ศรีสะเกษ 11 ธ.ค. – เหตุเจ้าหน้าที่ รพ. ทำร้ายผู้บำบัดเหล้าเสียชีวิต พ่อลั่นไม่ให้อภัย เปิดคำพูดสุดท้ายลูกชาย “เอามารักษา หรือ เอามาฆ่า”
กรณีนายสะอาด อายุ 31 ปี ชาวตำบลขนุน อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เสียชีวิต ที่โรงพยาบาลกันทรลักษ์ เมื่อวันที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา ทำให้ญาติติดใจสงสัยสาเหตุการตาย จึงนำร่างไปชันสูตร ที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ
ผลชันสูตรสาเหตุของการตาย สันนิษฐานว่า สมองได้รับบาดเจ็บจากการถูกกระแทกของแข็ง ทำให้ทางครอบครัวของผู้ตาย มั่นใจว่า นายสะอาด ถูกทำร้ายจนเสียชีวิต จนกระทั่งมีการเปิดคลิปกลางรายการโหนกระแส ขณะที่นายสะอาด ผู้ตาย เดินออกจากเตียง และถูกเจ้าหน้าที่พยาบาล 4 คน จับทุ่ม และทุบตี จนอาจเป็นสาเหตุให้เสียชีวิต
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้าน หมู่ 15 ตำบลขนุน อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเป็นของนายสะอาด (ผู้ตาย) พบลูกพี่ลูกน้องนั่งร้องไห้ พูดคุยข้างโล่ง และรินเหล้าให้กับคนตาย พร้อมกับพูดระบายความในใจ ด้วยความแค้นกับการกระทำของเจ้าหน้าที่ รพ. ที่กระทำรุนแรงกับผู้ตาย
นายทองสุข อายุ 62 ปี พ่อของผู้ตาย เล่าว่า ลูกชายได้พูดกับตนคำสุดท้ายก่อนตาย ว่า พ่อเอาผมมารักษาหรือเอาผมมาฆ่า พอได้ยินก็รู้สึกแสลงใจ เหมือนเป็นลาง จึงบอกลูกว่าพ่อพามารักษาไม่ได้มาให้ใครฆ่าตายหรอกลูก แต่ผู้ตายตอบกับพ่ออีกครั้งว่าตายแน่ ๆ หลังจากนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรอีกเลยจนมาเสียชีวิต หลังลูกเสียชีวิตไปแจ้งความ แต่ตำรวจไม่รับแจ้ง บอกให้ทางโรงพยาบาลชี้แจงมาก่อนถึงจะรับแจ้ง จึงกลับมาและไปแจ้งรอบที่ 2 ประมาณ 23.00 น. ตนและญาติจึงอ้างว่าจะพานักข่าวมาด้วย ตำรวจถึงรับแจ้งความ ที่ตำรวจอ้างว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิดในการสื่อสารและไม่ได้รับแจ้งความตนรู้สึกเสียใจและผิดหวังมากกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนศพของนายสะอาด จะทำการฌาปนกิจหรือเผาในวันเสาร์ที่ 14 ธันวาคมนี้
ทั้งนี้ ญาติได้พาผู้สื่อข่าวไปดูพวงหรีดของโรงพยาบาล ที่เอาไปทิ้งไว้ด้านหลังบ้าน เนื่องจากไม่พอใจกับกระทำของโรงพยาบาล และยังรับไม่ได้ จึงตั้งใจจะไม่รับทุกอยากที่ทางโรงพยาบาลนำมามอบให้เด็ดขาด
ด้านนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตในฐานะกำกับดูแลกระทรวงสาธารณสุข และในฐานะคนมีลูกรู้สึกว่าเป็นเรื่องรุนแรง และไม่น่าให้อภัย ตนจะไม่ยอมให้เรื่องในลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก โดยวางแนวทางการแก้ไขและสืบหาข้อเท็จจริงว่าเรื่องลักษณะนี้เกิดขึ้นจากอะไรและเราจะแก้ไขอย่างไร
จากการสืบสวนเบื้องต้น ทั้ง 2 คน เป็นพนักงานช่วยเหลือคนไข้ ซึ่งไม่มีทักษะในการดูแลผู้ป่วยจิตเวชในด้านนี้โดยตรง พร้อมยืนยันว่าตนไม่ได้มาแก้ตัวให้เจ้าหน้าที่ เพราะขณะนี้ได้ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่แล้ว และสั่งการให้ ผอ.รพ.กันทรลักษ์ มาที่ส่วนกลาง โดยวันพรุ่งนี้ (12 ธ.ค.) ที่กระทรวงสาธารณสุข สั่งให้ดำเนินการประชุม และจัดสัมมนา เพื่ออบรมให้ความรู้บุคลากร ทั้งผู้บริหาร และผู้ช่วยเหลือต่างๆ เกี่ยวกับผู้ป่วยที่มีพฤติกรรมรุนแรงโดยด่วน ที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า เวลา 08.30 น. -สำนักข่าวไทย