ก.มหาดไทย 4 เม.ย.-ที่ปรึกษาวิศวกรรมสถานฯ ให้ความมั่นใจ 13,000 ตึกที่มีปัญหาทั่ว กทม. ปลอดภัย รับมีแค่ 2 แห่งที่เป็นสีแดง เล็งใช้วิธีเย็บตึกเสริมแกร่ง รพ.ราชวิถี ด้าน นายกสภาวิศวกรฯ ให้ความมั่นใจศูนย์ราชการตึกเอ รอยร้าวเป็นรอยเดิม เห็นทุกวัน ขออย่าตื่นตระหนก
นายเอนก ศิริพานิชกร ที่ปรึกษาสาขาวิศวกรรม วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) กล่าวภายหลังประชุมร่วมกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ และคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงการก่อสร้างอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)แห่งใหม่ ถล่มจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ว่า ประเทศไทยยืนยันว่ามีกฎกระทรวงตั้งแต่ปี 2550 และมีมาตรฐานล่าสุด ตาม พ.ร.บ. ปี 2561 ซึ่งวัดการสั่นไหวโดยใช้ประวัติแผ่นดินไหว 2500 ปี เป็นจำนวนที่สูงมาก เมื่อดูค่าแผ่นดินไหวในที่เกิดเหตุต่ำกว่าที่เราออกแบบป้องกันไว้เมื่อปี 2564 ซึ่งตึกนี้แม้จะเป็นกฎกระทรวงเดิม แต่ขอให้มั่นใจมาตรฐานที่มีอยู่ยังสามารถใช้การได้ จะเห็นทุกอาคารใน กทม. สามารถสู้กับเหตุแผ่นดินไหวได้ ยกเว้นอาคารแห่งนี้ จึงขอให้มั่นใจกฎกระทรวงและมั่นใจกรมโยธาและผังเมือง
ส่วนคนที่อยู่ในเหตุการณ์และอาศัยอยู่บนคอนโด ที่มีอาการแพนิค แม้จะมีการตรวจสอบ และทาง กทม. ประกาศให้สามารถเข้าที่พักได้แล้วนั้น นายเอนก บอกว่า ทางสภาวิศวกรรมสถานฯ ร่วมกับ กทม. ได้มีการร่วมตรวจสอบตึกทั้งหมดของ กทม. จำนวน 13,000 เคส พบว่าในคอนโด ปัญหาจริงๆคือเรื่องของแท็งก์น้ำที่อยู่บนดาดฟ้าของคอนโด ส่วนใหญ่แตกและพบว่ามีทั้งหมด 30 เคสที่แตก ส่วนปัญหาที่สองคือเรื่องลิฟท์ ก็คือปัญหาความแข็งแรง ส่วนใหญ่จะเป็นการแตกร้าวบนผนัง และในจำนวน 13,000 เคส เราให้ใบแดงแค่ 2 ตึก ดังนั้นอาคารที่เหลือสามารถเข้าอยู่อาศัยได้
ส่วนกรณีโรงพยาบาลราชวิถี และอีกโรงบาลหนึ่งใน กทม. เสียหายตรงกำแพงรับน้ำหนัก ทางสภาวิศวกรรมฯ ก็จะร่วมกับกรมโยธาและผังเมือง ตรวจสอบ และยืนยันว่าจะทำให้เป็นใบเขียวให้ได้ โดยใช้วิธีการทางวิศวกรรม โดยในวันพรุ่งนี้นายกสภาวิศวกร จะไปเปิดศูนย์กองอำนวยการร่วม สภาวิศวกร ร่วมกับกรมโยธาธิการและผังเมือง ที่ให้ใบแดงไว้ทั้งหมด 34 หลัง รวมต่างจังหวัด และบางส่วนเช่น ตึกราชวิถี เปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีเหลือง จะเป็นเรื่องเร่งด่วนเพื่อ บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน
“การซ่อมตึกโรงพยาบาลราชวิถี เราจะใช้วิธีการทางวิศวกรรมด้วยการเย็บ เสริมเหล็กเข้าไป โดยการยัดสารเคมีในแนวตั้ง แล้วใช้แผ่นเหล็กแปะเข้าไป ซึ่งโรงพยาบาลราชวิถีเสียหายเพียงแค่ชั้นเดียวไม่ได้หมายความว่าเสียหายทั้งอาคาร ยืนยันว่าจะทำให้โรงพยาบาลราชวิถีกลับมาเป็นสีเขียว โดยจะมีการคำนวณ ซึ่งจะไม่อันตราย และเชื่อมั่นว่าในจำนวน 13,000 ตึกที่มีความเสียหาย เข้าใจว่าปัญหาทุกอย่างเกือบหมดแล้ว” นายเอนก กล่าว
ทางด้าน นายธเนศ วีระศิริ นายกสภาวิศวกร กล่าวถึงศูนย์ราชการฯ อาคารเอ ว่า วันนั้นตนเข้าไปทำงานพอดี ซึ่งอาคารเอ เป็นอาคารที่อยู่ด้านหลัง ตนทำงานมา 13 ปี โดยในเหตุการณ์มี 1-2 คนที่นั่งอยู่ในจุดดังกล่าว รู้สึกสั่นไหว จึงเป็นสิทธิ์ที่จะรู้สึกไม่สบายใจได้ โดยตนได้เข้าไปดูพร้อมกับหน่วยที่ดูแลอาคารดังกล่าว ซึ่งมีการชี้จุดรอยร้าวตามตำแหน่งต่างๆ รอยร้าววันที่ 28 มีนาคม ซึ่งเกิดแผ่นดินไหว จะสังเกตได้จากบันไดใต้อาคาร อยู่บริเวณใต้ท้องอาคาร ในอาคารสูงหลายหลายแห่ง เรื่องของรอยผนังร้าว ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาหลังจากการโยกของอาคาร จึงทำให้ผนังแตกร้าว แต่สิ่งหนึ่งที่ตนได้ไปดูคือรอยแตกร้าว ที่ตนเห็นอยู่เป็นประจำ ซึ่งเป็นรอยเก่าจริงๆ เนื่องจากดูมาตลอดเพราะเป็นวิศวกร โดยตอนนี้ได้กรมโยธาธิการและผังเมือง เข้าไปตรวจในพื้นที่ด้วย ซึ่งไม่ควรมองด้วยลักษณะทางกายภาพด้วยสายตาเพียงอย่างเดียว ดังนั้นการจะปลดจากแดงมาเป็นเขียว จะต้องมีการตรวจวัด โดยกรมโยธาธิการและผังเมืองได้มีการเข้าไปตรวจวัด ซึ่งตนมองเห็นเป็นของเก่าอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นจึงมีการตรวจกันในหลายจุด และกลับเข้าใช้งานตามปกติ จึงไม่จำเป็นต้องกังวลเนื้อเรื่องนี้ แต่หากมีความไม่สบายใจ ขอให้บอก
“ตัวอาคารเอ ที่มีมีความรู้สึกว่าอาคารเอียงนั้น จริงๆแล้วการออกแบบเป็นรูปทรงป้านไปข้างบน และอาคารบี ก็มีรูปทรงคล้ายๆกัน อย่างล่าสุดมีรอยร้าวที่โคนเสาอยู่จุดหนึ่งของอาคารเอ ซึ่งได้มีการแก้ไขเสร็จเรียบร้อย แต่ความไม่สบายใจจึงรื้อออกมา และมีการวัดดูด้วยเครื่องมือ Seismic Test มีการซ่อมกลับเข้าไปใหม่ อย่างน้อยก็เริ่มใช้ข้อมูลวิทยาศาสตร์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนให้สบายใจในจุดนี้ด้วย การเปลี่ยนแดงเป็นเหลือง เหลืองเป็นเขียว ต้องใช้เครื่องมือนี้เข้ามาพิสูจน์” นายธเนศ กล่าว.-315.-สำนักข่าวไทย