กรุงเทพฯ 11 ก.ย. – สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติเตือนเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากจากฝนตกหนักในช่วงวันที่ 13-17 ก.ย. ตั้งแต่กลางเดือนเกิดภาวะน้ำทะเลหนุนสูง อาจส่งผลกระทบบางพื้นที่ พร้อมกันนี้ให้จังหวัดริมแม่น้ำโขงเฝ้าระวังระดับแม่น้ำโขงที่จะสูงขึ้น ด้าน สทนช.ประกาศเฝ้าระวัง น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากเนื่องจากฝนตกหนักในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และ สปป.ลาว
สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) คาดการณ์ว่า ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้นเนื่องจากช่วงวันที่ 12 – 13 ก.ย.67 ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมประเทศไทย ทำให้ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่ง จากนั้นในช่วงวันที่ 14 – 16 ก.ย.67 ร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่
ดังนั้นระหว่างวันที่ 13 – 18 ก.ย. 67 ต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันบริเวณที่ลุ่มต่ำและชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำและน้ำป่าไหลหลาก ซึ่งมีพื้นที่เสี่ยงทุกภาคดังนี้
- ภาคเหนือได้แก่ จ. เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก กำแพงเพชร พิจิตร นครสวรรค์ และเพชรบูรณ์
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้แก่ จ. เลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
- ภาคกลางได้แก่ จ.ลพบุรี สระบุรี กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
- ภาคตะวันออกได้แก่ จ.นครนายก ปราจีนบุรี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
- ภาคใต้ได้แก่ จ.ชุมพร ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ สุราษฎร์ธานี ตรัง และสตูล
ส่วนอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่ต้องเฝ้าระวังเนื่องจากมีปริมาณน้ำมากกว่าเกณฑ์เก็บกักสูงสุด ประกอบด้วย อ่างเก็บน้ำแม่จาง จังหวัดลำปาง และอ่างเก็บน้ำห้วยหลวง จังหวัดอุดรธานี ซึ่ง สทนช. ได้มีการแนะนำให้มีการพร่องน้ำเพื่อรองรับปริมาณน้ำในเดือนกันยายนและตุลาคม โดยให้พิจารณาไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชนพื้นที่ท้ายน้ำ
สำหรับสถานการณ์น้ำในแม่น้ำสายหลัก แม่น้ำยม ปัจจุบันอยู่ในสภาวะปกติเกือบทั้งหมดยกเว้นบริเวณสถานี Y.16 ตำบลบางระกำ อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก สถานการณ์ปัจจุบัน ระดับน้ำ 8.63 ม. (สูงกว่าระดับตลิ่ง 1.33 ม.) มีแนวโน้มลดลง สถานี Y.64 อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ปัจจุบันมีระดับน้ำ 7.92 ม. (สูงกว่าตลิ่ง 1.52 ม.) มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ด้านแม่น้ำน่าน ปัจจุบันสถานการณ์แม่น้ำน่านอยู่ในสภาวะปกติ ไม่มีปัญหาน้ำล้นตลิ่ง แต่จากคาดการณ์ล่วงหน้า 7 วัน พบว่า ปริมาณฝนที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้ปริมาณน้ำเกิดน้ำล้นตลิ่งที่สถานี N.1 อ.เมืองน่าน จ.น่าน ระดับน้ำจะสูงกว่าระดับตลิ่งในวันที่ 14 ก.ย. 67 (สูงกว่าระดับตลิ่ง 0.07 ม.) และจะกลับเข้าสู่ระดับตลิ่งในวันที่ 15 ก.ย. 67 และ N.13A อ.เวียงสา จ.น่าน โดยระดับน้ำจะสูงกว่าระดับตลิ่งในวันที่ 14 ก.ย. 67 (สูงกว่าระดับตลิ่ง 2.97 ม.) และจะกลับเข้าสู่ระดับตลิ่งในวันที่ 15 ก.ย. 67
ขณะที่แม่น้ำเจ้าพระยา ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่สถานี C.2 อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ ความจุลำน้ำ 3,660 ลบ.ม./วินาที ปัจจุบันมีปริมาณน้ำ 1,321 ลบ.ม./วินาที (ร้อยละ 36 ของความจุลำน้ำ) คาดว่าในช่วง 7 วันข้างหน้าจะมีปริมาณน้ำอยู่ในช่วง 1,404 – 1,505 ลบ.ม./วินาที ร้อยละ 38 – 41 ของความจุลำน้ำ และจะระบายน้ำด้วยอัตรา 1,450 ลบ.ม./วินาที โดยคงอัตราดังกล่าวต่อเนื่อง
สทนช. ออกประกาศให้เฝ้าระวังผลกระทบจากระดับน้ำแม่น้ำโขงเพิ่มขึ้นช่วงวันที่ 12 – 18 ก.ย. 67 เนื่องจากฝนตกหนักในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และ สปป.ลาว ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงเพิ่มขึ้นประมาณ 0.5 – 1.0 ม. บริเวณจังหวัดเชียงราย เลย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี โดยมีแนวโน้มล้นตลิ่งบริเวณจังหวัดหนองคาย 0.3 – 1.0 ม. จึงขอให้เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นและเตรียมรับมือจากสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งและท่วมขังบริเวณริมแม่น้ำโขงและริมลำน้ำบางสาขาของประเทศไทยที่ไม่สามารถระบายน้ำลงสู่แม่น้ำโขงได้โดยสะดวก
พื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังอีกพื้นที่คือ ลุ่มน้ำโขงเหนือเนื่องจากอิทธิพลร่องความกดอากาศต่ำ ทำให้ฝนตกหนักมาก สามารถวัดปริมาณฝน 24 ชม. ในวันที่ 10 -11 ก.ย. 67 ณ สถานี ต.แม่สาว อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ 234 มม. และ ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย 225 มม. ซึ่งมีเกณฑ์ปริมาณฝนมากกว่า 90 มม. ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมและน้ำป่าไหลหลาก ในพื้นที่ จ.เชียงราย (อ.แม่สาย และเชียงของ) จ.เชียงใหม่ (อ.ฝาง และแม่อาย)
ปัจจุบันมีน้ำท่วม 7 จังหวัด ได้แก่ จ.เชียงราย (อ.แม่สาย เชียงของ ขุนตาล และพญาเม็งราย) จ.เชียงใหม่ (อ.ฝาง และแม่อาย) จ.ตาก (อ.แม่สอด) จ.สุโขทัย (อ.กงไกรลาศ) จ.พิษณุโลก (อ.พรหมพิราม บางระกำ และเมืองฯ) จ.อ่างทอง (อ.วิเศษชัยชาญ) และ จ.พระนครศรีอยุธยา (อ.เสนา บางบาล บางปะหัน ผักไห่ บางไทร พระนครศรีอยุธยา และบางปะอิน)
นอกจากนี้ สทนช. ยังแจ้งเตือนเฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง ช่วงวันที่ 14 – 22 ก.ย. 67 เนื่องจากอิทธิพลของน้ำทะเลหนุนสูงและมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมอ่าวไทย ทำให้มีฝนตกหนักในบางพื้นที่ ประกอบกับมวลน้ำหลากจากตอนบนของลุ่มน้ำไหลลงมาสมทบ ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้น เสี่ยงน้ำท่วมบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำแม่กลอง และแม่น้ำท่าจีน ชุมชนนอกแนวคันกั้นน้ำและแนวเขื่อนชั่วคราวบริเวณที่ไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร (แนวฟันหลอ) จึงขอให้เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงจังหวัดสมุทรสงคราม สมุทรสาคร นครปฐม นนทบุรี กรุงเทพมหานคร และสมุทรปราการ
สำหรับผลคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงอุทกภัยล่วงหน้า 3 วัน ในช่วงวันที่ 11-13 ก.ย.67 สทนช. ประเมินพบว่า มีพื้นที่เสี่ยง จำนวน 4 จังหวัด ได้แก่ จ.เชียงราย (อ.แม่ฟ้าหลวง แม่สาย ขุนตาล และแม่จัน) จ.เชียงใหม่ (อ.เชียงดาว แม่อาย ฝาง และอมก๋อย) จ.แม่ฮ่องสอน (อ.เมืองแม่ฮ่องสอน) จ.ตาก (อ.ท่าสองยาง แม่สอด อุ้มผาง และพบพระ) และ จ.จันทบุรี (อ.ขลุง) ซึ่ง สทนช. ได้ประสานข้อมูลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความรับมือสถานการณ์ล่วงหน้าแล้ว. -512 – สำนักข่าวไทย
