“พาณิชย” เดินหน้าคุมเข้มมาตรฐานสินค้า ปกป้องผู้บริโภคและ SME ไทย

31 ม.ค. – “พิชัย” นำพาณิชย์ ผนึกกำลังรัฐ-แพลตฟอร์มออนไลน์ยักษ์ใหญ่ 16 หน่วยงาน เดินหน้าคุมเข้มมาตรฐานสินค้า ปกป้องผู้บริโภคและ SME ไทย ย้ำปี 2568 เศรษฐกิจไทยโตกว่า 3% วอนแบงก์ชาติช่วยแก้หนี้คนไทย


นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดงานพิธีประกาศเจตจำนงความร่วมมือในการปกป้องคุ้มครองผู้บริโภคจากสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพมาตรฐานบนแพลตฟอร์ม e-Commerce ระหว่างหน่วยงานภาครัฐกับผู้ประกอบธุรกิจบริการแพลตฟอร์ม โดยมีนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ร่วมด้วย ซึ่งจัดโดยกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เพื่อสร้างความร่วมมือในการกำกับดูแลสินค้าที่วางขายบนแพลตฟอร์ม e-Commerce รวมถึงสร้างความตระหนักรู้ให้กับประชาชนเกี่ยวกับความสำคัญและความจำเป็นของการไม่ซื้อขายสินค้าที่ผิดกฎหมาย ซึ่งจะส่งเสริมการทำธุรกรรมซื้อขายสินค้าบนแพลตฟอร์ม e-Commerce ให้มีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น และคุ้มครอง SME ของไทย

โดยการประกาศเจตจำนงในครั้งนี้ เป็นมาตรการเสริมควบคู่ไปกับการบังคับใช้กฎหมาย ที่เข้มงวดของหน่วยงานภายใต้คณะกรรมการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ซึ่งเกิดขึ้นจากความห่วงใยของนายกรัฐมนตรี (นางสาวแพทองธาร ชินวัตร) ต่อพี่น้องประชาชนชาวไทยกับปัญหาสินค้านำเข้าไม่มีคุณภาพมาตรฐานตลอดจนธุรกิจต่างประเทศที่เข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศอย่างฝ่าฝืนกฎหมาย ซึ่งจะช่วยปกป้องคุ้มครองผู้บริโภคจากการขายสินค้าที่ไม่มีคุณภาพมาตรฐานบนแพลตฟอร์มแล้ว และสร้างระบบนิเวศ (ecosystem) ในการดำเนินธุรกิจ e-Commerce ให้เติบโตอย่างยั่งยืน


การจัดงานครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง และผู้ประกอบธุรกิจบริการแพลตฟอร์มชั้นนำที่จำหน่ายสินค้าในประเทศไทยเข้าร่วมประกาศเจตจำนง จำนวน 16 หน่วยงาน ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์ อุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ กรมทรัพย์สินทางปัญญา กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมการค้าต่างประเทศ BIGXSHOW / eBay / Lazada / LINE SHOPPING / Nex Gen Commerce / NocNoc /  Shopee /TEMU / TikTok Shop ภายหลังจากการประกาศเจตจำนงฯ นี้ หน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง จะมีการบูรณาการความร่วมมือระหว่างกันในการปกป้องคุ้มครองผู้บริโภคจากสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพมาตรฐานบนแพลตฟอร์ม e-Commerce ให้เห็นผลเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น เช่น การจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรับรู้ถึงการซื้อขายสินค้าที่มีคุณภาพมาตรฐานและถูกกฎหมายให้เข้าถึงผู้บริโภคและผู้ประกอบการ Online ในวงกว้าง รวมทั้งการจัดทำแนวปฏิบัติที่ดี (Best practice) ในการกำกับดูแลสินค้าที่ไม่มีคุณภาพมาตรฐาน เพื่อให้หน่วยงานมีแนวทางการทำงานร่วมกันที่ชัดเจน สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“ธุรกิจออนไลน์ในอนาคตจะโตขึ้นเรื่อยๆ เราต้องเซ็ตระบบให้มีมาตรฐาน มีคุณภาพ งานนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ทุกภาคส่วนจะได้ประโยชน์ และวันจันทร์นี้ (3 ก.พ.68) ตนจะเดินทางไปที่สหรัฐอเมริกา เพื่อหารือเรื่องนโยบาย Tariffs (ภาษี)ของอเมริกา เป็นเรื่องที่เราให้ความสนใจ วันนี้ผมได้หารือกับหอการค้าไทยที่มาให้ข้อมูลให้ประเทศไทยสามารถเดินหน้าได้โดยไม่มีอุปสรรค เชื่อว่ายังสามารถเจรจาได้ ซึ่งมีการนัดหมายกับหลายฝ่าย ทั้ง สส. วุฒิสมาชิก ตอนนี้แนวโน้มเศรษฐกิจไทยดีมาก การส่งออกปี 2567 เราโตถึง 5.4% และมีการขอส่งเสริมการลงทุนสูงถึง 1.13 ล้านล้านบาท ทั้งการส่งออก การท่องเที่ยว และการลงทุนที่ไหลเข้ามาจะเป็น Snowball Effect ที่จะช่วยผลักดันเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง และเชื่อว่าปีนี้การส่งออกไทยจะดีขึ้น แต่ที่ยังมีปัญหาคือเรื่องหนี้เก่าที่เกิดจากเศรษฐกิจตกต่ำมานาน และเรื่องค่าเงินที่เริ่มแข็งค่า ต้องช่วยกันให้ประเทศเราหลุดพ้นจากประเทศกับดักรายได้ปานกลาง ยกระดับรายได้ของคนส่วนใหญ่ ทั้งนี้เชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยจะโตเกิน 3% ในปี 2568 แต่แบงก์ชาติชี้โตไม่เกิน 2.9% ซึ่งส่วนตัวมองว่า แบงก์ชาติต้องเข้ามาช่วยเรื่องแก้หนี้ให้กับพี่น้องคนไทยด้วย“ นายพิชัย กล่าว

ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการบังคับใช้กฎหมายตามอำนาจหน้าที่อย่างเคร่งครัดและต่อเนื่อง โดยเฉพาะหน่วยงานซึ่งบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพมาตรฐานและความปลอดภัยของสินค้า อาทิ อย. สมอ. สคบ. และศุลกากรที่กำกับดูแลสินค้าที่นำเข้ามาในประเทศในช่วง ต.ค.-ธ.ค. 2567 สามารถดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดและฝ่าฝืนกฎหมายแล้ว จำนวน 16,651 คดี มูลค่าความเสียหายรวม 984.69 ล้านบาท และจากการดำเนินงานที่เข้มงวดของคณะกรรมการฯ ส่งผลให้การนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศจากทั่วโลกผ่าน e-Commerce (ก.ค. – ธ.ค. 2567) ลดลง 8% เหลือเฉลี่ยเดือนละ 3,645 ล้านบาท(จากเดิมก่อนมีมาตรการ ช่วง ม.ค. – มิ.ย.2567 เฉลี่ยเดือนละ 3,957 ล้านบาท).-513-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

กกต.แถลงความพร้อมเลือกตั้ง อบจ. พรุ่งนี้ คาดรู้ผลไม่เป็นทางการ 4 ทุ่ม

กกต. แถลงความพร้อมเลือกตั้ง อบจ. 90,715 หน่วย พรุ่งนี้ คาดรู้ผลคะแนนไม่เป็นทางการ 4 ทุ่ม รับถกปม “ทักษิณ” ปราศรัยแจกเงินหมื่นหาเสียง อบจ.

ประธาน กกต.คุมเข้มคืนหมาหอน เลือกตั้งนายก อบจ.

ประธาน กกต. ลงพื้นที่ตรวจความเรียบร้อย การส่งมอบบัตรเลือกตั้งและวัสดุการเลือกตั้งนายกและสมาชิก อบจ. ที่จังหวัดเชียงใหม่ เผยจนถึงเวลานี้มีเรื่องร้องเรียนจากทั่วประเทศกว่า 150 เรื่อง

ปล่อยตัวคนไทย

ครอบครัวแรงงานไทยหนึ่งเดียวที่ยังถูกจับเป็นตัวประกันยังมีหวัง

ครอบครัวของแรงงานไทยอีก 1 คนที่ยังถูกจับเป็นตัวประกัน ยังรอคอยด้วยความหวังจะได้รับการปล่อยตัวเช่นเดียวกับ 5 คนไทย และหากกลับมาได้จะไม่ให้ไปทำงานที่อิสราเอลอีก

ไฟไหม้บริษัทแครี่บอย

เร่งหาสาเหตุไฟไหม้โรงงานประกอบรถยนต์ย่านลาดกระบัง

เร่งหาสาเหตุไฟไหม้โรงงานประกอบรถยนต์ ย่านลาดกระบัง อาคารเริ่มทรุดตัว ด้าน “ผู้ว่าฯ ชัชชาติ” ลงพื้นที่เตือนชาวบ้านระวังอันตราย อากาศปิด ควันไฟซ้ำเติมฝุ่นพิษ