กรมอุทยานฯ ออกระเบียบนำเงินรายได้อุทยานฯ ช่วยจนท.พิทักษ์ป่า

กรุงเทพฯ 27 ก.ค.-อธิบดีกรมอุทยานฯ เผยออกระเบียบใช้เงินรายได้อุทยานแห่งชาติฯ มาเพิ่มความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าที่บาดเจ็บและเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ มอบสูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 27 ก.ค.66 เป็นต้นไป สร้างขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงาน


นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชกล่าวว่า ได้ออกประกาศกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการจ่ายเงินสวัสดิการ ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์ป่าในการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการจ่ายเงินสวัสดิการ ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์ป่า ที่ได้รับอันตราย บาดเจ็บ หรือเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ ในการคุ้มครองดูแลรักษาอุทยานแห่งชาติ วนอุทยาน สวนพฤกษศาสตร์ สวนรุกขชาติ หรือพื้นที่ซึ่งคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติเห็นชอบให้เตรียมการกำหนดเป็นอุทยานแห่งชาติ โดยใช้เงินอุทยานแห่งชาติ ซึ่งเป็นการอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 32 (3) แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ประกอบข้อ 46 (3) ของระเบียบกรมอุทยานแห่งชาติฯ ว่าด้วยการนำส่ง การเก็บรักษา และการใช้จ่ายเงินเพื่อการอนุรักษ์ฟื้นฟูและบำรุงรักษาอุทยานแห่งชาติฯ พ.ศ. 2564 โดยเงินรายได้อุทยานแห่งชาติ จะนำมาจ่ายเงินช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ซึ่งเสียชีวิตอันเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่เกิดการปะทะต่อสู้ ผลจากการออกตรวจปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือการลาดตระเวนในพื้นที่ป่า หรืออันเนื่องมาจากสัตว์ป่าทำร้าย

นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติกล่าวว่า ได้รับมอบหมายจากรักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานฯ ในการดำเนินการจัดประชุมคณะกรรมการพิจารณาการใช้จ่ายเงินอุทยานแห่งชาติ เพื่อพิจารณาร่างประกาศกรมอุทยานฯ ดังกล่าว โดยกำหนดอัตราจ่ายเงินช่วยเหลือไม่เกิน 500,000 บาท ส่วนการเสียชีวิตเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ในกรณีอื่นๆ นอกเหนือจากที่กล่าวไว้แล้วข้างต้น จ่ายเงินช่วยเหลือในอัตราไม่เกิน 400,000 บาท กรณีบาดเจ็บถึงแก่ทุพพลภาพหรือพิการ จ่ายเงินช่วยเหลือในอัตราไม่เกิน 300,000 บาท บาดเจ็บสาหัสอันเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่ที่มีความเสี่ยงภัย จ่ายเงินช่วยเหลือเท่าที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 150,000 บาท บาดเจ็บอันเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่ จ่ายเงินช่วยเหลือเท่าที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 50,000 บาท ซึ่งประกาศกรมอุทยานแห่งชาติฯฉบับนี้ ถือเป็นสวัสดิภาพ สวัสดิการ เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ ในการปฏิบัติงานป้องกันดูแลรักษาพื้นที่ป่าไม้และสัตว์ป่า ซึ่งมีความเสี่ยงภัยและอันตรายรอบด้าน


ทั้งนี้กรมอุทยานแห่งชาติฯ มีเจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติงานในการคุ้มครอง ดูแลรักษาพื้นที่ป่าไม้และสัตว์ป่าทั่วประเทศ จำนวนกว่า 20,000 คน ในแต่ละปีที่ผ่านมามีเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต เฉพาะในปี พ.ศ. 2565 ถึงปัจจุบัน รวมจำนวน 24 คน แบ่งเป็นเจ้าหน้าที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ จำนวน 12 คน บาดเจ็บ จำนวน 12 คน ต่อกรณีที่เกิดขึ้นกรมอุทยานแห่งชาติฯ ไม่ต้องการให้มีเจ้าหน้าที่ได้รับอันตราย บาดเจ็บ หรือเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้น การช่วยเหลือเยียวยาแก่ผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือญาติของผู้เสียชีวิต จึงเป็นสิ่งจำเป็นและสำคัญ เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงานแก่เจ้าหน้าที่และญาติของเจ้าหน้าที่ผู้เสียชีวิต เนื่องจากพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติฉบับเดิมที่บังคับใช้มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2504  มีข้อจำกัดในการนำเงินอุทยานแห่งชาติ มาใช้ประโยชน์ในการช่วยเหลือเยียวยาเจ้าหน้าที่ผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่พระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ได้รับการพัฒนาปรับปรุงแก้ไข สามารถนำเงินอุทยานแห่งชาติ มาใช้จ่ายเพื่อเป็นสวัสดิการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ซึ่งได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ได้ ทั้งนี้ สำหรับเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าซึ่งปฏิบัติงานในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติฯ จะได้ดำเนินการจัดทำประกาศกรมฯ กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการใช้จ่ายเงินสวัสดิการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์ป่า ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตห้ามล่าสัตว์ป่า ลักษณะเดียวกันกับกฎหมายอุทยานแห่งชาติต่อไป

สำหรับประกาศกรมอุทยานแห่งชาติฯ ดังกล่าว จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 27 กรกฎาคม 2566 เป็นต้นไป ซึ่งจะส่งผลให้มีวงเงินในการคุ้มครองดูแลชีวิตของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าต่อไปในอนาคต ถือเป็นข่าวดีต่อเนื่องจากการขอขึ้นเงินค่าตอบแทนให้แก่เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า จาก 9,000 บาท เป็น 11,000 บาท ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า เนื่องในวันเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าโลก ที่จะจัดงานเพื่อรำลึกถึงคุณงามความดีของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ณ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ในวันที่ 31 กรกฎาคม 2566 นี้.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขัง เจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

กองปราบฯ นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขังศาลอาญารัชดา เบื้องต้นท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ด้านเจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

ครูปรีชาทนายตั้ม

“ครูปรีชา” หิ้วกาแฟ-ข้าวผัด เยี่ยม “ทนายตั้ม”

เกือบ 24 ชั่วโมง ที่ตำรวจกองปราบฯ คุมตัว “ทนายตั้ม-ภรรยา” มาสอบปากคำ เบื้องต้นทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ เตรียมส่งตัวฝากขังบ่ายนี้ ส่วนคู่กรณีหวย 30 ล้าน “ครูปรีชา” นำข้าวผัดและกาแฟ เข้าเยี่ยม “ทนายตั้ม” พร้อมยืนยันคำเดิม “ความจริงก็คือความจริง”

นายกฯ เร่งตั้งทีม JTC เจรจา MOU44 คาดชัด 18 พ.ย.นี้

นายกฯ ยันรัฐบาลเร่งตั้งคณะกรรมการ JTC หารือเส้นเขตแดน MOU 44 และพลังงานใต้ทะเล คาด 18 พ.ย.นี้ ชัดเจน “ภูมิธรรม” มั่นใจกัมพูชายึดตามสนธิสัญญาเจนีวา แม้ไม่เข้าร่วม ย้ำมีผลผูกพันทุกประเทศทั่วโลก