“กรมน้ำบาดาล” ตรวจการปนเปื้อนน้ำใต้ดินวินโพรเสส จ. ระยอง

ระยอง 16 พ.ค. – กรมทรัพยาการน้ำบาดาลเร่งตรวจสอบการปนเปื้อนของสารเคมีในชั้นน้ำใต้ดินบริเวณโรงเก็บกากอุตสาหกรรมและสารเคมีอันตรายของบริษัทวินโพรเสส จ. ระยอง เบื้องต้นพบชั้นทราบที่เปียกและมีกลิ่นฉุน เร่งเก็บตัวอย่างน้ำเพื่อส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อแจ้งข้อมูลต่อประชาชนโดยเร็ว


นางอรนุช หล่อเพ็ญศรี อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลเปิดเผยว่า มอบหมายให้สำนักอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรน้ำบาดาลส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจวิเคราะห์การปนเปื้อนน้ำใต้ดินบริเวณบริษัท วินโพรเสส จำกัด ต.บางบุตร อ. บ้านค่าย จ. ระยองซึ่งประกอบกิจการหล่อและหลอมโลหะ คืนสภาพกรดหรือด่าง ทำเชื้อเพลิงผสม ล้างภาชนะบรรจุภัณฑ์ด้วยตัวทำละลาย และมีใบอนุญาตถือครองวัตถุอันตรายประเภทน้ำมัน โดยโรงเก็บกากอุตสาหกรรมและสารเคมีอันตรายของวินโพรเสสเกิดเหตุเพลิงไหม้ ทำให้ชาวบ้านในตำบลบางบุตรและใกล้เคียงได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง จากกลิ่นฉุนรุนแรงของสารเคมีอันตราย มีผลกระทบทางด้านความเป็นอยู่และสุขภาพ เกิดโรคระบบทางเดินหายใจ มีอาการแสบตา แสบจมูก เกิดอาการอักเสบ ตามผิวหนัง และยังไม่ทราบอาการที่จะมีผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว กรมทรัพยากรน้ำบาดาลจึงจะเร่งตรวจสอบชั้นน้ำใต้ดินตามข้อสั่งการของพล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมซึ่งห่วงใยประชาชนในพื้นที่ที่ต้องใช้น้ำบาดาล

สำหรับผลการเจาะสำรวจ จากหลุมเจาะ 5 หลุม พบว่า พื้นที่ดังกล่าว ประกอบด้วยชั้นบนสุดเป็นทรายละเอียด ความหนาประมาณ 2-3 เมตร ชั้นต่อไปรองรับด้วย ชั้นทรายหยาบปนกรวด ความหนาประมาณ 1-2 เมตร และถัดมารองรับด้วยชั้นทรายหยาบปนดินเหนียว ความหนาประมาณ 5-6 เมตร บางช่วงความลึกพบชั้นทรายหยาบ ความหนาประมาณ 0.5 -1 เมตร มีลักษณะเปียกและมีกลิ่นฉุน ตั้งแต่ความลึกประมาณ 10 เมตร พบชั้นหินผุ เกิดจากการผุพังของหินแกรนิตซึ่งเป็นชั้นหินฐาน นอกจากนี้พบน้ำบาดาลระดับตื้นในช่วงความลึกความลึกประมาณ 4-10 เมตร โดยคุณภาพน้ำใต้ดินในเบื้องต้น จากหลุมเจาะที่วัดในภาคสนาม มีค่า pH อยู่ในช่วง 2.02-4.45 ค่าการนำไฟฟ้า (EC) อยู่ในช่วง  6,100 – 17,300 ไมโครซีเมนส์ต่อเซนติเมตร ในขั้นต่อไป จะเจาะสำรวจเพิ่มเติมอีก 5 จุด สำรวจบ่อน้ำตื้นของชาวบ้านเพื่อเก็บตัวอย่างน้ำไปวิเคราะห์คุณภาพน้ำในห้องปฏิบัติการเพื่อประเมินขอบเขตการปนเปื้อน


ในระยะนี้อาจมีอุปสรรคในการทำงานของเจ้าหน้าที่เนื่องจากในบางช่วงที่มีฝนตก ทำให้เกิดไอหมอกสารเคมีปกคลุมไปทั่วพื้นที่ ส่งผลให้การปฏิบัติงานเป็นไปด้วยความยากลำบาก. 512 – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สามีเข้าเกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาดับ

สลด! สามีขับรถใส่เกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาเสียชีวิตในบ้านพักย่านวิภาวดี ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเบื้องต้น นำตัวสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” เจ้าตัวปิดปากเงียบ

ตร.ไซเบอร์คุมตัว “เอ็ม เอกชาติ” ฝากขัง เจ้าตัวปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามสื่อ ด้านตำรวจพบเส้นทางการเงินจากเว็บพนัน กว่า 30 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

กรมอุตุฯ เตือนเฝ้า​ระวัง​พายุฤดูร้อน กระทบ​ 53 จังหวัด​

กรมอุตุฯ ประกาศฉบับ 7 เตือนเฝ้า​ระวัง​พายุฤดูร้อน​ พายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก มีผลกระทบ​ 53 จังหวัด​ ระหว่าง​ 29​ มี.ค.-1 เม.ย.68​

ช่วยผู้รอดชีวิตรายแรก เหตุตึก สตง.แห่งใหม่ ถล่ม

กทม. 28 มี.ค. – ช่วยได้แล้ว 1 ราย ผู้ที่ติดอยู่ใต้ซากอาคาร สตง.แห่งใหม่ พังถล่ม เป็นคนงานที่ติดอยู่ในช่องลิฟต์ เร่งนำส่ง รพ. อัปเดตตัวเลขผู้เสียชีวิต ณ เวลา 19.25 น. เพิ่มขึ้นเป็น 4 ราย บาดเจ็บ 9 ราย สูญหาย 117 ราย .-สำนักข่าวไทย

ระดมค้นหา 94 ชีวิต เหตุตึกถล่มย่านจตุจักร

เกาะติดเหตุอาคาร สตง.แห่งใหม่ พังถล่มจากแผ่นดินไหว จนท.ยังคงเร่งค้นหาผู้รอดชีวิต ตัวเลข ปภ. คาดมีคนงานติดอยู่ในซาก 94 ราย ยังไม่สามารถติดต่อได้ ขณะที่ยืนยันผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 3 ราย ด้านนายกฯ ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ ก่อนเดินทางไปยังศูนย์บัญชาการแผ่นดินไหว กทม.

กรมอุตุฯ เฝ้าระวังอาฟเตอร์ช็อก เขย่าแล้ว 21 ครั้ง

กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานอาฟเตอร์ช็อกแล้ว 21 ครั้ง นักวิชาการระบุ พลังงานของแผ่นดินไหวลดลงตามลำดับ แต่ที่น่าห่วงคือ โครงสร้างของอาคารต่างๆ โดยเฉพาะอาคารสูงในกรุงเทพฯ ซึ่งตั้งอยู่บนชั้นดินอ่อน ต้องมีการตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรง