fbpx

BIG STORY : สางคดีศัลยกรรมดูดไขมันเสริมทรวงอกทำคนไข้ดับ

กรุงเทพฯ 30 ส.ค.- ทีมข่าวสำนักข่าวไทย ลงพื้นที่ตรวจสอบคลินิกศัลยกรรมที่ตกเป็นข่าวทำสาวดูดไขมันเสริมหน้าอกเสียชีวิต ซึ่งขณะนี้ตำรวจกำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเอาผิดกับผู้เกี่ยวข้อง แต่ยังติดต่อใครไม่ได้


ครอบครัวยังคงติดใจสาเหตุการเสียชีวิตของนางสาวศรัญญา จันทวงศ์ อายุ 30 ปี หลังไปทำศัลยกรรมดูดไขมันเพื่อนำไขมันไปเสริมทรวงอก ที่คลินิกศัลยกรรมเอกชนแห่งหนึ่งย่านช่องนนทรี เมื่อ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา จากนั้นมีอาการเจ็บหน้าอก อาการทรุดลงและเสียชีวิตในอีก 5 วันถัดมา แพทย์ระบุสาเหตุเนื่องจากติดเชื้อในกระแสเลือด ขณะที่ทางคลินิกโอนงินช่วยเหลือค่างานศพมา 100,000 บาทเท่านั้น จากเดิมที่บอกว่าจะรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดกว่า 400,000 บาท

ทีมข่าวสำนักข่าวไทย ลงพื้นที่ตรวจสอบคลินิกดังกล่าวพบว่าเป็นอาคารพาณิย์ 1 คูหา 4 ชั้นครึ่ง ติดป้ายชื่อคลินิกใหญ่โตชัดเจน ที่ประตูทางเข้าติดป้ายเปิดให้บริการทุกวันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-20.00 น. แต่วันนี้กลับแขวนป้ายปิดให้บริการ ด้านในปิดไฟเงียบ เมื่อสังเกตข้างในพบว่ามีร่องรอยการใช้สถานที่เมื่อไม่นาน เช่น รองเท้าที่ถูกถอดทิ้งไว้ ที่ประตูทางเข้ามีการติดเอกสารชำระค่าธรรมเนียมการประกอบกิจการสถานพยาบาล ระบุชื่อสถานพยาบาลและเลขที่ใบอนุญาตไว้ชัดเจน ป้ายข้อความด้านหน้าระบุว่าคลินิกแห่งนี้ตรวจรักษาทั้งโรคทั่วไป เสริมความงาม และทำศัลยกรรม ทีมข่าวสอบถามประชาชนในละแวกใกล้เคียง บอกตรงกันว่าที่ผ่านมาเห็นคลินิกเปิดให้บริการทุกวัน แต่เมื่อวานนี้เพิ่งปิดไป


ขณะที่ความคืบหน้าทางคดี พ.ต.อ.จุมพล คณานุรักษ์ ผู้กำกับการ สน.บางโพงพาง เปิดเผยว่า คดีนี้แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ การตรวจสอบว่าคลินิกแห่งนี้มีการจดทะเบียนถูกต้องหรือไม่ ได้ประสานเจ้าของคลินิกเข้าให้ปากคำแล้ว แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีตอบรับมา

ส่วนประเด็นสาเหตุการเสียชีวิต เนื่องจากผู้ตายเสียชีวิตที่โรงพยาบาลเอกชนในท้องที่ สน.ลุมพินี ซึ่งญาติยังติดใจสาเหตุการเสียชีวิต อย่างไรก็ตามได้ประสาน สน.ลุมพินี อายัดศพส่งไปผ่าชันสูตรอย่างละเอียดที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผล

ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. ระบุจะมีการประสานหน่วยงงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งแพทย์ และสาธารณสุขในการร่วมตรวจสอบคลินิกดังกล่าว


รองโฆษก ตร.ยังฝากถึงประชาชน ก่อนทำศัลยกรรมเสริมความงาม ควรหาข้อมูล ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญงาม ดูความพร้อมร่างกาย และตรวจสอบสถานประกอบการว่ามีใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชี้อิสราเอล-อิหร่านส่งสัญญาณหาทางถอยจากสงคราม

เยรูซาเล็ม 19 เม.ย.- สื่ออิสราเอลมองว่า การที่อิหร่านพยายามปฏิเสธว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอิหร่านวันนี้ไม่ใช่การโจมตีแก้แค้นของอิสราเอล และการที่อิสราเอลยังคงนิ่งเฉยไม่ออกตัวว่าเป็นผู้กระทำ เป็นการส่งสัญญาณว่าทั้ง 2 ฝ่ายกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงครามในขณะที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น เว็บไซต์ไทมส์ออฟอิสราเอลรายงานว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันจากทางการอิสราเอลว่า ได้โจมตีอิหร่านในเช้าวันนี้ ขณะที่สื่อทางการอิหร่านรายงานเพียงว่า มีการเปิดใช้งานระบบป้องกันภัยทางอากาศ และปฏิเสธรายงานข่าวเรื่องมีการโจมตีที่ตั้งทางทหารในเมืองอิสฟาฮาน ที่อยู่ห่างจากกรุงเตหะรานลงไปทางใต้ 315 กิโลเมตร โดยระบุว่าเหตุการณ์ปกติ แต่เจ้าหน้าที่อิสราเอลและสหรัฐที่ขอสงวนนามเผยกับสื่อในสหรัฐว่า เป็นฝีมือของอิสราเอล หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ของสหรัฐอ้างแหล่งข่าวอิหร่าน 3 คนว่า ฐานทัพอากาศในเมืองอิสฟาฮานถูกโจมตีแต่ไม่มีข้อมูลเรื่องความเสียหาย ไทมส์ออฟอิสราเอลมองว่า ลักษณะของการโจมตีอย่างจำกัด ซึ่งมีรายงานว่าเป็นการใช้โดรน ไม่ใช่ขีปนาวุธหรือปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ประกอบกับการที่อิสราเอลไม่ได้ยอมรับอย่างเป็นทางการ น่าจะเปิดทางให้รัฐบาลอิหร่านสามารถปฏิเสธเรื่องความจำเป็นที่จะต้องขู่โจมตีอิสราเอลเป็นครั้งที่ 2 หลังจากระดมยิงขีปนาวุธและโดรนมากกว่า 300 ลูกใส่อิสราเอลเมื่อเช้ามืดวันที่ 14 เมษายนตามเวลาอิสราเอล เป็นสัญญาณเบื้องต้นว่า ทั้ง 2 ประเทศอาจกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงคราม ก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่า อิสราเอลจะแก้แค้นอิหร่านตามที่แสดงท่าทีมาตลอดทั้งสัปดาห์ว่า จะไม่ยอมปล่อยให้อิหร่านโจมตีโดยไม่ตอบโต้ จุดกระแสวิตกว่า การโจมตีตอบโต้กันไปมาจะบานปลายกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ อย่างไรก็ดี มีสัญญาณว่ากองกำลังป้องกันอิสราเอลได้ลดความุรนแรงของแผนการโจมตีตามที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น.-814.-สำนักข่าวไทย  

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาในแท็งก์น้ำ ดาดฟ้าหอพัก

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาสภาพเปลือย ในแท็งก์น้ำบนดาดฟ้าหอพัก ย่านมีนบุรี เสียชีวิตมาแล้ว 2 วัน คาดลงไปเล่นน้ำคลายร้อน

ระทึก! สารแอมโมเนียจากโรงน้ำแข็งรั่ว บาดเจ็บนับร้อย

ระทึกกลางดึก สารแอมโมเนียรั่วในโรงน้ำแข็ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชาวบ้านสูดดม ได้รับผลกระทบกว่า 100 คน ต้องกระจายส่งตาม รพ. ต่างๆ

จับแล้ว! ชายอินเดียฆ่าปาดคอหญิงวัย 51 ปี

เกิดเหตุฆ่าปาดคอหญิงอายุ 51 ปี ในโรงแรมท้องที่ สน.ตลาดพลู ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวอินเดียที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม กว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ล่าสุดตามจับได้แล้ว สารภาพอ้างแค้นผู้ตายไม่คืนเงิน

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เชิญ 4 ธนาคารใหญ่ ถกลดดอกเบี้ยบ้านกลุ่มเปราะบาง

นายกฯ เชิญผู้บริหาร 4 ธนาคารใหญ่ เข้าหารือ ขอให้ทั้ง 4 ธนาคาร ช่วยลดราคาดอกเบี้ยเงินกู้บ้านให้กับประชาชน ส่วนความเคลื่อนไหวทางด้านการเมือง เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เผยส่งชื่อรัฐมนตรีให้นายกฯ พิจารณาแล้ว

สถานการณ์ชายแดนแม่สอดยังไม่น่าไว้วางใจ มีเสียงปืน-ระเบิดจากฝั่งเมียนมา

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก ยังไม่น่าไว้วางใจ หลังเช้านี้ได้ยินเสียงปืนและระเบิดจากการปะทะของกองกำลังกะเหรี่ยงกับทหารเมียนมา ดังขึ้นในรอบ 3 วัน ขณะที่บ่ายนี้ (23 เม.ย.) รมว.ต่างประเทศ เตรียมลงพื้นที่

เฮลิคอปเตอร์กองทัพเรือมาเลเซียชนกันกลางอากาศ-ดับแล้ว 10

กองทัพเรือมาเลเซียกล่าวในแถลงการณ์ว่า เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพเรือมาเลเซีย 2 ลำ ชนกันกลางอากาศในระหว่างการฝึกซ้อมสำหรับการแสดงในขบวนพาเหรดของกองทัพเรือ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 10 ราย

ยัน รบ.ไม่ได้กู้เงิน ธ.ก.ส. ไม่ทำให้ขาดสภาพคล่อง

“จุลพันธ์” ยันรัฐบาลไม่ได้กู้เงิน ธ.ก.ส. ใช้ดิจิทัลวอลเล็ต แต่เป็นกลไกงบประมาณ มั่นใจไม่ทำ ธ.ก.ส.ขาดสภาพคล่อง บอก อย่าลืมรัฐถือหุ้น100% พัฒนา “ซูเปอร์แอปฯ” ใช้งบประมาณไม่ถึงพันล้าน