กรุงเทพฯ 13 ม.ค.-รองปลัด ทส. คาดรู้ผลสอบวินัยร้ายแรงกรณีอธิบดีกรมอุทยานฯ เรียกรับสินนใน 30 วัน ขณะนี้อยู่ระหว่างที่ผู้ถูกสอบสามารถยื่นคัดค้านรายชื่อคณะกรรมการสอบสวนใน 7 วันตามระเบียบซึ่งจะครบกำหนดในวันนี้ จากนั้นจะเรียกประชุมคณะกรรมการอย่างเป็นทางการครั้งแรก
นายเถลิงศักดิ์ เพ็ชรสุวรรณ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานฯ กรณีเรียกรับเงินจากผู้ใต้บังคับบัญชาแลกกับการแต่งตั้งโยกย้าย เปิดเผยความคืบหน้าในการสอบสวนว่า คณะกรรมการฯ อยู่ระหว่างรอให้ครบกำหนด 7 วัน ที่ผู้ถูกสอบสวนจะสามารถคัดค้านรายชื่อคณะกรรมการสอบสวนทั้งหมดว่า มีความไม่เป็นกลางหรือไม่ ตามเงื่อนไขการสอบสวนวินัยซึ่งจะครบ 7 วันภายในวันนี้
หากไม่มีการคัดค้านจากผู้ถูกสอบ คณะกรรมการถึงจะเรียกประชุมอย่างเป็นทางการครั้งแรก พร้อมกำหนดกรอบเวลาในการสอบสวนให้รวดเร็วที่สุด คาดว่า จะใช้เวลาประมาณ 30 วัน โดยได้รับนโยบายจากนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวง ทส. และนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงฯ ให้ตรวจสอบอย่างรอบคอบ รวบรวมพยานหลักฐานให้มากที่สุด และพิจารณาอย่างเป็นธรรม โดยว่าไปตามผิดถูก เบื้องต้น จะดูเรื่องเงิน 2 ก้อนคือ 98,000 บาทและ 4 ล้าน 9 แสนบาทว่า มีที่มาจากที่ใด จากนั้นจะเรียกพยานที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล
ทั้งนี้การทำงานของคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงจะทำงานคล้ายกับเจ้าพนักงานปปป.ที่จะต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้ได้มากที่สุดก่อนพิจารณาลงโทษ และจะต้องขอข้อมูลการตรวจสอบจากพนักงานสอบสวนบก.ปปป. และป.ป.ช. มาพิจารณาร่วมกัน โดยโทษสูงสุดคือ ไล่ออก
ส่วนจะมีการเรียกหัวหน้าหน่วยงานต่างๆ มาสอบสวนด้วยหรือไม่นั้นเ บื้องต้นจะตรวจสอบข้อมูลตามรายชื่อและเงินของกลางซึ่งน่าจะตรงกับข้อมูลที่มีกับป.ป.ป ขณะที่ตัวอธิบดีกรมอุทยานฯ จะถูกเรียกมาสอบสวนภายหลังการสอบพยานแล้วทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม หากภายในวันนี้ มีการคัดค้านรายชื่อคณะกรรมการสอบสวนวินัยฯ เรื่องจะถูกส่งกลับไปให้ปลัดกระทรวงพิจารณาเหตุผลที่คัดค้านอีกครั้งว่า มีเหตุขัดแย้งหรือโกรธเคืองกันมาก่อนหรือไม่ พร้อมยอมรับว่า มีความกดดันในการเป็นประธานสอบสวนวินัยร้ายแรงในครั้งนี้ แต่มองว่า หากทุกอย่างยังอยู่ในระเบียบกฎหมายก็จะสามารถดำเนินการได้.-สำนักข่าวไทย