“วิโรจน์” ขอ ปชช. ดึงสติ หลังมีกระแสเรียกร้องรัฐประหาร

รัฐสภา​ 9 มิ.ย. – “วิโรจน์” ลั่น เร็วไปเรียกสถานการณ์คลี่คลาย รับมาตรการจูงใจกลับสู่โต๊ะเจรจาได้ผล ถาม “กัมพูชา” มีความชอบธรรมอะไรเอาเรื่องขึ้นศาลโลก เรียกร้องให้เคารพ MOU43 หลังกัมพูชาเข้าข่ายละเมิด ขอ ปชช. ดึงสติกลับมา หลังมีกระแสเรียกร้องรัฐประหาร ชี้ “ภูมิธรรม” ขอบคุณกัมพูชา เป็นมารยาททางการทูต


นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะนี้ที่ดูเหมือนจะคลี่คลายลงแล้ว ว่า เร็วเกินไปที่จะเรียกว่าคลี่คลาย แต่เรียกว่ากลับไปสู่สถานการณ์ที่เริ่มจะมีแนวทางในการเจรจาเป็นเหตุเป็นผลได้ แสดงว่ามาตรการในการจูงใจให้กัมพูชากลับเข้าสู่โต๊ะเจรจาอีกครั้งถือว่าได้ประสิทธิผลตามสมควร

เมื่อถามว่าทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาอยากให้ประเทศไทยขึ้นศาลโลกอยู่นั้น นายวิโรจน์ กล่าวว่า การคลี่คลายข้อพิพาทหรือความขัดแย้งของประเทศที่มีพรมแดนติดกัน ตนคิดว่าการหารือจะเป็นประโยชน์กับประชาชนทั้งสองประเทศมากกว่า และหากวิเคราะห์จริง ๆ ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากฝั่งไทยที่มีข้อเสนอใหม่ หรือเรียกร้องอะไรที่แตกต่างไปจาก MOU 2543 แต่เป็นฝ่ายกัมพูชาที่ดำเนินการเข้าข่ายละเมิด MOU 2543 ที่ตกลงร่วมกัน


“ต้องยืนยันว่ากัมพูชาจะมีความชอบธรรมอะไร ที่จะนำเอาข้อพิพาทนี้ไปสู่การคลี่คลายในเวทีอื่น เพราะว่าเราไม่ได้เป็นฝ่ายละเมิด MOU 43 และข้อเรียกร้องจนถึงปัจจุบัน ประเทศไทยไม่ได้เรียกร้องอะไรเพิ่มเติมเลย เราเรียกร้องให้กัมพูชาเคารพ MOU 43 เราและเขาได้ลงนามร่วมกันโดยสมัครใจ ดังนั้นเราต้องมองสถานการณ์ให้ออก” นายวิโรจน์กล่าว

ส่วนจะมีเรื่องการเมืองในประเทศเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า ตนคิดว่าคงจะมีทั้งการเมืองในประเทศ การเมืองระหว่างประเทศ และไม่ละทิ้งประเด็นที่เกี่ยวพันกับประเทศมหาอำนาจด้วยแต่เรื่องนี้ยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด แล้วต้องระมัดระวังในการให้ความเห็นแต่ต้องผูกทั้ง 3 เรื่องเข้าด้วยกัน

นายวิโรจน์ ระบุว่า อาจจะมีมาตรการที่ชัดเจนออกมา อย่างเช่นตอนนี้บางคนเรียกว่ามาตรการกดดัน แต่ตนขอเรียกว่ามาตรการในการสร้างแรงจูงใจให้กัมพูชากลับมาสู่โต๊ะเจรจาดีกว่า ซึ่งประเทศไทยจะต้องมีมาตรการในระยะยาวได้ หรือจนกว่ากัมพูชาจะกลับเข้ามาเจรจาในกรอบ MOU 2543 ดังนั้นตนคิดว่ารัฐบาลต้องเตรียมอนุมัติกรอบงบประมาณ หรือ งบกลาง ที่จะมาสนับสนุนให้ผู้ประกอบการปรับตัวหรือนำมาชดเชยเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ย้ำว่ารัฐบาล ต้องยืนระยะมาตรการกดดันต่าง ๆเหล่านี้ให้ได้และพร้อมที่จะดำเนินมาตรการตลอดไป ตราบใดที่ทางกัมพูชายังไม่เจรจา


เมื่อถามว่าทางสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ขอเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญเพื่อถกปัญหานี้เป็นอย่างไรบ้างนั้น นายวิโรจน์ กล่าวว่า ก็เป็นไปได้ ซึ่งตนก็เคยเสนออยู่แล้ว ไม่ว่าจะในสภาผู้แทนราษฎรหรือประชุมร่วมกันของทั้ง 2 สภาก็ยินดี รัฐบาลก็จะได้มีข้อเสนอแนะแนวทางที่เป็นเอกภาพมากขึ้น เป็นความร่วมมือกันระหว่างอำนาจนิติบัญญัติและอำนาจบริหาร

ส่วนมองอย่างไรที่ขณะนี้มีกระแสในโลกโซเชียลที่ออกมาเรียกร้องให้มีการรัฐประหารนั้น นายวิโรจน์ กล่าวว่า ต้องย้ำว่าการคลี่คลายข้อพิพาทระหว่างประเทศสิ่งสำคัญที่สุดคือความชอบธรรมและเป็นความชอบธรรมในเวทีโลกที่ประเทศของเราสามารถอธิบายกับนานาอารยประเทศได้

“ดังนั้นหากเราทำลายประชาธิปไตยด้วยน้ำมือของเราเอง แล้วได้รัฐบาลใหม่ที่ได้จากการฉกฉวยโอกาสทำรัฐประหาร ซึ่งรัฐบาลเช่นนั้นจะไม่มีที่ยืนบนเวทีโลกเลย ไม่มีความชอบธรรมใด ๆ ในการไปเจรจากับมิตรประเทศหรือประเทศอื่น ๆ เลย และจะเป็นรัฐบาลที่ไม่มีใครในโลกยอมรับก็จะเข้าทางฝั่งกัมพูชาหรือสิ่งที่ สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาและประธานองคมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา และ พลเอกฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ต้องการทันที” นายวิโรจน์กล่าว

นายวิโรจน์ ยังกล่าวว่า เราต้องเตือนตัวเองอยู่เสมอว่าสิ่งที่ สมเด็จฯ ฮุน เซน และ พลเอกฮุน มาเนต ต้องการคืออะไร ต้องการทำลายความชอบธรรมของประเทศไทยในศาลโลก ในเวทีโลก ฉะนั้นเราต้องดึงสติกลับมา เพราะกัมพูชาเขาเป็นคนละเมิด MOU 43 ซึ่งเป็นเสมือนข้อตกลงที่ทำร่วมกันไว้ระหว่างไทยและกัมพูชา และหากคิดแบบเป็นกลางข้อตกลงนี้ไทยและกัมพูชาทำร่วมกันโดยความสมัครใจ ไทยไม่ได้เป็นฝ่ายละเมิดแต่อย่างใด ที่ผ่านมาก็ดำเนินการตาม MOU 43 ไปได้ด้วยดี ความผาสุก ความเป็นอยู่ การอยู่ดีกินดี และการค้าการขายระหว่างประชาชนที่อยู่ในแนวพรมแดนของทั้งสองฝ่ายก็พัฒนาไปตามลำดับไม่ได้มีปัญหา

นายวิโรจน์ ระบุว่า วันนี้เราต้องยืนยันว่ารัฐบาลกัมพูชาเป็นฝ่ายละเมิด MOU 43 และกลับท้าทายที่จะไปขึ้นศาลโลกอย่างนี้ จริง ๆ แล้วตนเองคิดว่าความชอบธรรมในการดำเนินการเช่นนั้นของฝั่งรัฐบาลกัมพูชานั้นไม่มีเลย ดังนั้นตนเองขอยืนยันว่าเราต้องดำรงความชอบธรรมย้ำว่าการอดทนอดกลั้นและแสวงสันติวิธีในการคลี่คลายข้อพิพาทถูกต้องแล้ว แต่สิ่งที่เราจะต้องทำคือ ดำรงไว้ซึ่งความชอบธรรมของประเทศไทยด้วยในขณะเดียวกันก็ต้องดำเนินมาตรการอื่น ๆ ควบคู่เพื่อจูงใจให้รัฐบาลกัมพูชาเข้าใจถึงสถานการณ์และยินดีที่จะมาร่วมโต๊ะเจรจาภายใต้เงื่อนไขที่สมเหตุสมผล และการหยิบยื่นข้อเสนอที่มันเป็นจริงได้

ซึ่งเราต้องยืนยันว่าประเทศไทยของเรายังไม่มีข้อเรียกร้องอะไรใหม่ ๆ ประเทศไทยไม่มีข้อเสนออะไรที่กัมพูชารับไม่ได้เรายังยืนยันเหมือนเดิมว่ากลับมาที่ MOU 43 ที่ทั้งสองประเทศ ได้ลงนามร่วมกันด้วยความสมัครใจ

“ผมคิดว่าเราต้องดำรงไว้ซึ่งความชอบธรรมของประเทศไทยตรงนี้และอย่าถูกแรงยั่วยุ ท้าทายแล้วใช้กำลังโดยไม่จำเป็น ใช้กำลัง และใช้การปะทะโดยไม่เข้าเงื่อนไขที่เรากำหนดเอาไว้ ซึ่งฝั่งสมเด็จฯ ฮุน เซน และ พลเอกฮุน มาเนต ก็จะหยิบยกเพื่อบั่นทอนความชอบธรรมของเรา” นายวิโรจน์ กล่าว

วันนี้ตนเองอยากให้รัฐบาลสื่อสารให้ชัดสื่อสารทั้งกับคนไทยทั้งชาวกัมพูชาทั้งชาวโลกและชาวอาเซียนให้รู้ว่าประเทศไทยเราไม่ได้เรียกร้องอะไรใหม่ใหม่ไม่ได้หยิบยื่นข้อเสนออะไรที่กัมพูชารับไม่ได้เราเพียงแต่ยึดมั่นใน MOU 43 ที่ทั้งสองประเทศได้ตกลงร่วมกันและสถานการณ์ปัจจุบันนี้เป็นฝ่ายรัฐบาลกัมพูชาต่างหากที่ละเมิดข้อตกลง MOU 43

อย่างไรก็ตามตนเองเชื่อว่ารัฐบาล จนวินาทีนี้ก็เดินเกมได้เข้าร่องเข้ารอยแต่ต้องเดินเกมได้ในระยะยาว ไม่ใช่แค่ใช้กฎอัยการศึกเพียงอย่างเดียว เพราะกองทัพก็จะมีอำนาจเฉพาะเรื่องความมั่นคงและควบคุมพื้นที่ แต่การอนุมัติงบประมาณการกำหนดมาตรการทางการคลังการกำหนดมาตรการทางการทูตที่ต้องทำควบคู่กันนั้นกฎอัยการศึกไม่ได้ให้อำนาจกับกองทัพดังนั้น วันนี้ตนเองคิดว่านายกรัฐมนตรีต้อง จะต้องเร่งอนุมัติงบกลางเพื่อเข้ามาชดเชยเยียวยาประชาชนและผู้ประกอบการในแนวชายแดนที่ได้รับผลกระทบได้แล้วเพื่อให้มาตรการดังกล่าวสามารถทำให้ผู้ประกอบการไทยปรับตัวได้ และยืนระยะที่จะกดดันอย่างนั้นได้อย่างต่อเนื่องและตลอดไปตราบใดก็ตามที่ฝั่งรัฐบาลกัมพูชายังคงไม่เคารพ MOU 2543

สำหรับการสื่อสารที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ใช้คำขอบคุณรัฐบาลกัมพูชา ตรงนี้สะท้อนนัยยอะไรหรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า ในเรื่องของการรักษามารยาททางการทูต ซึ่งตนเองคิดว่าเรารับได้ ที่ผ่านมาจะสังเกตได้ว่าประชาชนไทยจะไปจับจ้องอริยาบท จะไปจับจ้องคำพูดของนายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรี แต่เหตุผลเพราะประชาชนไม่เห็นมาตรการที่เป็นรูปธรรมเท่านั้นเอง

ซึ่งหากมีมาตรการที่เป็นรูปธรรมออกมาต่อเนื่องที่สามารถกดดันหรือสร้างแรงกดดันให้กัมพูชาก้าวมาสู่โต๊ะเจรจาอย่างสมเหตุสมผลคิดว่าประชาชนจะเข้าใจพิธีการที่ต้องทำอย่างเป็นทางการ ก็ต้องมีความจำเป็นที่จะต้องรักษามารยาททางการทูต คิดว่าอย่าไปจับจ้องจับผิดอย่างนั้นเลย ดูที่มาตรการ ที่เป็นทางการและผลสัมฤทธิ์ของมัน เชื่อว่าตอนนี้กำลังเดินเข้าไปสู่เส้นทางที่ ทำให้เราบรรลุถึงผลได้ และวันนี้สังคมไทย ต้องดึงเข้ามาสู่จุดที่ว่าเราต้องการบรรลุวัตถุประสงค์ด้วยวิธีการที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด.-319​ -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดปมสามียิงภรรยาดับคารถ ปัญหาเรื่องเงิน

กทม. 11 มิ.ย. – เปิดปมเหตุสามียิงภรรยาดับคารถ พี่ชายกับเพื่อนรุ่นน้องเผยว่าผู้ก่อเหตุมีปัญหาเรื่องเงิน พบช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมา พฤติกรรมเริ่มเปลี่ยนไป จากกรณีนายมีนาพัฒน์ อายุ 40 ปี ก่อเหตุยิงนางสาวนันทิชา อายุ 36 ปี ภรรยาของตัวเอง แล้วทิ้งศพไว้ในรถ ในซอยเพชรเกษม 67 แยก 8 เขตบางแค และหลังก่อเหตุปิดล็อกประตูเงียบอยู่ในบ้านพัก เจ้าหน้าที่ล้อมจับนาน 4 ชั่วโมง จนยอมมอบตัวเมื่อคืนวานนี้ (10 มิ.ย.) ต่อมาพี่ชายของนายมีนาพัฒน์ มาเยี่ยมผู้ก่อเหตุที่ สน.เพชรเกษม เปิดใจยอมรับว่าสาเหตุส่วนใหญ่มาจากปัญหาเรื่องเงิน เมื่อช่วงเดือนเมษายน น้องสะใภ้ (ผู้ตาย) บอกว่า น้องชายนำบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดกไปเข้าธนาคาร 2 ล้านกว่าบาท ซึ่งผิดจากปกติที่น้องไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงินมาก่อน เพราะแม่ยกสมบัติให้เยอะมาก ครั้งสุดท้ายที่คุยกับน้องชายคือเมื่อวานนี้ช่วง 19.30 น. น่าหลังจากก่อเหตุฆ่าภรรยาแล้ว คุยกันประมาณครึ่งชั่วโมงสังเกตได้ว่าน้องชายมีอาการสับสน พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่มีบางประโยคที่น้องชายพูดออกมาแล้วรู้สึกหงุดหงิดใจ เรื่องบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดก บอกว่า “บ้านหลังนี้ครอบครัวเราจะต้องได้อยู่” […]

ตำรวจภาค 8 รวบ 3 ราย ขบวนการส่งยาขนมากับรถทัวร์

กระบี่ 11 มิ.ย. – รวบขบวนการค้ายาบ้า ขนมากับรถทัวร์ สายเชียงใหม่-ภูเก็ต 3 แสนเม็ด แวะลงกระบี่ ส่งให้เอเย่นต์สาขาสุราษฎร์ฯ ตำรวจรวบทีเดียวทั้งคนส่งและคนรับ นายอังกูร ศีลาเทวากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น รอง ผบช.ภ.8 รักษาการ ผบ.ภ.จ.กระบี่ แถลงผลการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด ได้ผู้ต้องหา 3 คน พร้อมของกลางยาบ้า 300,000 เม็ด ประกอบด้วย นายสัมพันธ์ อายุ 54 ปี นายสุรพล อายุ 30 ปี และนางสาวสุนารี อายุ 27 ปี พร้อมยึดรถเก๋ง 1 คัน และแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน การจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีการส่งมอบยาบ้ากันบริเวณสามแยกเขาต่อ อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ เมื่อถึงเวลาก็มีรถทัวร์สายเชียงใหม่-ภูเก็ต […]

‘ฮุน มาเนต’ ย้ำทหารกัมพูชาไม่ได้ถอยออกจากพื้นที่

ปารีส 10 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ส่งสารจากฝรั่งเศสถึงชาวกัมพูชา ยืนยันจุดยืนกองทัพไม่ได้ถอนออกจากพื้นที่ภายใต้อธิปไตย พร้อมร่วมมือกับไทยปักปันเขตแดน ตามกลไกเจบีซี ยกเว้น 4 จุดที่จะส่งศาลโลกตัดสิน ฮุน มาเนต ซึ่งอยู่ระหว่างเข้าร่วมการประชุมว่าด้วยมหาสมุทรของสหประชาชาติ ครั้งที่ 3 ที่เมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Hun Manet ส่งสารถึงชาวกัมพูชา มีใจความดังนี้ กองทัพกัมพูชาสนับสนุนความพยายามในการหาทางแก้ไขปัญหานี้โดยสันติ แต่พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนจากการพยายามรุกรานใดๆ กองทัพกัมพูชาพร้อมที่จะเข้าร่วมสนับสนุนกลไกการเจรจาชายแดนกับไทยที่มีคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม เพื่อดำเนินงานรังวัดและปักปันเขตแดนที่เหลือระหว่าง 2 ประเทศต่อไป ยกเว้นประเด็นที่กัมพูชาจะส่งให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ไอซีเจ (ICJ) พิจารณา

นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย

ทำเนียบ 10 มิ.ย.-นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย มอบ รมว.อุตสาหกรรม แก้ปัญหาราคา ก่อนประชุม ครม. ไม่ตอบคำถามสื่อปมเอกสาร รทสช.ขอปรับรัฐมนตรี จับตา ครม. ถกข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ก่อนประชุม JBC 14 มิ.ย.นี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ โดยก่อนการประชุม ประธานสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และคณะ เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐมนตรีติดตามการแก้ไขปัญหาของเกษตรกรมาโดยตลอด และมารายงานเรื่องนี้อย่างละเอียดอยู่ตลอด ตนทราบปัญหา ทางเกษตรกรจึงเน้นย้ำว่า ปัญหาจะแก้ไขได้ก็ต้องเป็นไปภายใต้การสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรี “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร” นายกรัฐมนตรี จึงไหว้รับขอบคุณ พร้อมกับกล่าวต่อว่า อะไรที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ก็พร้อมที่จะแก้ไขในทุกเรื่องอยู่แล้ว จึงอยากให้จัดระบบให้ดี เพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนทุกกลุ่ม ขณะเดียวกันเกษตรกรยังฝากรัฐบาลให้ไปดูแลในการรับซื้อใบอ้อย เนื่องจากเกษตรกรให้ความร่วมมือในการตัดอ้อยสด ทำให้นายกรัฐมนตรีถึงกับกล่าวแซว โห นี่จริงๆ ทำไมไม่ไปเป็นนักการเมือง ในสภาน่าจะเก่งเรื่องนี้ ทำให้เกษตรกรคนดังกล่าวกล่าวว่าลูกชายของตนเป็นนายก 6 สมัยรวด ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะกล่าวขอบคุณ และขอให้ทุกคน”รวยๆ […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ดูบังเกอร์หลบภัย ถามผู้ว่าฯ สุรินทร์ ทำไมไม่ของบ มท.

11 มิ.ย.- นายกฯ ดูชาวบ้านทำบังเกอร์ ร้องโถ่ ก่อนถามผู้ว่าฯ สุรินทร์ ทำไมไม่ของบ ก.มหาดไทย หลังรายงานขอรับบริจาคมาใช้แทนยางรถยนต์ วันนี้ (11 มิ.ย. 68) เวลา 13.40 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ ลงพื้นที่ต่อมายังหมู่บ้านสกลพัฒนา ตำบลตะเคียน อำเภอกาบเชิง เพื่อพบปะชาวบ้าน มอบสิ่งของ และตรวจดูการทำบังเกอร์หลบภัย โดยทันทีที่นายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึง ได้มีชาวบ้านนำผ้าขาวม้ามามอบให้ ซึ่งนายกฯ รับมาก่อนจะหันไปหานายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า “ผูกกันเป็นทีม” ก่อนจะมอบสิ่งของอุปโภค – บริโภค เพื่อให้กำลังใจชาวบ้านในพื้นที่ จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้เยี่ยมชมการสร้างบังเกอร์ โดยมีนายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ และผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านสกลพัฒนา รายงาน โดยนายกรัฐมนตรี ถามผู้ว่าฯ ว่า ขอเข้าไปดูได้หรือไม่ และถามชาวบ้านบ้านว่า “ทำมานานหรือยัง” โดยชาวบ้านบอกว่า […]

คุมตัว “หมอแอร์” ฝากขังศาลอาญา-ค้านประกันตัว

กรุงเทพฯ 11 มิ.ย. – คุมตัว “หมอแอร์” ฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ ตำรวจคัดค้านการประกันตัว ส่วนผู้ต้องหาอีก 6 คน ที่ถูกจับในขบวนการเดียวกัน พนักงานสอบสวนจะนำตัวฝากขังพรุ่งนี้ (12 มิ.ย.) พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามยาเสพติด 1 ควบคุมตัวหมอแอร์ ไปฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากการกระทำความผิดมีอัตราโทษสูง เกรงว่าจะมีการหลบหนีและยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ในระหว่างควบคุมตัว หมอแอร์สวมหมวก แว่นตาดำ และแมสก์ปิดบังใบหน้า พยายามแอบอยู่หลังเจ้าหน้าที่ โดยไม่ตอบคำถามของสื่อมวลชนแต่อย่างใด สำหรับผู้ต้องหาอีก 6 คน ที่ถูกจับในขบวนการเดียวกัน พนักงานสอบสวนจะนำตัวไปฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ วันพรุ่งนี้ (12 มิ.ย.) .-สำนักข่าวไทย

เปิดขบวนการ “หมอแอร์” สวมชื่อคนตายซื้อยาเสียสาว

11 มิ.ย. – ผู้ช่วย ผบ.ตร. นำแถลงกรณี “หมอแอร์” พร้อมพวกรวม 7 คน แอบอ้างชื่อคลินิก 12 แห่ง สั่งซื้อยายาเสียสาว นำมาขายต่อ นาน 3 ปี และยังสวมชื่อคนตาย 370 คน รับยา ขณะที่ รพ.ตำรวจ มีคำสั่งให้ “หมอแอร์” ออกจากราชการไว้ก่อน หลังเมื่อวานนี้ (10 มิ.ย.68) เจ้าหน้าที่บุกจับ “หมอแอร์” คุณหมอชื่อดัง สังกัดโรงพยาบาลตำรวจ พร้อมพวก แอบอ้าง 12 คลินิก สั่งซื้อยาควบคุม (ยาเสียสาว) นำมาขายต่อ นาน 3 ปี วันนี้ (11 มิ.ย.68) มีการแถลงข่าวเรื่องนี้ นำโดย พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย […]

เปิดภาพความจริง! อดีต-ปัจจุบันชายแดนช่องบก

11 มิ.ย. – ‘กองทัพไทย’ เปิดภาพถ่ายแผนที่ทางอากาศ ชายแดนช่องบก อุบลราชธานี เปรียบเทียบอดีต-ปัจจุบัน พบการทำกิจกรรมทางทหาร-ขุดคูเลต-ทำถนนส่งกำลังบำรุง ก่อนเหตุปะทะช่องบก 28 พ.ค.2568 ทีมโฆษกกองทัพไทย เปิดข้อมูลแผนที่ทางอากาศ จัดทำโดยกองบัญชาการกองทัพไทย จากกรณีไทย และกัมพูชา มีข้อสังเกตหลายประเด็นที่ปรากฏในภาพถ่ายทางอากาศตรงจุดปะทะ โดยภาพถ่ายทางอากาศ เริ่มตั้งแต่ปี 2497 ช่วงแรกถ่ายไว้จนถึงปี 2520, 2527 และมีการถ่ายภาพทางอากาศอย่างต่อเนื่อง ส่วนกรณีที่อ้างถึงการยึดครอง และใช้ชีวิตในพื้นที่ที่มีปัญหานานมากแล้วนั้น หากมองตามภาพถ่ายทางอากาศ จะยืนยันได้ว่า ไม่มีการเข้าไปใช้พื้นที่อย่างที่อ้าง ข้อมูลของกองทัพไทย ยังได้เปรียบเทียบเส้นสีแดงในแผนที่ เป็นเส้นแนวที่ไทยยึดถือ ใช้แบ่งแนวเขตระหว่างไทย กัมพูชา และลาว ส่วนจุดปะทะที่เกิดขึ้นนั้น เป็นพื้นที่ที่เข้ามาทางฝั่งไทย ทั้งนี้ กองทัพไทยยังมีการถ่ายทางอากาศต่อเนื่องยาวมาถึงปี 2539, 2546, 2553 และ 2561 เป็นที่สังเกตได้ว่า ช่วง 70 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2497 ไม่มีใครเข้ามาถือครอง และใช้ชีวิตในพื้นที่นั้น หากมองถึงกิจกรรมของประเทศเพื่อนบ้านที่ประเด็นในปัจจุบันนั้น เห็นได้อย่างชัดเจนตามภาพถ่ายทางอากาศว่า มีการเคลื่อนไหวทางการทหารที่แตกต่าง […]