กทม. 16 พ.ย.- “วิโรจน์” เปิดรายงานประชาชนอาสาฟื้นฟูน้ำท่วม ขอบคุณทุกภาคส่วนร่วมช่วยเหลือ หวั่นหนี้ครัวเรือนซ้ำเติม เสนอรัฐบาลต้องให้ประชาชนเข้าถึงสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำจากสถาบันในระบบเพื่อตั้งต้นชีวิตใหม่
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร รองหัวหน้าพรรคประชาชน แถลงเปิดรายงานประชาชนอาสาฟื้นฟูน้ำท่วมจังหวัดเชียงราย โดยกล่าวว่า อุทกภัยครั้งที่ผ่านมาในพื้นที่ จ.เชียงราย ไม่ได้มีแค่น้ำ แต่เป็นน้ำป่าและโคลนถล่ม ทิ้งร่องรอยความเสียหายที่ยากต่อการฟื้นฟู ถือเป็นอุทกภัยที่สร้างความเสียหายต่อความเป็นอยู่ของประชาชนและระบบเศรษฐกิจมากเป็นลำดับต้นๆ ในประวัติศาสตร์ของประเทศนับตั้งแต่ปี 2547 โดยพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างมากคือ อ.แม่สาย
ทั้งนี้ การทำงานของรัฐบาลเพื่อช่วยเหลือประชาชนและฟื้นฟูเมืองทำได้ค่อนข้างรวดเร็วขอขอบคุณทุกคนทุกภาคส่วนที่มีส่วนร่วม หวังว่าภัยพิบัติเช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นอีกในอนาคต
พรรคประชาชนมอบหมายให้ตนเป็นตัวแทน สส. ในการจัดตั้ง “ศูนย์ประชาชนอาสา” ร่วมกับภาคส่วนต่างๆ ในการระดมอาสาสมัคร จนเมื่อสภาฯ ปิดสมัยประชุม ต้นเดือนพฤศจิกายน สส.พรรคประชาชนจึงลงพื้นที่ร่วมทำกิจกรรมอาสาตักโคลนล้างบ้านฟื้นฟูเมืองที่ จ. เชียงรายร่วมกับภาคประชาชนด้วย
ตลอดการทำงานตั้งแต่วันแรกที่เริ่มโครงการเมื่อ 4 ตุลาคม ต้องขอขอบคุณมูลนิธิกระจกเงาที่เป็นพี่เลี้ยง ให้คำแนะนำในการตั้งระบบ ทำให้กลุ่มประชาชาอาสาล้างบ้านหลังแรกได้ในวันที่ 9 ตุลาคม และหลังสุดท้ายวันที่ 6 พฤศจิกายน ก่อนปิดโครงการวันที่ 9 พฤศจิกายน รวมระยะเวลาทั้งสิ้น 37 วัน ทำความสะอาด 95 จุด แบ่งเป็นอำเภอเมือง 38 จุด อำเภอแม่สาย 57 จุด ช่วยเหลือประชาชนทั้งสิ้น 317 คน ใช้งบประมาณกว่า 1,200,000 บาท
อย่างไรก็ดี มีพื้นที่หนึ่งใน อ.เมืองเชียงราย อยู่ติดกับบ้านธนารักษ์ซึ่งเป็นบ้านสวัสดิการของกองทัพบก มีโคลนในซอยสูงถึง 80 เซนติเมตร – 1 เมตร กลุ่มประชาชนอาสาไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือได้ ศักยภาพของเครื่องจักรที่ท้องถิ่นมีอยู่ ก็ไม่สามารถจัดการได้ หลังจากตนประเมินสภาพพื้นที่ จึงได้พูดคุยขอคำปรึกษาจากเจ้ากรมยุทธการทหารและเจ้ากรมทหารช่าง ซึ่งต้องขอบคุณที่ในเวลาต่อมา ทหารช่างส่งเจ้าหน้าที่มาดำเนินการฟื้นฟูพื้นที่อย่างรวดเร็ว นี่คือตัวอย่างของการร่วมแรงร่วมใจทำงาน เราผนึกกำลังกับทุกภาคส่วนทั้งราชการและท้องถิ่นเพื่อให้งานสำเร็จ
นายวิโรจน์ กล่าวว่า ความท้าทายของรัฐบาลนับจากนี้ คือ จะทำอย่างไรให้ประชาชนเข้าถึงการชดเชยเยียวยาอย่างรวดเร็วไม่ตกหล่น ,ประชาชนเข้าถึงสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำจากสถาบันการเงินในระบบ , ระบบระบายน้ำที่พร้อมรองรับฤดูฝนในปี 2568 เพราะเราเชื่อว่ายังมีโคลนค้างอยู่ในท่อบางจุด จึงจำเป็นต้องมีการลอกท่อครั้งใหญ่ ข้อจำกัดตอนนี้คืองบประมาณของท้องถิ่นอาจร่อยหรอลงเพราะต้องนำเงินสะสมไปใช้ในช่วงภัยพิบัติ จึงเป็นหน้าที่ของรัฐบาลต้องพิจารณางบประมาณให้เหมาะสมเพื่อช่วยเหลือประชาชน , ปัญหาเอกสารสิทธิ์ในที่ดิน เนื่องจากหลายบ้านไม่มีบ้านเลขที่ ไม่มีเอกสารสิทธิ์ ทำให้เข้าไม่ถึงการชดเชยเยียวยา , ปัญหาบ่อบำบัดน้ำเสียที่ อ.แม่สาย ที่ประชาชนตั้งข้อสังเกตว่าสร้างขวางทางไหลของน้ำหรือไม่ ตอนนี้บ่อชำรุด รัฐควรให้วิศวกรเข้ามาตรวจสอบว่าขวางทางน้ำจริงหรือไม่ ปรับปรุงให้มีการระบายน้ำที่ดีขึ้นกว่านี้ได้หรือไม่ ในอนาคตจะได้ไม่เกิดปัญหาซ้ำเดิม โดยเรื่องนี้ตนได้ตั้งกระทู้ถามไปยังนายกรัฐมนตรีให้ตอบในราชกิจจานุเบกษา เพื่อให้ประชาชนทราบว่ารัฐจะดำเนินการอย่างไร และ การขุดลอกแม่น้ำสาย เนื่องจากเป็นแม่น้ำที่กั้นพรมแดนระหว่างไทยและเมียนมา การทำอะไรจึงมีข้อจำกัดเพราะมีประเด็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศที่ต้องพูดคุยว่าจะขุดลอกแม่น้ำสายร่วมกันอย่างไร ทำระบบเตือนภัยให้ประชาชนทั้ง 2 ฝั่งลำน้ำได้ประโยชน์ รวมถึงพิจารณาปัญหาการรุกล้ำลำน้ำ.-315 -สำนักข่าวไทย