มติวุฒิสภาเดินหน้าโหวตองค์กรอิสระ-สว.เสียงข้างน้อย วอล์กเอาต์วุ่น

รัฐสภา 30 พ.ค.- ตามคาด! “วุฒิสภา” เดินหน้าโหวตตั้งองค์กรอิสระ-ตุลาการศาล รธน. แม้ยอมให้ถกญัตติชะลอนานกว่า 3 ชั่วโมง ด้าน สว.เสียงข้างน้อย วอล์กเอาต์ไม่ขอร่วมสังฆกรรม พร้อมให้เหตุผลขัดกันแห่งผลประโยชน์ สว.กว่า 100 คนถูกกล่าวหาฮั้ว ขู่หากเดินหน้าเสี่ยงถูกร้องจริยธรรม ขณะที่ “ฉัตรวรรษ” โต้ ยังเป็น สว. ต้องปฏิบัติหน้าที่ต่อ ซัด “ดีเอสไอ” ดำเนินการโดยมิชอบ


การประชุมวุฒิสภาวันนี้มีนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม โดยได้แจ้งต่อที่ประชุมว่าในการระเบียบวาระเรื่องการพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ตามมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561) ซึ่งเป็นการประชุมลับ ขอให้สว.ใช้บัตรลงคะแนนของตัวเอง ไม่สามารถออกเสียงด้วยวาจาแทนได้ แต่ขอหารือหยิบยกเรื่องด่วนที่ 5.ขึ้นมาพิจารณาก่อน เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องและมีผลต่อการพิจารณาเรื่องให้ความเห็นชอบ คือเรื่องด่วนชอให้ ชะลอการตั้งคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการการเลือกตั้งและตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ รวมทั้งให้ความเห็นชอบกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ จนกว่ามีคำตัดสินในคดีที่สมาชิกวุฒิสภาจำนวนมากตกเป็นผู้ถูกร้องและผู้ร้องขณะนี้ ที่เสนอโดยนายเทวฤทธิ์ มณีฉาย

นายเทวฤทธิ์ กล่าวว่าต้องขอบคุณสมาชิกและวิปวุฒิที่ใจกว้างให้เลื่อนญัตตินี้ขึ้นมา และระบุว่าตนเข้าใจและเห็นใจเพื่อนสว.ทุกคนที่โดนเรียกไปรับทราบข้อกล่าวหา โดยเห็นกระบวนการไม่เป็นธรรมที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการปิดหมาย และเปิดเผยต่อสื่อ รวมถึงกรณีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมซึ่งกำกับดูแลดีเอสไอเข้าไปเกี่ยวข้อง ทั้งที่เรื่องนี้ควรให้องค์กรอิสระคือกกต.เข้ามาดำเนินงาน จึงนำเหตุและผลของสว.ที่ไปร้องเรื่องนี้เพื่อไม่ให้มีการแทรกแซง และคงไว้ซึ่งความเป็นอิสระในการตรวจสอบเรื่องนี้ โดยคำนึงถึงหลักการว่าด้วยการขัดกันแห่งผลประโยชน์ ความเป็นอิสระ ไม่ถูกแทรกแซง มาเสนอเป็นญัตตินี้ เนื่องจากการการประชุมวุฒิสภาก่อนหน้านี้ได้เสนอให้ตั้งคณะกรรมาธิการตรวจสอบประวัติและความประพฤติผู้ดำรงตำแหน่งกกต. 1 คน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 2คน รวมทั้งให้ความเห็นชอบบุคคลดำรงตำแหน่งกรรมการป.ป.ช. โดยที่องค์กรเหล่านี้ต่างเป็นองค์กรที่มีอำนาจหน้าที่ในการสืบสวน ไต่สวน พิจารณาคดีที่สว.จำนวนมากตกเป็นผู้ร้องและผู้ถูกร้องอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งส่งผลต่อการเห็นชอบและไม่เห็นชอบได้ ทั้งที่ร้องให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม สิ้นสุดลง ฐานแทรกแซงดีเอสไอ และกรณีที่สว.ถูกกล่าวหาว่าฝ่าฝืนพระราชบัญญัติการได้มาซึ่งสว.ดังนั้นเพื่อเป็นหลักประกันในกระบวนการดำเนินคดีของศาลรัฐธรรมนูญ กกต. และป.ป.ช. ที่สว.ตกเป็นผู้ร้องและผู้ถูกร้องในเวลานี้ จะดำเนินการโดยอิสระ ปราศจากการแทรกแซง จึงไม่ควรมีความสัมพันธ์กับผู้พิจารณาคดี และไม่ควรให้ความเห็นชอบผู้ดำรงตำแหน่งดังกล่าว เพราะอาจจะทำให้เกิดความสงสัย เคลือบแคลงในกระบวนการยุติธรรม ความเป็นกลาง และการขัดกันแห่งผลประโยชน์ ส่งผลต่อความเชื่อถือศรัทธาในการปฏิบัติหน้าที่ต่อวุฒิสภาและ 3 องค์กรดังกล่าว ดังนั้น จึงหนีไม่พ้นที่จะมองว่า เรื่องที่ดำเนินการอยู่นี้ผิดหลักการขัดกันแห่งผลประโยชน์ พร้อมเรียกร้องว่าไม่ควรปล่อยให้ สว. ทั้ง 13 คนซึ่งได้ลาออกจากกรรมาธิการฯ ต้องเดินตามหลักการอย่างโดดเดี่ยว เพราะพวกท่านนำทางไว้ให้เราแล้ว


ส่วนข้อกังวลว่า จะเกิดสุญญากาศหากไม่มีคนเข้าไปทำงานในองค์กรอิสระต่างๆ นั้น เทวฤทธิ์ระบุว่า เราไม่ได้ชะลอตลอดไป เพียงแค่ในช่วงที่มีการตรวจสอบ ซึ่งคาดว่า 6 เดือนน่าจะแล้วเสร็จ และยังมีรักษาการดำรงตำแหน่งอยู่ได้ พร้อมขอให้สมาชิกคำนึงถึงผลเสียที่จะตามมาระหว่างการเดินหน้าต่อหรือชะลอไปก่อน

ด้านนางสาวนันทนา นันทวโรภาส สว. กล่าวว่าหากไม่บรรจุวาระการเห็นชอบผู้ดำรงตำแหน่งกรรมการ ป.ป.ช.และวาระการตั้งกรรมาธิการสามัญพิจารณาคุณสมบัติองค์กรอิสระอย่างเร่งรีบในสมัยประชุมวิสามัญนี้ เราคงไม่ต้องพิจารณาญัตตินี้ในวันนี้ เมื่อมีการบรรจุญัตตินี้แล้วก็หวังว่า สมาชิกทุกท่านจะเปิดใจกว้าง รับฟังเหตุผลและเสียงของประชาชนผู้เป็นเจ้าของประเทศจนนำไปสู่การลงมติเห็นชอบให้มีการชะลอการลงมติใด ๆ เกี่ยวกับองค์กรอิสระออกไป พร้อมให้เหตุผลว่าที่สว.ต้องชะลอการลงมติเห็นชอบผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรองค์กรอิสระ เพราะสว.กว่าครึ่งสภาฯ กำลังถูกแจ้งข้อกล่าวหาเรื่องการเข้าสู่ตำแหน่งโดยมิชอบ โดย กกต. และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กำลังตรวจสอบอยู่ แม้ตามหลักกฎหมายจะถือว่าผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่ถือว่าเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้วเป็นผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย หาก สว.ลงมติเห็นชอบ กกต.จะเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์หรือไม่ เลือกคนเข้ามาตรวจสอบคดีของท่านหรือไม่ อย่างนี้จะเรียกว่ามีธรรมาภิบาลหรือไม่ หรือเป็นเรื่องต่างตอบแทนกัน ส่วนกรณี ป.ป.ช. สว. จำนวน 92 คนยื่นเรื่องร้องเรียนเพื่อเอาผิดกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ข้อหาละเว้นการปฎิบัติหน้าที่มาตรา 157 จากนั้นก็มีกลุ่ม สว.สำรองยื่นร้องเรียนต่อ ป.ป.ช.ให้ตรวจสอบจริยธรรมของ สว.92 คนข้อหาใช้อำนาจนิติบัญญัติก้าวก่ายการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ

“เมื่อท่านเป็นผู้ถูกร้องมีส่วนได้ส่วนเสีย โดยเป็นทั้งผู้ร้องและผู้ถูกร้อง แต่ท่านจะยังใช้สถานะ สว.คัดเลือก ป.ป.ช.จำนวน 3 คน เพื่อเข้าไปวินิจฉัยคดีของท่านอีกหรือ จะเป็นธรรมต่อผู้ร้องและผู้ถูกร้องหรือ หากท่านชนะคดีทั้งหมด คู่กรณีและประชาชนจะคิดอย่างไรขณะที่กรณีศาลรัฐธรรมนูญ สว. 92 คนยื่นร้องให้ตรวจสอบรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมในข้อหาฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ขอให้ถอดถอนจากตำแหน่ง และขอให้ศาลสั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมหยุดปฏิบัติหน้าที่ ท่านเป็นผู้ร้องหากเห็นชอบตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 2 ท่านเข้าไปดำรงตำแหน่งในขณะที่ท่านเป็นโจทก์อยู่จะเท่ากับว่าเป็นการเลือกผู้พิพากษามาตัดสินคดีของท่านเองหรือไม่ จะเป็นธรรมต่อฝ่ายจำเลยหรือไม่” นางสาวนันทนา กล่าว


นางสาวนันทนา กล่าวต่อว่า แม้ ไม่มีกฎหมายใดเปิดช่องให้หยุดปฎิบัติหน้าที่เป็นบางส่วนได้ หรืออาจมีผู้ร้องว่า สว.ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 แต่นี่เป็นครั้งแรกในรอบ 93 ปีของประชาธิปไตยไทยที่ สว.ถูกแจ้งข้อกล่าวหาเกินครึ่งสภาฯ ย่อมไม่มีกฎหมายไหนตามทัน เพราะเป็นเรื่องใหม่เพิ่งเกิดขึ้นในรุ่นนี้ เมื่อกฎหมายตามไม่ทันก็ต้องใช้จิตสำนึกและจริยธรรม ซึ่งศาสตราจารย์พิเศษ จรัญ ภักดีธนากุล อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้เสนอทางออกไว้ กฎหมายไม่ได้เขียนห้ามก็จริงแต่ประเด็นที่ละเอียดกว่ากฎหมายสมควรทำหรือไม่ มันจะฝ่าฝืนจริยธรรมหรือไม่ ต้องระมัดระวังอย่างยิ่ง ไม่เช่นนั้นที่คิดว่าไม่มีปัญหามันจะเป็นปัญหาใหญ่ เวลาตรวจสอบบุคคลที่ทำหน้าที่สำคัญต้องตรวจสอบทางจริยธรรมว่า เป็นแบบอย่างได้หรือไม่ เมื่อเราจะตรวจสอบเขา การตรวจสอบต้องมีมาตรฐานจริยธรรม เพราะฉะนั้นเพื่อความรอบคอบควรเลื่อนภารกิจนี้ไปก่อน เพราะคนในองค์กรอิสระยังทำงานได้อยู่ ไม่ได้มีเหตุว่าถ้าไม่ผ่านภายในวันนี้ เดือนนี้จะเกิดสุญญากาศ

ทั้งหมดเป็นคำแนะนำของปรมาจารย์ด้านกฎหมาย ที่ชี้ทางให้ สว.ทั้งหลายชะลอการทำหน้าที่เกี่ยวกับองค์กรอิสระออกไปก่อน เพื่อความสง่างามของการดำรงตำแหน่ง สว.และเพื่อไม่ให้การลงมติในวันนี้สร้างปัญหาต่อประเทศชาติและต่อตัวท่านเอง ทั้งนี้ สว.กลายเป็นเรื่องโด่งดังที่ประชาชนพากันจับตาว่า จุดจบของคดีนี้จะเป็นอย่างไร หากท่านทั้งหลายไม่ปิดหูปิดตาตนเอง ท่านย่อมทราบดีว่าขณะนี้ประชาชนจำนวนมากกล่าวขานถึง สว.ชุดนี้อย่างไร เขาคลางแคลงใจต่อที่มาของ สว.ชุดนี้มากเพียงใด

นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกวุฒิสภา อภิปรายสนับสนุนญัตติให้ชะลอการแต่งตั้งคณะกรรมาธิการการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งใสองค์กรอิสระว่า การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองไทยระยะหลังเกิดขึ้นเพราะองค์กรอิสระมาโดยตลอด นายกรัฐมนตรีบางคน ประชาชนเลือกเข้ามา 14- 15 ล้านเสียง แต่ก็ตกกระป๋องเพราะมติของกรรมการองค์กรอิสระเพียง 9 คน ทฤษฎีใหม่ทางการเมืองบอกว่า การควบคุมประเทศไทยต้องหาทางให้มีส่วนได้เสียในการแต่งตั้งองค์กรอิสระ ซึ่งก็มีคณะปฏิวัติรัฐประหารได้มีส่วนในการแต่งตั้งองค์กรอิสระแล้วก็ปกครองประเทศมายาวนาน ผู้มีอำนาจแต่งตั้งก็ไม่มีความผิด เหมือนอย่างกรณีที่รู้จักกันทั้งประเทศว่ายืมนาฬิกาเพื่อนก็ไม่ผิดเพราะองค์กรอิสระบอกว่าไม่ผิด องค์กรอิสระคือทฤษฎีควบคุมประเทศไทยยุคใหม่ แม้เราจะพ้นจากการปฏิวัติรัฐประหาร แต่เราก็มาเจอรูปแบบใหม่ในการควบคุมองค์กรอิสระ คือวุฒิสภา

“ทั้งนี้ เมื่อวุฒิสภาแต่งตั้งองค์กรอิสระแล้วอยู่ไปได้อย่างน้อย7-9 ปีโดยไม่มีการถอดถอน ไม่เหมือนรัฐธรรมนูญปี 2540 รัฐธรรมนูญฉบับแรกที่มีองค์กรอิสระ รัฐธรรมนูญปี 2540 แต่งตั้งและถอดถอนองค์กรอิสระได้ เพราะเป็นคนมีผิดชอบชั่วดีได้ผิดพลาดได้ แต่รัฐธรรมนูญปี 2560 ให้องค์กรอิสระอยู่ไปจนครบวาระแต่งตั้งเสร็จแล้วถอดถอนไม่ได้ เหมือนตีเช็คเปล่าแล้วไปกรอกตัวเลขเอาเอง ตรงนี้เป็นอันตราย ผมขอเตือนว่าอย่าให้ประเทศชาติถึงทางตัน คือคนเสื่อมศรัทธาองค์กรอิสระ เสื่อมศรัทธาต่อกระบวนการแต่งตั้งที่มีปัญหา วันนี้สว.ส่วนหนึ่งอยู่ในการไตร่สวนสอบสวนของกกต. วันนี้ก็มีการประกาศเพิ่มเติมเรียกผู้ถูกกล่าวหาไปชี้แจงอีก 22 คนรวมแล้วเป็น 127 คน จากจำนวนวุฒิสภา 200 คน เรื่องแบบนี้จึงต้องระวัง เพราะถ้าไม่ระวังเกิดเหตุเหตุภัยทีหลังจะเป็นผลอย่างที่อาจารย์จรัญภักดีธนากุลได้กล่าวเอาไว้” นพ.เปรมศักดิ์กล่าว

นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวว่า ตนมีความห่วงใยไม่อยากให้ติดกับดัก เราจะชะลอการแต่งตั้งไปก่อนได้หรือไม่ ถ้าเราพิสูจน์แก้ข้อกล่าวหาถึงที่มาแล้วเสร็จค่อยมาพิจารณาแต่งตั้งองค์กรอิสระถึงจะสง่างาม ไม่มีใครต่อว่าเราได้ อย่าลืมว่า เมื่อวุฒิสภาเลือกแล้วต้องนำรายชื่อผู้ได้รับการแต่งตั้งขึ้นทูลเกล้าฯเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธยเป็นขั้นตอนสุดท้าย เราจึงควรกลั่นกรองให้ใสสะอาดก่อนเพื่อไม่ให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทจะดีหรือไม่

สำหรับกรณีที่มีบางคนบอกว่า ถ้าสว.ไม่เลือกจะผิดมาตรา 157 ขอบอกว่าเป็นการพูดที่ใช้ตรรกะในทางที่ผิด เช่นเดียวกับตำรวจเห็นผู้ต้องหามีหมายจับปรากฏตัวต่อหน้าแล้วไม่จับนั่นผิดมาตรา 157 แต่กรณีนี้ไม่เกี่ยวกับมาตรา 157 เพราะเป็นการประชุมสมัยวิสามัญฯ ไม่บรรจุเรื่องนี้มาก็ได้รอไปพิจารณาในสมัยประชุมสามัญก็ได้ แต่เมื่อมีการบรรจุในระเบียบวาระแล้วให้ชะลอไว้ก่อนได้ การพิจารณาจะช้าหรือเร็วไม่สำคัญ แต่สำคัญตรงที่วุฒิสภาเลือกองค์กรอิสระต้องสง่างาม อย่ามองว่าวุฒิสภาจะทำอะไรก็ได้ อย่าลืมว่าวุฒิสภาอยู่ได้ต้องอาศัยความศรัทธาจากประชาชน ถ้าสวนกระแสประชาชนจะเป็นปัญหาภายหลังได้ เมื่อถึงวันนั้นเราจะเสียใจในภายหลัง วันนี้เรามีเครื่องมือมีอำนาจในการแต่งตั้งองค์กรอิสระ ถ้าเราทำอย่างสุกเอาเผากินไม่ฟังเสียงทักท้วงไม่ฟังเสียงใครมันจะกลายเป็นมูมเมอแรง ที่กว้างออกไปแรงมันก็จะย้อนกลับมาเร็วตัดคอพวกเราเอง

นาวาตรีวุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ ตนเข้าใจว่าสว. 100 กว่าคนยังเป็นผู้สงสัยในคดีฮั้วสว.อยู่ และเขื่อว่าสามารถชี้แจงได้ แต่การจะไปชี้แจงจะต้องไปที่กกต. ศาลธรรมนูญ จะเกิดปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นกระบวนการรวจสอบควรจะต้องเร่งรัด เพราะหากกระบวนการตรวจสอบยังล่าช้า จะทำให้กกต. ตุลาการศาลธรรมนูญ ป.ป.ช.จะต้องถูกสรรหาโดยกระบวนการที่มีอาจจะเกิดปัญหาในอนาคตเช่นกัน และทำให้ประชาชนอาจเกิดความไม่เชื่อมั่น ดังนั้นตนขอความกรุณาสว.ทุกคนให้ช่วยกัน เพราะวันนี้ประชาชนเฝ้าดูอยู่ว่าเราจะตัดสินกันอย่างไร ตนขอแค่เลื่อนไปสมัยประชุมปกติอีกเดือนเศษๆ และในระหว่างนี้ขอให้องค์กรที่ตรวจสอบทำงานอย่างเต็มที่ เชื่อว่าน่าจะเสร็จทันถ้าทำกันอย่างเต็มที่ ตอนนี้เห็นว่าบรรยากาศในวุฒิสภามีความเครียดกังวลกันไปหมด ไปไหนก็มีแต่คนถาม คนที่เคยเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็ก วันนี้ไม่มองหน้ากันไปแล้ว เพราะทุกคนมีความกังวลและเครียดว่าอีกคนเป็นคนของฝ่ายหนึ่งตลอด กลุ่มสว.ที่ไม่มีค่ายก็ถูกกล่าวหา กลุ่มที่มีค่ายก็โดนป้ายสี เหมือนปลาอยู่ในข้องเดียวกัน เวลาเน่า ก็เน่ากันหมด ดังนั้นวันนี้สังคมยังตัดสินเราอยู่ จึงควรเลื่อนการพิจารณาออกไปก่อนจนเปิดสมัยประชุมปกติ

“จะมีอะไรเสียหาย คนที่เสียหายไม่ใช่สว. คนที่ตรวจสอบทำให้เราทำงานไม่ได้ ดังนั้นเราต้องแก้ข้อกล่าวหา ตอนนี้มีข่าวลือสารพัด ว่าคนที่เป็นองค์กรอิสระจะต้องไปแถวซอยรางน้ำบ้าง ซึ่งก็ไม่รู้ไปทำอะไร หรือต้องไปจังหวัดที่มีโพเดี้ยมใหญ่ๆ ก็ไม่รู้ไปทำอะไร ไปจริงหรือไม่ก็ไม่ทราบ ข่าวลือหรือไม่ ดังนั้นการเผชิญหน้ากับข่าวลือที่ดีที่สุด คือการชี้แจงความเป็นจริง ไม่ควรให้คนที่พูดความจริงต้องรับผิดชอบโดยการเอาไปบูชายันต์ ท่านครับ ท่านประธานครับ เพื่อสมาชิกครับ ขอความกรุณา ถ้าเราไต่ตรองให้ดี ขอให้เลื่อนเวลาไปพิจารณาในสมัยประชุมปกติ ผมว่าประชาชนจะยินดีเป็นอย่างยิ่ง และชื่นชมความเสียสละของพวกเรา ไม่ว่าท่านจะได้รับอะไรมาก็ตาม หรือรับคำสั่งจากใครมาก็ตาม วันนี้ขอความกรุณางดฟังคำสั่งที่มาโดยไม่ถูกต้อง ใช้หัวใจและสมองของท่าน คิดอย่างไรลงมติตามนั้น เพราะสว.ทั้งหลายมาจากเสียงประชาชน” นาวาตรีวุฒิพงศ์ กล่าว

ด้าน พล.ต.ต. ฉัตรวรรษ แสงเพชร ลุกขึ้นอภิปรายว่า เมื่อเช้า ตนมาไม่ทัน นายเทวฤทธิ์พูดว่าตนขอถอนตัวออกจากการตรวจสอบ โดยการลาออกจากการเป็นคณะกรรมการ ตนชี้แจงว่าเรื่องลาออกนั้น ไม่ใช่เรื่องที่การยื่นญัตติ แต่เป็นเรื่องที่ตนสำนึกว่าตนไปยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เรื่องการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จึงขอให้ทราบว่าเป็นคนละประเด็นกัน ตนขอเรียนให้ที่ประชุมแห่งนี้ได้รับทราบว่า สว. เรามาจากกลุ่มอาชีพมากมาย เรารับการถูกกระทำมาโดยตลอด ตั้งแต่เรื่องการสืบสวน การร้องเรียน ไม่ว่าจะเป็นองค์กรใดก็แล้วแต่ ประเด็นที่ทำให้ตนและเพื่อนสมาชิกส่วนหนึ่งเป็นผู้ถูกกล่าวหาโดยคณะอนุกรรมการไต่สวนของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เริ่มมาจากการที่อธิบดีดีเอสไอ รับคดีการได้มาซึ่ง สว. ซึ่งตามอำนาจหน้าที่สามารถสืบสวนได้ แต่ไม่มีอำนาจที่จะพิจารณาเป็นคดีพิเศษ ต้องส่งให้ กกต. เป็นผู้พิจารณาวินิจฉัย ซึ่งตามข้อเท็จจริง กกต. ก็พิจารณาหลายเรื่องเกี่ยวกับการได้มาซึ่ง สว. การกระทำของดีเอสไอจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งเรื่องนี้ ตนได้ยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ และ ป.ป.ช.ให้พิจารณาเรื่องจริยธรรม เราก็ปล่อยให้เป็นคดีไป สื่อมวลชนจะว่าอย่างไร เราก็ถือว่าปกป้องสิทธิ์สมาชิกวุฒิสภาทุกท่านที่ได้มาอยู่ในสภาแห่งนี้

พล.ต.ต. ฉัตรวรรษ ไล่เรียงว่า พอดีเอสไอตั้งเป็นคดีพิเศษปั๊บ ก็ไม่หยุดการดำเนินการ ยังดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ซึ่งไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่มีกฎหมายให้อำนาจ ย่อมไม่สามารถที่จะทำได้ จนคณะไต่สวนที่ 26 ของ กกต. ก็นำเรื่องทั้งหมดเข้ามาพิจารณา แต่มี 3 คนมาจากดีเอสไอ ที่เชื่อได้ว่านำสำนวนการสอบสวนที่ดีเอสไอไม่สามารถดำเนินการต่อได้ ส่งให้ส่งคณะอนุฯไต่สวนทำต่อ ซึ่งเราก็ยินดีที่จะรับทราบข้อกล่าวหา แต่ข้อกล่าวหาดังกล่าวไม่สามารถให้รายละเอียดข้อเท็จจริงที่ถูกกล่าวหาได้ แม้กระทั่งผู้ตั้งคำถามหรือผู้ที่แจ้งการกระทำผิด ก็ยังไม่สามารถที่จะตอบคำถามได้ ตนได้นั่งคุยกับคณะสอบสวนในชุดนี้ เขาไม่สามารถที่จะตอบได้ถึงพฤติการณ์ที่กล่าวหา

“แล้วจู่ๆ จะมาให้เพื่อนสมาชิกวุฒิสภาที่ถูกกล่าวหานั้นหยุดปฎิบัติหน้าที่ได้อย่างไร ซึ่งเรื่องนี้ผมก็ได้ขอความเป็นธรรมต่อประธาน กกต. เรียบร้อยแล้ว” พล.ต.ต. ฉัตรวรรษ กล่าว

พล.ต.ต. ฉัตรวรรษ ระบุว่า การเรียกเข้าไปรับทราบข้อกล่าวหาเป็นการกระทำโดยมิชอบ หวังผลประการใดประการหนึ่ง จงใจให้ได้รับความเสียหาย จึงจะเข้าสู่ประเด็นว่า สว. ที่ถูกกล่าวหานั้นขาดจริยธรรมหรือไม่

“ผมมองว่าจริยธรรม มันต้องเกิดจากการกระทำของบุคคลนั้นๆ ในสิ่งที่ไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติของกฎหมาย ขนบธรรมเนียม ประเพณีอันดีงาม แต่จะถามหาจริยธรรมในครั้งนี้ เราถูกกระทำจากอำนาจที่ใช้โดยมิชอบ เพราะฉะนั้น จึงถือว่าผมยังเป็นคนหนึ่งที่ได้มาได้มาจากการได้รับการเป็นสมาชิกวุฒิสภา โดยสุจริตและเที่ยงธรรม ตามที่ กกต. ให้การรับรองไว้” พล.ต.ต. ฉัตรวรรษ กล่าว

พล.ต.ต. ฉัตรวรรษ กล่าวอีกว่า วันนี้เพื่อนสมาชิกส่วนใหญ่มองว่าอาจจะเป็นการขัดกันของผลประโยชน์ของ เป็นเรื่องของจริยธรรม ไม่ควรที่จะมาตั้งคณะกรรมาธิการตรวจสอบประวัติตนขอยืนยันว่าเรามีขั้นตอนในการดำเนินการตามระเบียบของข้อบังคับสภา เราไม่สามารถดำเนินการนอกเหนือระเบียบที่ตั้งไว้ได้ จะต้องดำเนินการตามที่มีกรอบระยะเวลาตามที่กฎหมายหรือรัฐธรรมนูญกำหนดไว้อย่างชัดเจน การตรวจสอบประวัติ เราไม่ได้ตรวจสอบโดยคณะกรรมาธิการอย่างเดียว เราตรวจสอบไปยังองค์กรต่างๆในส่วนที่เกี่ยวข้องหลายส่วนมาก

“อย่ามาว่ามีจริยธรรมหรือไม่ ตราบใดที่ผมยังไม่เชื่อมั่นในองค์กรที่สอบสวนหรือไต่สวน ผมถือว่าผมยังเป็นผู้มีจริยธรรม รวมทั้งเพื่อสมาชิกที่ถูกกล่าวหาทุกท่าน จึงไม่อาจที่จะชะลอการดำเนินดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการสามัญตามวาระวันที่ 30 พ.ค. นี้ได้” พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ กล่าว

หลังจากที่ สว. อภิปรายครบถ้วนแล้ว ได้มีมติไม่เห็นด้วยกับญัตติของนายเทวฤทธิ์ด้วยคะแนนเสียง 125 ต่อ 37 เสียง งดออกเสียง 12 เสียง จึงเดินหน้าพิจารณาเรื่องตามวาระที่กำหนดไว้ในระเบียบวาระต่อไป อย่างไรก็ตามหลังการลงมติ นายเปรมศักดิ์ นส.นันทนา ลุกขึ้นยืนพร้อมกล่าวว่าไม่ขอร่วมสังฆกรรมกับการประชุมวุฒิสภาในการตั้งกรรมการในองค์กรอิสระ และสว.เสียงข้างน้อยได้วอล์คเอ้าท์ หรือประท้วงเดินทางออกจากห้องประชุมทันที.312 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

วันที่ 3 ปะทะเดือดสะบ้าย้อย ยังเคลียร์พื้นที่ไม่ได้

สงขลา 13 ก.ย.-เข้าสู่วันที่ 3 เหตุปะทะเดือด อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เช้านี้ยังยิงปะทะกันต่อเนื่อง ยังไม่สามารถเข้าเคลียร์พื้นที่ได้ จนชาวบ้านไม่กล้าออกจากบ้าน วันนี้เป็นวันที่ 3 หลังวานนี้ เกิดเสียงยิงปะทะดังสนั่นหวั่นไหว บนเนินเขา หมู่ 7 ต.คูหา อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา และหลังจากเสียงปืนสงบ ได้มีการเข้าเคลียร์พื้นที่โดยเชิญผู้นำศาสนาเข้าไปในพื้นที่เพื่อตรวจสอบและเป็นสักขีพยาน หลังเจ้าหน้าที่ ยืนยันพบผู้ก่อความไม่สงบเสียชีวิต 1 ราย และเมื่อคืนที่ผ่านมา ก็มีการปะทะต่อเนื่องประมาณ 2-3 ครั้ง ล่าสุด เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้ยินเสียงปะทะขึ้นอีกกว่า 10 ครั้งแล้ว ดังมาจากจุดใกล้จุดเกิดเหตุ เมื่อวานนี้ แต่ถึงขณะนี้ยังไม่สามารถเข้าเคลียร์พื้นที่ได้ ทราบเพียงว่าในส่วนของเจ้าหน้าที่ปลอดภัยทุกนาย และ เจ้าหน้าที่ยังคงใช้ความระมัดระวัง โดยมีการใช้โดรนบินลาดตระเวนตลอดตั้งแต่เช้าและขยับเคลื่อนกำลังเข้าทุกพื้นที่ เพื่อเป็นการกดดัน และจำกัดวงล้อรอบเทือกเขา หาตัวผู้ก่อความไม่สงบในการปฏิบัติงาน เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขา และติดกับอำเภอนาทวี จ.สงขลา ซึ่งคนร้ายอาจจะ หลบหนี ได้ จากแหล่งข่าวความมั่นคง คาด ยังมีคนร้าย หลบหนี […]

“บิ๊กตู่” ส่งดอกไม้ พร้อมการ์ดอวยพรวันเกิด “อนุทิน”

พรรคภูมิใจไทย 13 ก.ย. – “บิ๊กตู่-สมาคมไทยจีน” ส่งดอกไม้ พร้อมการ์ดอวยพรวันเกิด “อนุทิน” ครบรอบ 59 ปี ขณะที่แกนนำพรรคจ่อเบิร์ธเดย์เย็นนี้ บรรยากาศที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา มีสื่อมวลชนมารอทำข่าว เนื่องในวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 59 ปี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย โดยมีบุคคลสำคัญและภาคธุรกิจ ส่งดอกไม้พร้อมการ์ดอวยพรมาแสดงความยินดีอย่างต่อเนื่อง อาทิ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี นางนราพร จันทร์โอชา ภริยา และสมาคมมิตรภาพไทย-จีน โดยในช่วงเช้าวันนี้นายอนุทิน ได้เดินทางไปทำภารกิจส่วนตัว พร้อมนางสาวธนนนท์ นิรามิษ ภรรยา ที่จังหวัดระนอง ขณะที่ช่วงเย็นนั้น มีรายงานว่า พรรคภูมิใจไทยจะประชุมพรรคในเวลา 17.00 น. โดยจะมีแกนนำและสมาชิกพรรค ร่วมอวยพรวันเกิดให้แก่นายอนุทินด้วย ขณะที่ ช่วงค่ำเมื่อวานนี้ (12 ก.ย.) นายอนุทิน ได้โพสต์ภาพรับพระราชทานแจกันดอกไม้ พร้อมเขียนข้อความ โดยระบุว่า กราบสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ […]

ไฟไหม้ตลาดพาหุรัด สาเหตุไฟฟ้าลัดวงจรปลั๊กไฟต่อพ่วง

กทม. 13 ก.ย.-ระทึกกลางดึก! ไฟไหม้ตลาดพาหุรัด จนท.อพยพผู้พักอาศัย ใช้เวลา 20 นาที ควบคุมเพลิงไว้ได้ สาเหตุไฟฟ้าลัดวงจรปลั๊กไฟต่อพ่วง เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 13 ก.ย.68 ร.ต.ท.สิทธิชัย ขัดแก้ว รองสารวัตร(สอบสวน) สน.พระราชวัง รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ใกล้เคียงโรงแรมไชน่าเวิลด์ ถนนพาหุรัด แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยภูเขาทอง ที่เกิดเหตุเป็นอาคาร 3 ชั้น ตลาดพาหุรัด ศูนย์ค้าผ้าและเครื่องประดับ พบมีกลุ่มควันจำนวนมาก บริเวณชั้นที่ 2 เจ้าหน้าที่จึงเร่งช่วยเหลืออพยพผู้พักอาศัยติดค้างอยู่ออกจากพื้นที่อย่างปลอดภัย จากการตรวจสอบบริเวณชั้น 1 ภายในร้านประกอบกิจการจำหน่ายเสื้อผ้าและเครื่องประดับ พบมีแสงเพลิงไหม้ จึงใช้น้ำฉีดทำการดับประมาณ 20 นาทีเพลิงสงบลง พื้นที่เสียหายประมาณ 24 ตารางเมตร เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พบสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรที่ปลั๊กไฟต่อพ่วง สถานที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย

ไทยฝนฟ้าคะนอง ตกหนักบางแห่ง

กทม. 13 ก.ย.-กรมอุตุฯ รายงานไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง และฝนตกหนักบางแห่งในภาคอีสาน ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตะวันออก และใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน […]