ว่า การตอบโต้ไม่ใช่ทางออกเสมอไป และจะต้องเป็นคำตอบที่ไม่กระทบกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเชิงลึก อีกทั้งคณะกรรมาธิการ JBC ฝ่ายไทยเพิ่งเดินทางกลับมาถึงประมาณ 21.00 น. ของวานนี้ (15 มิ.ย.) จึงไม่เหมาะสมในการเชิญสื่อมวลชนมาแถลงข่าวตั้งแต่เมื่อคืนนี้ จึงมีการออกแถลงการณ์ในช่วงกลางดึก และเชิญนายประศาสน์ มาแถลงด้วยตนเองวันนี้.-315.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เตือนฝนตกหนักถึงหนักมาก โดยเฉพาะเหนือ-อีสานตอนบน

กทม. 12 ก.ค.-กรมอุตุ ประกาศฉบับที่ 4 เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะภาคเหนือ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ และอีสานตอนบน ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 4 เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทยและคลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันตอนบน (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 12-13 กรกฎาคม 2568) ในช่วงวันที่ 12-13 กรกฎาคม 2568 ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งโดยเฉพาะภาคเหนือบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมาตอนบน ภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำ ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก มีดังนี้ในวันที่ 12 กรกฎาคม […]

น้ำท่วมหลายพื้นที่ อ.เวียงสา ลดลงแล้ว

น่าน 11 ก.ค. – น้ำท่วมหลายพื้นที่ อ.เวียงสา ลดลงแล้ว แต่ยังต้องเฝ้าระวังน้ำเหนือมาเติม ด้านผู้ว่าฯ น่าน ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด สั่งเร่งช่วยเหลือทันที น้ำท่วมบ้านเรือนหลายร้อยหลังใน อ.เวียงสา จ.น่าน ลดระดับลงแล้ว หลังฝนตกหนักทำให้น้ำหลากเข้าท่วม เป็นบริเวณกว้าง นายชัยณรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิด โดยมีนายอำเภอเวียงสา นายกเทศมนตรีตำบลกลางเวียง หน่วยงานภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่ด้วย สรุปข้อมูลอุทกภัยในพื้นที่ อ.เวียงสา เกิดฝนตกหนัก ทำให้แม่น้ำสาขาต่างๆ ทะลักและไหลล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือน พื้นที่การเกษตร และสิ่งสาธารณประโยชน์ของราษฎรในพื้นที่ อ.เวียงสา มีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจาก อุทกภัย (น้ำป่าไหลหลาก) จำนวน 10 ตำบล 53 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อนประมาณ 1,524 คน 750 ครัวเรือน บ้านเรือนได้รับความเสียหายจากน้ำหลากไหลบ่าเข้าท่วม 160 หลังคาเรือน พื้นที่ทางการเกษตรได้รับความเสียหายประมาณ 1,350 ไร่ นา 120 […]

ผกก.สภ.เมืองพัทยา ยันคนร้ายอุ้มปล้นชาวจีนไม่ใช่ตำรวจ

พัทยา 11 ก.ค. – ผกก.สภ.เมืองพัทยา ยืนยัน 4 คนร้ายอุ้มชาวจีนขึ้นรถ ก่อนปล้นทรัพย์-บังคับโอนเงิน ไม่ใช่ตำรวจ แต่เป็นกลุ่มชายฉกรรจ์ เชื่อหนึ่งในผู้ก่อเหตุอาจรู้จักกับผู้เสียหาย ขอเวลาตำรวจทำงานก่อน เชื่อว่าจะรู้ตัวคนร้ายทั้งหมดในเร็ววันนี้ กล้องวงจรปิดจับภาพคนร้ายสวมชุดดำ 2 คน พยายามฉุดกระชากคนจีนขึ้นรถ เหตุเกิดหน้าร้านก๋วยเตี๋ยว-อาหารจีน ริมถนนพัทยาเหนือสาย 3 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เช้ามืดวานนี้ (10 ก.ค.) พยานให้ข้อมูลว่า ประมาณตี 5 คนจีน 3 คน มานั่งกินก๋วยเตี๋ยว กินเสร็จกำลังจะแยกย้ายกันกลับ คนแรกขึ้นขับรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ออกไป ส่วนคนที่ 2 เดินกลับเข้าไปในซอยซึ่งอยู่ข้างๆ ร้าน ส่วนคนสุดท้ายคือผู้เสียหาย กำลังยืนรอรถที่เรียกผ่านแอปฯ มารับ ไม่ถึง 1 นาที มีรถเอสยูวี สีขาว มาจอดประกบข้าง จากนั้นมีผู้ชายแต่งชุดดำ (เสื้อแขนยาวสีดำมีฮู้ด) ลงจากรถ […]

มทภ.2 ตรวจเยี่ยม 3 ปราสาท คนแห่เที่ยวหยุดยาวคึกคัก

11 ก.ค.- แม่ทัพภาค 2 ตรวจเยี่ยม 3 ปราสาท จ.สุรินทร์ ประชาชนแห่เที่ยวหยุดยาวคึกคัก รถติดยาวกว่า 1 กม. เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 11 ก.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อมคณะได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมกำลังพลที่ฐานปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด และปราสาทตาควาย ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ เพื่อตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจเจ้าที่ทหารผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ ตั้งแต่ช่วงเช้า มีประชาชนและนักท่องเที่ยวจากหลายจังหวัด มามอบสิ่งของให้กำลังใจทหาร และถือโอกาสเข้าเที่ยวชมตัวปราสาทที่อยู่ใกล้กันอย่างคึกคัก ทำให้บรรยากาศคึกคักตลอดทั้งวัน จนทำให้การจราจรติดขัดเป็นแถวยาวกว่า 1 กิโลเมตร ทางเจ้าที่ทหารจึงได้จัดกำลังดูแลอำนวยความสะดวกให้พี่น้องประชาชนได้ขึ้นมาเที่ยวชมกันทุกคน ด้านพล.ท.บุญสิน เปิดเผยว่า สำหรับวันนี้ได้เดินทางมาเยี่ยมและให้กำลังใจกำลังพลที่ปฏิบัติงานอยู่บริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งจะทำให้กำลังพลได้รับทราบว่าพวกท่านไม่ได้หยุด ตัวแม่ทัพก็ไม่หยุดทำงานเช่นเดียวกัน โดย 2 วันที่ผ่านมา ได้ลงพื้นที่บริเวณชายแดนส่วนหน้า เข้าไปยังฐานปฏิบัติการที่อยู่แนวหน้า พร้อมนำสิ่งของพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และ กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ มอบให้กับกำลังพลในพื้นที่ทุกนายเพื่อเป็นขวัญกำลังใจทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของไทย แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวขอบคุณประชาชนคนไทยทุกคนที่เดินทางมาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหารทุกพื้นที่ […]