สหรัฐ 14 พ.ย.-นายกฯ สรุปภารกิจเยือนสหรัฐ มอบนโยบายเอกอัครราชทูต กงสุลใหญ่และทีมไทยแลนด์ในภูมิภาคอเมริกา เร่งเดินหน้าการทูตเชิงรุก พร้อมเชิญชวนลูกหลานกลับไปทำงานในประเทศ เผยรู้สึกอบอุ่นทุกครั้งเมื่อเจอคนไทยต่างแดน หลังพบชุมชนไทยในนครลอสแอนเจลิส และแวะชิมชาไทย-ข้าวเหนียวมะม่วง-ขนมเบื้อง
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 ตามเวลาท้องถิ่นของนครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 15 ชั่วโมง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการเยือนนครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา ว่า เมื่อวานนี้ได้เดินทางไปที่วัดไทยนครลอสแอนเจลิสและได้พบปะกับชุมชนไทย ซึ่งทราบกันดีว่า นอกประเทศไทยนครลอสแอนเจลิสถือเป็นชุมชนที่มีจำนวนคนไทยเยอะที่สุด จำนวนกว่า 3 แสนคน เมื่อวานจึงได้รับกำลังใจจากคนไทยที่อยู่ที่นั่นและได้มีโอกาสถ่ายรูปร่วมกัน อีกทั้งยังได้ไปกราบพระ และเดินตลาดข้างๆ ที่เป็นตลาดขายอาหารและขนมไทยต่างๆ จึงได้แวะชิมชาไทย ข้าวเหนียวมะม่วง และขนมเบื้อง ซึ่งขายดีและเป็นที่นิยมมากๆ โดยงานจัดมา 3 ปีแล้ว เป็นธุรกิจที่คนไทยทำเอง แต่มีทั้งคนไทยและคนต่างชาติที่เข้ามาเที่ยว ขณะเดียวกัน ยังได้มีโอกาสดูการแสดงของนักเรียนโรงเรียนวัดไทยนครลอสแอนเจลิสทั้งการแสดงมวยไทย รำไทย และดนตรีไทย จึงรู้สึกอบอุ่บเหมือนอยู่บ้านเราทุกครั้ง เมื่อเจอคนไทยในต่างแดน
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังเปิดเผยว่า ได้พบกับเอกอัครราชทูต กงสุลใหญ่และทีมไทยแลนด์ในภูมิภาคอเมริกา จึงได้พูดคุยและมอบนโยบายต่างประเทศ อีกทั้งยังได้เล่าให้ฟังว่าประเทศไทยโฟกัสอะไรบ้าง และจะเดินหน้าการทูตอย่างไรต่อไป ซึ่งเราอยากให้เดินหน้าการทูตเชิงรุกมากขึ้น เพราะทราบกันดีว่าทูตเป็นเหมือนทัพหน้าของเรา จึงอยากให้ประสานผู้แทนการค้าเพื่อมองหาการลงทุนในต่างประเทศมาลงทุนในไทย ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการเน้นในเรื่องของเอไอ และเทคโนโลยีต่างๆ ขณะนี้ก็ดึงนักลงทุนมาได้พอสมควรแล้ว จึงมีการวางแผนไปถึงปีหน้าว่าจะมีโอกาสดีๆเข้ามาให้ประเทศไทยอีกหรือไม่
พร้อมเปิดเผยว่า ได้พูดคุยกันถึงการสนับสนุนและพัฒนาสตาร์ทอัพด้วย เพราะเป็นที่ทราบกันว่าคนไทยมีศักยภาพ จึงอยากสร้างโอกาสให้คนไทยกลับมาทำงาน และช่วยกันพัฒนาประเทศไทยเยอะๆ เพราะเสียดายศักยภาพคนไทย ตนจึงได้บอกกับเอกอัครราชทูตให้ช่วยกันสงเสริมในเรื่องนี้
ขณะที่ เรื่องของซอฟต์พาวเวอร์ได้เน้นย้ำให้ช่วยกันส่งเสริมในทุกมิติ เพราะจะเห็นว่าอาหารต่างชาติชอบมาก กลายเป็นว่าทำให้ต่างชาติทานเผ็ดได้มากขึ้น เนื่องจากอาหารไทยแซ่บ จึงถือเป็นเรื่องดี
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้กำชับเอกอัครราชทูต กงสุลใหญ่และทีมไทยแลนด์ในภูมิภาคอเมริกา โดยขอให้ดูแลคนไทยในต่างประเทศให้ดี มีอะไรก็ให้สนับสนุน ฉะนั้นหากคนไทยต้องการอะไร ก็ขอให้ติดต่อสถานทูตฯมาได้ทันที.-316.-สำนักข่าวไทย