ซัด สว.เสียงข้างมาก ฝืนใจปชช. เดินหน้าโหวตองค์กรอิสระ

รัฐสภา 30 พ.ค.- “สว.นันทนา” ซัด สว.เสียงข้างมาก 125 เสียงฝืนใจประชาชน เดินหน้าลงมติเลือกองค์กรอิสระ ท่ามกลางคดีฮั้ว สว. “ทนายอั๋น” ประกาศลอตต่อไป ถึงคิวเจ้ใหญ่เมืองอำนาจ ลูกเทพถึงคิว ยื่นป.ป.ช.-ศาลรธน. สกัดจริยธรรม


น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว. แถลงภายหลังที่ประชุมวุฒิสภามีมติไม่เห็นด้วยที่จะชะลอการพิจารณาตามญัตติชะลอการตั้งคณะกรรมาธิการสามัญ เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ รวมทั้งให้ความเห็นชอบกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จนกว่ามีคำตัดสินในคดีที่สมาชิกวุฒิสภาจำนวนมากตกเป็นผู้ถูกร้องและผู้ร้องในขณะนี้ ว่า ผลการลงมติในการชะลอการลงมติเห็นชอบองค์กรอิสระและการตั้งกรรมาธิการวิสามัญเพื่อตรวจสอบคุณสมบัติผู้ดำรงตำแหน่งองค์กรอิสระในวันนี้ ซึ่งเสียงข้างมากสามารถทำให้ญัตตินี้ตกไปด้วยเสียงจำนวน 125 เสียง ซึ่งถือว่าเป็นเสียงข้างมากที่ใช้ในการลงมติโดยปกติทั่วไป ไม่ว่าเสียงข้างน้อยของสว.จะอภิปรายด้วยหลักการด้วยเหตุผลที่สมเหตุสมผลเพียงใด แต่ก็ไม่อาจที่จะโน้มน้าวให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกระบวนการการลงมติ และที่สำคัญประชาชนจำนวนมากไม่ต้องการให้ สว.ลงมติ เพื่อที่จะดำเนินการเลือกองค์กรอิสระในวันนี้ ซึ่งมีถึง 7 ตำแหน่ง โดยจะเป็นสถานะขององค์กรอิสระไปอย่างสิ้นเชิง ทั้งนี้ สว.เสียงข้างมากก็ไม่ได้สนใจ ไม่เห็นหัวประชาชน ยังเดินหน้าเลือกองค์กรอิสระ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ฝืนความรู้สึกประชาชนและทำให้กระบวนการองค์กรอิสระบิดเบี้ยวไปหมด โดย สว.เสียงข้างน้อยได้อภิปราย และแสดงเหตุผลว่าเพราะอะไรที่ไม่ควรที่จะเลือกองค์กรอิสระ เนื่องจากเป็นประโยชน์ทับซ้อน

“เมื่อคู่กรณีนั่นคือ สว.ไปลงมติเลือกองค์กรอิสระ ซึ่งจะมาตัดสินคดีของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น กกต. ป.ป.ช. หรือศาลรัฐธรรมนูญ ย่อมเกิดการบิดเบี้ยวของกระบวนการดังกล่าว จึงขอแสดงความเสียใจกับประชาชนว่า สว.เสียงข้างมากเดินหน้าที่จะเห็นชอบองค์กรอิสระต่อไป และขอฟ้องประชาชน การทำหน้าที่ของ สว.เสียงข้างมากนั้นเหมาะสมหรือไม่” น.ส.นันทนา กล่าว


ด้าน น.ต.วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ สว. กล่าวว่า ในนาม สว.เสียงข้างน้อย 30 คน เราพยายามทำเต็มที่แล้ว เราพยายามบอกว่าขอเลื่อนการพิจารณาออกไปก่อน เพื่อให้ผู้ที่ตรวจสอบเราดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 1-2 เดือน แต่สุดท้ายแล้วก็ได้เท่านี้ ขั้นตอนต่อไปประชาชนจะต้องพิจารณาเอาเอง

ด้านนายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋น บุรีรัมย์ กล่าวว่า หลังแถลงข่าวเสร็จตนจะไปยื่นต่อ ป.ป.ช.ตรวจสอบจริยธรรมของสว.ที่ลงมติ ว่ามีจริยธรรมในการลงมติหรือไม่ และผลที่ สว.เหล่านั้นได้กระทำไปชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ และเรื่องการขัดกันของผลประโยชน์ตามกฎหมาย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการกระทำของพวกคุณในวันนี้และวันหน้า นอกจากนี้ ในสัปดาห์หน้าตนจะยื่นต่อนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ในมาตรา 113 ของรัฐธรรมนูญ และสุดท้ายจะยื่นต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน

“พวกคุณทั้งหลายไปให้สุด ขาข้างหนึ่งติดคุกไปแล้ว วันนี้ กกต. ดีเอสไอ ออกมาเรียกในล็อตที่ 5 แล้วและล็อตที่ 6 ผมบอกเลยว่าเป็นเจ้ใหญ่เมืองอำนาจ ล็อตที่ 7 บรรดาลูกเทพทั้งหลาย และล็อต 8 เจ้าพ่อเขากระโดงโดนแน่” ทนายอั๋น กล่าว


เมื่อถามว่า สว.เสียงข้างน้อยมีจำนวน 40 คน แต่ทำไม สว.เหล่านี้ จึงไม่ร่วมลงชื่อส่งศาลรัฐธรรมนูญ น.ส.นันทนา กล่าวว่า กระบวนการวันนี้เป็นแค่การชะลอ การลงมติ ไม่ได้มีผลไปกล่าวโทษหรือส่งผลกระทบต่อผู้ที่ทำหน้าที่ แต่ญัตติที่ตนเสนอไปที่ต้องการ สว. 20 คน คือ 1 ใน 10 เป็นเรื่องตามมาตรา 82 คือการถอดถอนก่อนแล้วจึงขอให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ จึงเป็นยาแรงที่ส่งผลกระทบต่อผู้ที่ร่วมลงชื่อจึงมีผู้ร่วมลงชื่อไม่ครบตามจำนวน การชะลอตรงนี้เมื่อ สว.ทั้งหลายที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาได้รับการพิพากษาว่าบริสุทธิ์ เขาก็สามารถกลับมาทำหน้าที่ต่อไป ฉะนั้น สว.เสียงข้างน้อยมองว่าเป็นมาตรการที่เหมาะสม

เมื่อถามว่า มั่นใจได้อย่างไรว่า สว. 37 คนที่ลงมติเห็นชอบให้ชะลอการเลือกองค์กรอิสระจะอยู่รอดปลอดภัย น.ต.วุฒิพงศ์ กล่าวว่า ไม่ปลอดภัย ทุกวันนี้เราเสี่ยงค่อนข้างสูง เพราะเขาอาฆาตมาดร้ายเราแล้ว ส่วนการทำงานต่อไปของสว.เสียงข้างน้อยค่อนข้างยากลำบาก อย่างไรก็ตาม หากกกต. และดีเอสไอจะทำงานล่าช้าคิดดูแล้วกันว่าจะเกิดผลกระทบอะไรกับเสียงข้างน้อย โดนกันหมดทุกฝ่าย ทำงานลำบาก

ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า กลุ่ม สว.เสียงข้างมาก เริ่มน้อยลงนั้น น.ต.วุฒิพงศ์ และน.ส.นันทนา เห็นตรงกันว่า ขณะนี้เริ่มมีปฏิกิริยาจาก สว.เสียงข้างมาก ที่วันนี้มีการลาถึง 25 คน เพราะถูกแจ้งข้อกล่าวหาไปแล้ว จึงคิดว่าไม่มาเสียดีกว่า ส่วน สว.เสียงข้างน้อย ก็มีหายไปเช่นกัน ซึ่งเป็นพวกที่กลัว เพราะอาจมีปัญหาในการทำงาน วันนี้ทุกคนหวั่นเกรงต่อประชาชน แม้จะไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน เพราะประชาชนกว่า 80-90% ไม่เห็นชอบ

“ไปตลาดถูกถามว่าเป็น สว.หรือไม่ จะไม่ขายของให้ อีกทั้งถูกญาติพี่น้องสอบถามว่าเหตุใด จึงไม่ร่วมลงชื่อถอดถอน สว. ซึ่งเป็นเรื่องลำบากที่จะทำให้อยู่อย่างปลอดภัย และเมื่อฟังการอภิปรายในห้องประชุม ผมก็น้ำตาไหล สงสารตัวเอง สงสารประชาชน วันนี้จึงตัดสินใจลงมาชี้แจงกับประชาชนว่าอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ตอนนี้ผมไม่กลัวแล้ว แต่ขอยอมรับว่าก่อนหน้านี้เคยกลัว วันนี้ความกลัวเปลี่ยนเป็นความกล้าแล้ว อย่าขู่มาก ผมเป็นอดีตทหาร หากเจอขู่มากแล้วจะกล้า กล้าแล้วบ้าบิ่นด้วย หลายคนก็เป็นเพื่อนกันมา แต่วันนี้เขาบอกว่าไม่อยากพูดกับผม ไม่อยากมองหน้า แต่ก็ไม่เป็นอะไร ผมมองหน้าประชาชนได้ มองหน้าสื่อมวลชนได้ ไม่ละอายใจ แหงนหน้าไม่อายฟ้า ก้มหน้าไม่อายดิน ถ้าทำงานไม่ได้ ไม่สนุก อย่างมากก็กลับไปอยู่บ้านเลี้ยงหลาน วันนี้อายุ 64 ปีแล้ว” น.ต.วุฒิพงศ์ กล่าว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ ข่าว สส.ดังนครศรีฯ ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา

กทม. 30 พ.ค.-“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ-ไม่รู้ ข่าว สส.ดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมากลางงานบวช ยืนยันไม่เป็นความจริง นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าว สส.ชื่อดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา กลางงานบวชลูกชายของนายก อบต. ต่อหน้าชาวบ้านนับร้อยคน โดยนายชัยชนะ ได้ปฏิเสธข่าวบอก ไม่รู้ ไม่ทราบข่าว พร้อมบอกผู้สื่อข่าวว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อถามว่า เป็นคนรู้จัก หรือคนใกล้ชิดหรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนไม่ทราบเหมือนกัน เพราะตอนนี้ยังไม่ทราบข่าวเลย ก่อนย้ำอีกครั้งว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ตอบว่า “ครับผม” เมื่อถามว่า ไม่ได้เข้าไปในพื้นที่เลยใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนลงพื้นที่วันละหลายงาน และเมื่อถามทิ้งท้ายว่า ไม่มีเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ยืนยันว่า “ไม่มี“.-315.-สำนักข่าวไทย

รวบพระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกดับ

นครราชสีมา 30 พ.ค. – รวบแล้ว พระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกเสียชีวิต และล่วงละเมิดลูกเลี้ยงผู้หญิงคนเล็กอายุ 11 ขวบ เจ้าตัวยังปากแข็ง แต่จำนนด้วยหลักฐาน ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา บุกรวบตัว นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเก “ลักยิ้มทับทิมสยาม” ได้คาบ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ โดยขณะนี้คุมตัวอยู่ในห้องขัง สภ.เมืองนครราชสีมา ขณะจับกุมตัวผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา” และ “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี” ขณะนี้กำลังเค้นสอบปากคำ เนื่องจากผู้ต้องหายังปากแข็ง แต่จำนวนด้วยหลักฐาน ก่อนเตรียมนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ คาดว่าเป็นช่วงบ่ายวันนี้ คดีนี้สืบเนื่องจาก น.ส.หมิว อายุ 46 ปี นางเอกลิเก พาลูกสาวอายุ 11 ปี เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี หลังลูกชายคนโต อายุ 18 ปี ซึ่งป่วยออทิสติก […]

“สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 หมอ คดีชั้น 14

สธ. 29 พ.ค. – “สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เผย “สมศักดิ์” สภานายกพิเศษ ส่งคำตอบให้มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 แพทย์ กรณีชั้น 14 รพ.ตำรวจเมื่อวานนี้ ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ให้ใช้คำว่าเห็นด้วย-ไม่เห็นด้วย นายกองตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษเพื่อพิจารณาตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ได้ยื่นรายงานความเห็นจากคณะกรรมการฯ ต่อมติแพทยสภาให้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ แพทยสภา เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) สภานายกพิเศษฯ ได้ทำหนังสือตอบกลับไปยังแพทยสภาแล้ว เมื่อเวลา 16.00 น. โดยที่ตนเองก็ยังไม่ทราบว่า มีเนื้อหาบ้าง แต่ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ขอให้ใช้คำว่ามีส่วนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เบื้องต้นเป็นความส่งความเห็นกลับต่อมติของแพทยสภา ซึ่งมีการพิจารณาเรื่องร้องเรียนแพทย์จำนวน 4 […]

จับแล้ว! “สามีภรรยา” คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง

29 พ.ค.- จับแล้ว! สองสามีภรรยา คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง มือคุมบัญชีประมูลร้านค้างานประจำปี – ร้านค้าสวัสดิการ หลังศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับ วันนี้ ( 29 พ.ค.68) เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม สองสามีภรรยา คนสนิทนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง หลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับ ในความผิดฐาน ข้อหาฟอกเงิน และ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ซื้อหรือการรักษาทรัพย์ แต่กลับเบียดบังหรือทุจริตทรัพย์นั้นมาเป็นของตน, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบและเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” โดยสามารถจับกุมตัวทั้งสองได้ภายในค่ายลูกเสือพระพุทธศาสนา มูลนิธิหลวงพ่อวัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มาสอบปากคำยัง กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ขณะเดียวมีรายงานว่า นอกเหนือจากผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ พนักงานสอบสวนยังได้ขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับอดีตพระลูกวัดคนสนิท ทิดแย้ม ซึ่งถูกจับกุมก่อนหน้านี้ และถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดย พนักงานสอบสวน เตรียมประสานไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ […]

ข่าวแนะนำ

ภูมิต้านภัย : จับตาทุจริตงบซ่อม ฮ.ตำรวจ

กรุงเทพฯ 31 พ.ค. – คอลัมน์ “ภูมิต้านภัย” ตรวจสอบหาสาเหตุเฮลิคอปเตอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตก 2 เหตุการณ์ในรอบ 1 เดือน หลังถูกตั้งข้อสังเกตถึงการนำ ฮ.ที่เสีย มาตั้งงบซ่อมแบบไม่ได้มาตรฐาน ทำให้นักบินต้องเสี่ยงชีวิตทุกครั้งที่ยก ฮ.ขึ้นน่านฟ้า. – สำนักข่าวไทย

นายกฯ บอกวันนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยน ลั่นปรับ ครม. อะไรก็เกิดขึ้นได้

รัฐสภา 31 พ.ค.-นายกฯ บอกวันนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยน ลั่นปรับ ครม. อะไรก็เกิดขึ้นได้ ส่วนโยกกระทรวงให้ถาม “ทักษิณ” คนพูด ปมดึง มท. มาดูเอง ย้ำครอบงำไม่ได้ แต่พ่อให้คำปรึกษา ลูกรับไว้พิจารณา เผยยกหูหากลางห้องประชุมแล้ว นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ว่า วันนี้ยังเหมือนเดิมไม่มีอะไร ถ้าจะมีการปรับเปลี่ยนอะไร หากเป็นรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยเดี๋ยวตนจะคุยเอง เห็นเป็นกระแสข่าวออกไปหลายอย่างมาก ทำให้รัฐมนตรีทุกคนรู้สึกหวั่นไหวและท้อใจ ซึ่งตนไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น ซึ่งตนพยายามสื่อสารในพรรคเพื่อไทยว่าอย่างไรเดี๋ยวจะคุยเอง ส่วนคำพูดของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำให้บั่นทอนจิตใจพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น นายกฯ กล่าวว่า ไม่ เมื่อสักครู่ก็นั่งอยู่ข้างๆ กันไม่ได้มีอะไร ไม่มีใครถามถึงเรื่องนี้เลย เมื่อถามว่ากระทรวงมหาดไทยทำงานไม่ดีจริงหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นั่นเป็นความคิดเห็นของนายทักษิณ แต่ตนยังไม่ได้ประเมินอะไร เดี๋ยวก็รอดู ส่วนมีการพูดคุยกับนายทักษิณ หรือไม่ว่าเหตุใดจึงให้สัมภาษณ์ นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า คุยกันทุกวัน หากถ่ายรูปมา เมื่อสักครู่ได้ตนก็คุยโทรศัพท์กับคุณพ่อ ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่าตอนนี้ถูกมองว่าเป็นการครอบงำพรรคเพื่อไทย นายกรัฐมนตรี […]

สภาผ่านฉลุย รับหลักการงบฯ 69 นายกฯ เชื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย

รัฐสภา 31 พ.ค.-สภาผ่านฉลุย รับหลักการงบฯ 69 วาระแรก เสียงท่วม 322 เสียง ตั้ง กมธ. 73 คน พบ “อนุดิษฐ์” โผล่เป็น กมธ.โควตารัฐบาล ด้านนายกฯ ขอบคุณสภาฯ ยันรัฐบาลจัดลำดับความสำคัญงบฯ ตามสถานการณ์ เชื่องบประมาณที่เสนอไปจะยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนคนไทยทุกคน ตั้งใจใช้เป็นเครื่องมือสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันสุดท้ายของการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 เป็นประธานการประชุม โดยหลังจากใช้เวลากว่า 3 วัน รวม 41 ชั่วโมง ที่ประชุมมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ด้วยคะแนน 322 ต่อ 158 เสียง ไม่ลงคะแนน 2 เสียง และตั้งคณะกรรมาธิการ จำนวน 73 คน ทั้งนี้ เป็นที่สังเกตว่า มีชื่อ […]

โฆษก ทบ. ยันสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ยังไม่ถึงขั้นต้องปิดด่าน

กองทัพบก 31 พ.ค.-โฆษก ทบ. ยืนยันสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังไม่ถึงขั้นต้องปิดด่าน แต่ยอมรับว่า แนวทางการปิดด่านเป็นแผนส่วนหนึ่งที่หน่วยงานระดับพื้นที่อาจพิจารณาใช้ เพื่อดูแลความมั่นคงและความปลอดภัยประชาชน พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ระบุถึงกรณีกระแสข่าวการพิจารณาปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชาบางจุดว่า ปกติจะเป็นส่วนหนึ่งของแผน สำหรับใช้ในการบริหารจัดการต่อสถานการณ์ ที่อาจส่งผลกระทบความมั่นคง และความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ของหน่วยงานในระดับพื้นที่ปัจจุบัน ซึ่งในขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานแต่อย่างใด ที่ผ่านมา การปิดด่านจะดำเนินการต่อเมื่อมีความจำเป็นจริง โดยในอดีตจะดำเนินการเฉพาะต่อเมื่อสถานการณ์ในพื้นที่นั้นๆ มีปัญหาที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศในระดับที่น่ากังวลสูง โดยเฉพาะข่าวสารที่น่าเชื่อว่าจะมีการใช้อาวุธระยะไกล ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยต่อพี่น้องประชาชน สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน หากพิจารณาในภาพรวม ส่วนใหญ่มีความเรียบร้อย มีเพียงบางจุดบางพื้นที่เท่านั้นที่อาจมีปัญหาอยู่บ้าง แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ไม่ก่อให้เกิดความน่ากังวลมากนัก เนื่องจากทั้งสองฝ่ายได้อาศัยกลไกที่มีอยู่ในระดับพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกัน ภายใต้กรอบข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายได้ยึดถือกันอยู่อย่างเคร่งครัด.-313.-สำนักข่าวไทย