ชาวจีนปล้นเพื่อนร่วมชาติ 2 เคส เสียหายรวม 13 ล้าน

กทม. 9 ม.ค.- ห้วยขวางระทึก เกิดเหตุชาวจีนปล้นเพื่อนร่วมชาติ 2 เคสรวด มูลค่าความเสียหายรวม 13 ล้านบาท


เวลาประมาณ 15.55 น. ตำรวจได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่า มีผู้เสียหายชาวจีน 1 คน ถูกชาย 3 คน วิ่งราวทรัพย์เป็นเงิน 5 ล้านบาท จากการสอบถามเบื้องต้น ผู้เสียหายได้นัดทำการแลกเงินเปลี่ยนเป็นเหรียญคลิปโท โดยได้นำเงินสด 5 ล้านบาท ใส่กระเป๋าสีดำมาให้ผู้ก่อเหตุที่บ้านหลังหนึ่ง ภายในซอยประชาราษฏร์บำเพ็ญ 12 เขตห้วยขวาง วางกระเป๋าเงินลงบนโต๊ะ จากนั้นกลุ่มผู้ก่อเหตุได้นำกระเป๋าเงินดังกล่าวหลบหนีขึ้นรถตู้สีขาว ทะเบียน 2ขล 2233 กทม. มุ่งหน้าอโศก ซึ่งผู้เสียหายได้นั่งรถจักรยานยนต์รับจ้างติดตามไป แต่ไม่ทัน จึงเข้าแจ้งความที่ สน.ห้วยขวาง

พันตำรวจเอกประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผู้กำกับการ สน.ห้วยขวาง เปิดเผยว่าเหตุเกิดขึ้นภายในร้านรับส่งพัสดุ แห่งหนึ่งภายในซอยประชาราษฎร์บำเพ็ญ 12 เป็นเหตุวิ่งราวทรัพย์ ที่ผู้เสียหายนำเงินสดจำนวน 5 ล้านบาท มา แลกเป็นเหรียญคริปโท โดยระหว่างการเจรจา ฝั่งผู้ก่อเหตุแจ้งว่าได้โอนเงินเข้าไปยังบัญชีผู้เสียหายแล้ว แต่ผู้เสียหายตรวจสอบกลับพบว่าไม่มีเงินคริปโทโอนเข้ามา จึงเกิดเหตุทะเลาะกัน จากนั้นกลุ่มผู้ก่อเหตุที่คิดว่าได้โอนเงินให้แล้วจึงนำเงินดังกล่าวไป


เบื้องต้นตำรวจ พบว่าภายในกระเป๋าเงินสดที่ผู้ก่อเหตุนำไปนั้น ผู้เสียหายใส่โทรศัพท์มือถือไว้ โดยระบุจีพีเอสล่าสุด พิกัดอยู่ที่ สวนสุขภาพแต้จิ๋ว เขตยานนาวา เจริญราษฎร3

ต่อมาในช่วงเวลาเดียวกันได้เกิดเหตุคนจีนฉ้อโกงคนชาติเดียวกัน โดยเหตุเกิดขึ้นที่อาคารแห่งหนึ่ง ย่านพระราม 9 ผู้เสียหาย 2 คนนำเงินสด 8 ล้านบาท มาแลกเหรียญคริปโท กับชาวจีน 4 คน โดยระหว่างเจรจาผู้ก่อเหตุได้โอนเหรียญคริปโทไปยังบัญชีหนึ่ง ที่มีเจ้าของบัญชีเป็นคนจีนและทำหน้าที่เป็นคนกลางนัดให้ทั้งสองฝ่ายมาเจอกัน

ขณะเจรจา ฝ่ายผู้เสียหายบอกว่ายังไม่ได้รับโอนเหรียญคริปโท แต่ฝั่งผู้ก่อเหตุก็ยืนยันว่าได้ทำการโอนเหรียญคริปโทไปแล้ว จึงนำเงินสด 8 ล้านบาทหนีไป ต่อมาผู้เสียหายจึงเข้าแจ้งความที่ สน.ห้วยขวาง เบื้องต้น จากการตรวจสอบตำรวจพบว่าผู้ก่อเหตุที่แท้จริง คือ เจ้าของบัญชีคนกลางที่นัดหมายทั้งสองฝ่ายให้มาเจอกัน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าอาศัยอยู่ในประเทศไทยหรือไม่


สำหรับทั้ง 2 คดีที่เกิดขึ้น ผู้กำกับการสน.ห้วยขวาง ระบุว่า ยังไม่พบความเชื่อมโยงว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นเครือข่ายเดียวกัน แต่ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนเร่งติดตาม เพื่อพิสูจน์ทราบตัวบุคคลผู้กระทำผิดสกัดกั้นไม่ให้ผู้ก่อเหตุหลบหนีออกนอกประเทศ .414.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยิงสส.กัมพูชา

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” ดับกลางกรุงเทพฯ

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ดับใกล้วัดดังกลางกรุง พบเหยื่อมีบทบาทในการตรวจสอบรัฐบาลฮุนเซน

ครม.เห็นชอบร่างกฎกระทรวงเพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม

ครม. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดการประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา เพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม พร้อมกำหนดบทลงโทษหากพบเข้าไปข้องเกี่ยว

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา-วอศ.สระบุรี ชนะเลิศแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา และ วอศ.สระบุรี ชนะเลิศในการแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025 ณ เมืองฮาร์บิน สาธารณรัฐประชาชนจีน

ข่าวแนะนำ

“เด็ก-เยาวชน” ส่ง ส.ค.ส.อวยพร “ปีใหม่-วันเด็ก” ให้นายกฯ

“เด็ก-เยาวชน” ส่ง ส.ค.ส.อวยพรปีใหม่ 2568 – วันเด็ก ให้ “นายกฯ พี่อิ๊งค์” มีความสุข สุขภาพแข็งแรง ตั้งใจทำงานเพื่อบ้านเมือง อยู่คู่ตึกไทยคู่ฟ้า บริหารประเทศไปนานๆ พร้อมฝากความคิดถึง “อดีตนายกฯ ทักษิณ”

16 บอสดิไอคอน แถลงปฏิเสธทุกข้อหา ศาลนัดตรวจพยานหลักฐาน 10 ก.พ.

16 บอส ดิไอคอนกรุ๊ป แถลงปฏิเสธทุกข้อหา ศาลนัดสอบคำให้การและตรวจพยานหลักฐาน 10 ก.พ.นี้ ขณะที่ “ทนายวิฑูรย์” เผย “บอสพอล-บอสกันต์” ดีใจ หลัง “แซม-มิน” ได้ปล่อยตัว ส่วนท่าทีทั้งคู่ดูสบายๆ ปกติ ล่าสุดมีรายงาน “บอสวิน” ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว อยู่ระหว่างรอผล

ภรรยา “ลิม กิมยา” ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน

ภรรยา “ลิม กิมยา” ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน รวมถึงดำเนินการเกี่ยวกับเอกสารและการติดต่อรับศพนายลิม ที่แผนกนิติเวช รพ.วชิรพยาบาล