กรุงเทพฯ 13 ก.พ.-กรมอุทยานฯ ตรวจ DNA เสือโคร่ง 2 ตัวซึ่งถูกชาวบ้านปิล็อกคี่ยิง แล้วถลกหนังมารมควันในเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี บ่งชี้ว่า เป็นเพศเมียทั้งคู่และเป็นแม่-ลูกกัน ยังคงตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์เพิ่มเพื่อชี้ชัดรูปคดี ส่วนเสือโคร่งพิการ 3 ขา เร่งหาแนวทางที่เหมาะสมตามหลักวิชาการ
นายสมปอง ทองสีเข้ม ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่ากล่าวว่า หน่วยปฏิบัติการนิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืชตรวจพิสูจน์ DNA เสือโคร่ง 2 ตัวซึ่งถูกพราน 5 คนแห่งบ้านปิล็อกคี่ยิงตายในเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิแล้ว พบว่า เป็นตัวเมียทั้ง 2 ตัวและเป็นแม่-ลูกกันซึ่งลูกมีอายุเพียง 1 ปี ตามนิเวศวิทยาลูกเสือจะอยู่กับแม่ประมาณ 3 ปี จากนั้นจะหย่านมและแยกออกไปหากินเอง
ทั้งนี้ การที่พิสูจน์ได้ว่า เสือทั้ง 2 ตัวเป็นแม่-ลูกกันจึงบ่งชี้ได้ว่า ถูกล่าขณะอยู่ด้วยกัน ไม่ใช่ถูกยิงคนละที่แล้วลากมายังบริเวณที่เจ้าหน้าที่พบซากแน่นอน ซึ่งจะพยานหลักฐานสำคัญในการดำเนินคดี ไม่ว่าผู้ต้องหาจะให้การอย่างไรก็ตาม เมื่อประกอบกับวิธีชำแหละ ถลกหนังมารมควันจะชี้ชัดว่า ผู้กระทำผิดทำเพียงแค่ดำรงชีพ ป้องกันตัวเอง หรือเป็นขบวนการค้าสัตว์ป่า
สำหรับเสือโคร่งพิการขาขวาหลังขาดซึ่งกล้องดักถ่ายภาพสัตว์ป่าบันทึกได้บริเวณใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุเสือโคร่ง 2 ตัวถูกยิงและที่เสือทำร้ายนายหวาน-ชาวบ้านปิล็อกคี่ วันพรุ่งนี้จะประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิและอุทยานแห่งชาติเขาแหลมเพื่อขอข้อมูลเพิ่ม โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านเสือโคร่งร่วมพิจารณาหาแนวทางช่วยเหลือว่า จะให้หากินในป่าตามธรรมชาติต่อไป หรือควรจับออกจากป่ามาดูแล.-สำนักข่าวไทย