กรมอุทยานฯ 22 ก.พ.- “พัชรวาท” ย้ำใช้หลักกฎหมายแก้ปัญหากรณีปัญหาพิพาทจุดหมุดนิรนาม ส.ป.ก.4-01 ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้สัมภาษณ์สั้นๆ เกี่ยวกับกรณีปัญหาพิพาทจุดหมุดนิรนาม ส.ป.ก. 4-01 ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ที่มีการทับซ้อนกัน 3 หน่วยงาน ทั้งกรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติฯ และ ส.ป.ก. ภายหลังมอบนโยบาย 4 ด้าน ให้กับคณะผู้บริหารกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ว่า เรื่องปัญหาพิพาทจุดหมุดนิรนาม ส.ป.ก. 4-01 ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปพบเพื่อพูดคุยเคลียร์ปัญหา ซึ่งก็ตกลงกันได้เรียบร้อยแล้ว โดยใช้หลักกฎหมาย และข้อเท็จจริง จึงทำให้รู้ว่าที่ดินแปลงพิพาทดังกล่าว เป็นพื้นที่ของหน่วยงานใด
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การมอบนโยบายให้แก่ผู้บริหารกรมอุทยานฯ ในครั้งนี้ เป็นการมอบนโยบายครั้งแรกในระดับกรม ของ พล.ต.อ.พัชรวาท โดยนโยบายที่มอบแก่ผู้บริหารที่สำคัญ 4 ด้าน ดังนี้
1.ด้านการแก้ไขปัญหาที่ดิน ให้เร่งรัดการจัดทำแผนผังแปลงที่ดินประชาชนในเขตป่าอนุรักษ์ให้แล้วเสร็จโดยเร็วภายใน 2 ปี
2.ด้านแก้ไขปัญหาสัตว์ป่า เช่น การแก้ไขปัญหาช้างป่าและลิง ที่ส่งผลกระทบและสร้างความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ให้ความสำคัญการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสัตว์ป่า
- ด้านการท่องเที่ยว ให้มีมาตรการเตรียมความพร้อมในการให้บริการนักท่องเที่ยว พัฒนา ระบบการ ซื้อบัตรผ่าน เข้าใช้บริการ การจองที่พัก และบริการอื่นๆ ของอุทยานแห่งชาติ ไว้ในระบบเดียวกัน อาจมี ทั้งรูปแบบ Mobile application และทาง Website เพื่อให้ประชาชน และนักท่องเที่ยว เข้าถึงได้ง่าย โดยให้เร่ง ดำเนินการ ระบบ E-National Park หรือโครงการยกระดับการบริหารจัดการงานบริการประชาชนแบบครบวงจรของกรมอุทยานฯ ด้วยระบบเทคโนโลยีและเพิ่มประสิทธิภาพการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล ให้แล้วเสร็จ ครบทุก อุทยานแห่งชาติ ภายใน 1-2 ปี นอกจากจะเป็นการอำนวยความสะดวก และนำมาซึ่ง ความโปร่งใส และยังเป็นการพัฒนาอุทยานให้ทัดเทียม กับอารยะประเทศ อยากเห็น กรมอุทยานฯ เป็นกรมตัวอย่างที่ก้าวไปข้างหน้า ด้วยความทันสมัย ตามทันโลก ด้วยเทคโนโลยี
- ด้านการป้องกันและควบคุมไฟป่า ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพพลานามัยประชาชน ให้เฝ้าระวังควบคุมและดับไฟให้เร็ว ลดการเกิดไฟป่า ประชาสัมพันธ์เชิงรุกในรูปแบบ “เคาะประตูบ้าน” พร้อมเน้นย้ำความปลอดภัยและคำนึงถึงสุขภาพของเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครไฟป่าทุกคนด้วย-517 -สำนักข่าวไทย