22 ธ.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จับกุมขบวนการค้าสัตว์ป่าข้ามชาติ ยึดสัตว์ป่ากว่า 200 ตัว
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ กองบังการตำรวจทางหลวง นำโดย พ.ต.ท.พิทยา ธนาวุฒิ สว.ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล., พ.ต.ต.อภิชาติ พรหมมนตรี สว.กก.5 บก.ปทส. พร้อมชุดสืบสวนร่วมกันจับกุมนายศราวุธ หรือตั้ม อายุ 43 ปี ในข้อหา “มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” ตาม ม.17 พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 พร้อมยึดของกลางเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองและสัตว์ชนิดต่างๆ กว่า 200 ตัว ประกอบด้วย นากเล็กเล็บสั้น อยู่ในตะกร้าสีขาว 3 ตัว, ชะนีสีเงิน 1 ตัว, หมีสลาเวสี 5 ตัว, นกเงือกสลาเวสี 4 ตัว, กิ้งก่าเซลฟิน 20 ตัว, งู 65 ตัว, ตะกวด ต้นไม้ 8 ตัว, กิ้งก่าแผงคอ 37 ตัว, จิ้งเหลน Blue tongue skink 49 ตัว, โทรศัพท์มือถือ และรถยนต์เก๋งส่วนบุคคล 1 คัน โดยจับกุม ได้ที่ทล.41 กม.28+200 ฝั่งขาขึ้นหน้าปั้ม PT ม.3 ต.ครน อ.สวี จ.ชุมพร
สืบเนื่องจากการบูรณาการร่วมกันระหว่าง U.S. Fish and Wildlife ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปทส. และ บก.ทล. ได้สืบสวนทราบว่า มีกลุ่มขบวนการลักลอบขนสัตว์ป่าผิดกฎหมาย ซึ่งได้ลักลอบนำเข้ามาจากจังหวัดอาเจ๊ะ เกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย มายังประเทศไทย เพื่อจำหน่ายให้แก่ลูกค้าทั้งในประเทศไทยและส่งต่อไปประเทศที่ 3 เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เฝ้าสืบสวนติดตาม จนทราบถึงวิธีการและกระบวนการต่างๆ ซึ่งสัตว์ป่าบางชนิดเป็นสัตว์ป่าที่หายากใกล้สูญพันธ์ุและเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองและสัตว์ป่าควบคุมตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่ากลุ่มของผู้ต้องหาจะขนสัตว์ป่าจากพื้นที่ จ.สตูล ไปส่งให้กับกลุ่มผู้ที่นิยมสัตว์ดังกล่าวในพื้นที่ กทม. โดยใช้รถยนต์เก๋งขนส่งผ่านเส้นทางถนนสาย ทล.41 กม.28+200 ฝั่งขาขึ้นหน้าปั๊ม PT ม.3 ต.ครน อ.สวี จ.ชุมพร เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ออกตรวจสอบตามเส้นทาง จนพบรถของผู้ต้องหาขับผ่านมา จึงเรียกให้หยุดรถและขอทำการตรวจสอบ ปรากฏว่าพบสัตว์ชนิดต่างๆ ถูกขังไว้ในตะกร้าพลาสติก จำนวน 17 ตะกร้า โดยสัตว์ดังกล่าวอยู่ในสภาพอิดโรย
เบื้องต้นจากการตรวจสอบสัตว์หลายชนิดเป็นสัตว์ที่มีถิ่นกำเนิดจากต่างประเทศ จึงได้ประสานหน่วยงานของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์พืชร่วมตรวจสอบ ในเบื้องต้นมีสัตว์ป่าคุ้มครอง จำนวน 1 ชนิด คือ นากเล็กเล็บสัน จำนวน 3 ตัว ส่วนสัตว์ชนิดอื่นเจ้าหน้าที่กำลังตรวจพิสูจน์ชนิดและสายพันธ์เพื่อความถูกต้องของข้อมูล จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้จับกุมตัว ผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปทส. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งนี้ในส่วนสัตว์ชนิดต่างๆ ที่อยู่ระหว่างการพิสูจน์ชนิดและสายพันธุ์เพื่อความถูกต้องของข้อมูล หากพบว่าเป็นสัตว์ป่าที่ผิดกฏหมายจะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมแก่ผู้ต้องหา และเร่งรวบรวมข้อมูลเพื่อดำเนินคดีเพิ่มเติมตาม พ.ร.บ.อื่นที่เกี่ยวข้อง และบุคคลที่ร่วมขบวนการต่อไป .419 .-สำนักข่าวไทย