“ม้า อรนภา” เปิดใจแจงภาพในคลิปแค่ “แตะ” ไม่ได้ “ตบ” ดาราชาย

MYT Studio 30 พ.ย. – “ม้า อรนภา” เปิดใจไม่ได้โมโหหิวเพราะอดกินปู ชี้แจงภาพในคลิป แค่ “แตะ” ไม่ได้ “ตบ” พร้อมขอโทษทุกฝ่าย เตรียมชี้แจ้งพร้อมกันในวันพรุ่งนี้


เมื่อเวลา 16.00 น. วันนี้ (30 พ.ย.) “ม้า” อรนภา กฤษฎี ดารารุ่นใหญ่ แถลงข่าวเปิดใจเป็นครั้งแรก ชี้แจงกรณีที่ตกเป็นข่าวดารารุ่นใหญ่ ตบหน้าดาราชาย กลางห้างสรรพสินค้าที่เกาหลีใต้ สาเหตุเพราะไม่พอใจที่ดาราชายปฏิเสธไม่ไปกินปูด้วย

ม้า อรนภา กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องขอบคุณกำลังใจที่ส่งเข้ามาให้เยอะมาก โดยหลังจากเกิดเหตุขึ้น ตนได้เขียนข้อความเอาไว้ตั้งใจที่จะโพสต์ลงโซเชียลแต่มีคนแนะนำว่าให้เงียบไว้ก่อน ซึ่งวันนี้ตนจะพูดในสิ่งที่ตนได้เขียนไว้ก่อน โดยสิ่งที่ตนได้เขียนไว้ คือ ตนขอโทษและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากๆ ซึ่งยอมรับผิดทุกอย่างและก็ได้ขอโทษพร้อมกับปรับความเข้าใจกับดาราชายไปแล้ว แต่ก็ไม่ทราบว่าหลังจากนั้นดาราชายยังมีสิ่งที่คาใจจนต้องไปปรึกษาทนายความ ซึ่งหลังเกิดเรื่อง ตนพยายามที่จะติดต่อดาราชายอยู่ตลอด แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ ดาราชายก็ไม่กล้าจะมาเจอหน้าตน ตนจึงต้องพูดคุยผ่านอดีตผู้จัดการของดาราชายแทน


ทั้งนี้ เรื่องรายละเอียดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนอยากให้รอฟังจากปากของทั้ง 2 คน ดีที่สุด อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจจากข่าว และฝากขอโทษไปถึงพ่อแม่ของดาราชาย ขอโทษที่ทำให้ทุกคนผิดหวังในตัวเอง และตนพร้อมยอมรับในผลที่จะตามมา โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ตนเองได้ทำ Marketing ให้กับโรงพยาบาลศัลยกรรมที่เกาหลีใต้มานานแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ตนได้รู้จักดาราชายผ่านทางผู้จัดการของน้อง ซึ่งตนก็ยังบอกน้องว่าน้องเป็นคนหล่อแต่อาจจะต้องทำจมูกเพิ่ม หากจะเข้าวงการบันเทิง หลังจากนั้นผู้จัดการก็ติดต่อกลับมาบอกว่า น้องตัดสินใจจะไปทำศัลยกรรมกับตน ตนจึงจัดการติดต่อกับทางเกาหลีใต้ให้ทุกอย่าง จนเดินทางไปด้วยกัน ซึ่งปกติแล้วเวลาที่ตนพาใครไปทำศัลยกรรม ตนก็จะดูแลอย่างดีทุกอย่าง ตลอดเวลาที่เดินทางไป ซึ่งกับน้องดาราชายคนนี้ ระหว่างที่ไปด้วยกัน ก็ได้มีการพูดคุยกัน และตนก็มีการสอนและแนะนำน้องในหลายข้อในฐานะที่น้องกำลังจะเข้าสู่วงการบันเทิง ซึ่งน้องก็รับฟัง และเรียกตนว่า “แม่”

จนก่อนวันที่จะไปทำศัลยกรรม ตนก็ได้แนะนำว่าอยากจะไปกินอะไร ไปกินปูไหม น้องก็บอกว่า อยากไป ชอบกินปู ตนจึงทำการจองร้านไว้เรียบร้อย ซึ่งร้านค่อนข้างหายาก เพราะมีหลายร้านที่ต้องปิดตัวไปในช่วงโควิด-19 จากนั้นก็ได้มีการไปเดินช็อปปิ้งซื้อของกัน ซึ่งตนนั่งรอน้องอยู่ที่คาเฟ่ และปล่อยให้น้องไปเดินช็อปปิ้งเอง ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง น้องก็กลับมาพร้อมกับถุงเต็มไม้เต็มมือ ตนเลยถามว่า “ไหวไหม” เพราะโดยปกติแล้วถ้าเดินช็อปปิ้งนานๆ ตนก็จะไม่อยากไปไหนต่อแล้ว แต่น้องก็ตอบว่า “ไหว” และระหว่างที่เดินช็อปปิ้งต่อ ตนก็ยังพยายามถามย้ำอยู่อีกประมาณ 2-3 ครั้งว่า ไหวไหม ถ้าไม่ไหวให้บอกจะได้เปลี่ยนแผน แต่น้องก็บอกว่าไหว

จนมาถึงเหตุการณ์ตามภาพคลิปวงจรปิด เมื่อตนซื้อรองเท้าเสร็จและกำลังจะไปกินปูกันตามที่ได้จองร้านเอาไว้ อยู่ ๆ น้องก็พูดขึ้นมาว่า ไม่ไปกินปูแล้วนะ ตอนนั้นตนยอมรับว่าเป็นคนมือไว เลยแตะไปที่หน้าของน้อง พร้อมพูดว่า “จะบ้าหรอ” ซึ่งย้ำว่าเป็นการแตะไม่ใช่การตบ ลักษณะเหมือนเป็นการสั่งสอนเท่านั้น เพราะก่อนหน้านี้ก็มีการเผลอแตะแขน แตะไหล่อยู่แล้ว


โดยเจตนาของตน คือต้องการจะสอนว่า อย่าพูดแบบนี้ โดยเฉพาะเรื่องของการผิดนัด แต่เมื่อทำไปแล้ว น้องมีอารมณ์โมโห พูดว่า “ตบหน้าผมเลยหรอ ถ้าเป็นคนอื่นผมด่าไปแล้ว” และน้องก็พยายามเดินหนี ตนจึงได้สติว่าไม่น่ามือไว รู้สึกแย่ เสียใจมาก จึงรีบเดินไปจับน้องไว้ แล้วบอกว่า “ขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจ” โดยตนทำไปเพราะตกใจที่อยู่ๆ น้องก็จะเปลี่ยนแผน จากนั้นน้องก็บอกว่าอยากขอเวลาอยู่คนเดียวก่อน ตนเลยเดินตามห่าง ๆ แล้วไปยืนกินข้าวโพดรอให้น้องอารมณ์เย็นลง

สักพักก็เข้าไปคุยกันจนเข้าใจกัน น้องก็บอกเองว่า เรื่องนี้จะรู้กันแค่สองคน “ผมจะไม่บอกใครแม้กระทั่งผู้จัดการ” และน้องก็บอกว่า “ผมเคารพแม่มาก แม่สอนอะไรหลายอย่าง” จากนั้นก็เข้ามากอดตน และบอกว่าไปกินปูกันครับ แล้วจึงไปกินปูด้วยกัน และพูดคุยกันตามปกติ ซึ่งระหว่างกินน้องก็บอกว่าจริงๆ แล้วผมอยากกลับไปดูละครให้ทัน เมื่อกินเสร็จจึงกลับโรงแรม และนัดหมายไปทำศัลยกรรมในวันรุ่งขึ้น

พอหลังจากทำศัลยกรรมเสร็จ ระหว่างช่วงพักฟื้น น้องก็หลีกเลี่ยงการไปกินข้าวกับตน แต่จะซื้อขนมปังมากินเอง ตนก็ปล่อยให้น้องพัก แต่ก็พยายามโทรถาม และเตือนให้กินยาอยู่ตลอด และตัดสินใจไปเคาะห้อง น้องก็บอกว่า เดี๋ยวๆ โป๊อยู่ พอเข้าไปก็พูดคุยกันตามปกติ จนผ่านไป 3 วัน ต้องไปถอดเฝือกล้างแผลด้วยกัน น้องก็ยังพูดคุยกับตนตามปกติ ยังถ่ายรูปถ่ายคลิปให้ แต่พอออกมาจากโรงพยาบาล น้องบอกว่าเดี๋ยวเจอกันวันที่ 29 เลยคือวันที่ตัดไหม

ซึ่งระหว่างนั้นตนก็ได้ทักไลน์ไปหาผู้จัดการของน้องเพื่อจะถามว่า น้องคนนี้เป็นคนยังไง ผู้จัดการก็โทรกลับมาบอกว่า ไม่ได้ดูแลน้องคนนี้แล้ว ยกเลิกสัญญาเพราะว่าเพิ่งทะเลาะกันไป ต่อมาวันรุ่งขึ้นก็ปรากฏเป็นข่าวดังที่ประเทศไทย โดยตนรู้จากผู้จัดการของน้องที่โทรมาบอกให้ตนรีบออกจากประเทศเกาหลีใต้ และในโซเชียลก็มีทัวร์มาลงตนเยอะมาก ซึ่งพอรู้เรื่องตนก็พยายามโทรศัพท์หาน้องทันที แต่น้องไม่รับสาย ตนจึงส่งข้อความไปว่า ทำไมถึงต้องทำขนาดนี้ แต่น้องไม่ตอบกลับ ตนเลยลบข้อความทิ้ง และเมื่อกลับไปที่โรงแรมก็เห็นว่าน้องเก็บของย้ายออกไปจากห้องหมดแล้ว

จนกระทั่งเมื่อวานนี้ (29 พ.ย.) มีนัดตัดไหมก่อนเดินทางกลับ ตนถึงเพิ่งได้เจอน้องเป็นครั้งแรกหลังจากเกิดเรื่อง ซึ่งน้องได้บอกกับตนว่า พี่คงไม่เครียดหรอก เพราะผ่านอะไรมาเยอะ แต่ผมเครียดมาก เพราะไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่โต “ผมแค่ต้องการจะสั่งสอนพี่ว่า ไม่ควรไปตบหน้าใคร” ซึ่งตนก็ไม่ได้ตอบโต้อะไร ทั้งนี้ ตนไม่รู้ว่าใครเป็นคนแนะนำให้น้องไปปรึกษาทนายความ แต่ทราบมาว่าน้องได้ทักไปหาทนายความหลายคน แต่มีเพียงคนเดียวที่ตอบกลับมา

อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้กังวลกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะหลายคนก็บอกว่าเอาผิดไม่ได้ ส่วนการที่น้องไปแจ้งความไว้ที่เกาหลีใต้ ตนได้ให้สถานทูตไทยเช็คไปยังสถานีตำรวจเมียงดงแล้ว เจ้าหน้าที่บอกว่าเหตุการณ์แบบนี้ในแต่ละวันมีเยอะมาก ลักษณะเหมือนแค่ลงบันทึกประจำวันไว้ เพื่อที่จะนำไปขอคลิปกล้องวงจรปิด และตลอดเวลาที่อยู่ที่เกาหลีใต้จนถึงเดินทางกลับมา ก็ไม่ได้มีเจ้าหน้าที่ติดต่อมาหาตนแต่อย่างใด

ส่วนกับน้อง ตนยังหวังดีด้วยเสมอ แต่ไม่รู้ว่าน้องจะยังรู้สึกดีกับตนหรือไม่ ซึ่งอาจจะไม่ก็ได้ ไม่อย่างนั้นคงไม่ทำแบบนี้ แต่สำหรับตนเรื่องระหว่าง 2 คน จบไปตั้งแต่ที่ขอโทษกันแล้วไปกินปูด้วยกันแล้ว

ส่วนกรณีที่มีบุคคลที่สามออกมาพูดถึงเรื่องนี้จนเป็นเรื่องราวใหญ่โต ยอมรับว่าทำให้ตนเสียหายมาก แต่หากเทียบกับช่วงที่ตนโดนให้ออกจากงาน ก็เป็นเรื่องที่ใหญ่โตกว่ามาก ตนยังสามารถให้อภัยได้ ทั้งนี้ เรื่องนี้เป็นเรื่องของคนสองคนที่ไม่เข้าใจกัน ตนก็ไม่คิดว่าจะเอาเรื่องไปบอกกับทนายความ ยอมรับว่ารู้สึกไม่ดี แต่ตนควบคุมอารมณ์ได้ ส่วนจะฟ้องใครหรือไม่ ตนคงยังตอบไม่ได่ เพราะไม่รู้เรื่องกฎหมาย ส่วนกับทนายความที่ออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ไม่มีอะไรจะฝากถึง และในวันพรุ่งนี้ ตนจะได้เจอกันกับน้องเพื่อเคลียร์ใจกันในรายการคุยแซ่บโชว์ด้วย

เมื่อถามว่า คิดว่าน้องดาราชายนำเรื่องนี้มาเปิดเผยกับทนายความ เพื่อจะใช้ชื่อเสียงของตนมาสร้างกระแสให้ตัวเองหรือไม่ ม้า อรนภา ตอบว่า ตนไม่ได้มีชื่อเสียงอะไรแล้ว และเมื่อถามถึงประเด็นเรื่องชู้สาว ม้า อรนภา ยืนยันว่าไม่มีแน่นอน ตนแก่ขนาดนี้แล้ว ส่วนที่ไปเคาะห้องก็เป็นหน้าที่ของตนที่ต้องไปดูแลลูกค้าว่าหลังจากทำศัลยกรรมมาหน้าตาเป็นอย่างไรบ้าง มีอะไรผิดปกติหรือไม่ ยืนยันหลังจากนี้ยังจะทำ Marketing ให้กับโรงพยาบาลศัลยกรรมต่อไป และทิ้งท้ายว่า ถ้าอยากทำศัลยกรรม ให้ไปกับตน รับรองจะดูแลอย่างดี เลี้ยงปูและไม่ตี ขอให้พูดกันดีๆ. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

กองทัพบกประณามกัมพูชา โจมตีเป้าหมายพลเรือนในเขตไทย

กทม. 24 ก.ค.-กองทัพบก ประณามการกระทำของฝ่ายกัมพูชา กรณีใช้อาวุธโจมตีเป้าหมายพลเรือนในเขตแดนไทย กองทัพบกขอประณามการกระทำอันรุนแรงและไร้มนุษยธรรมของฝ่ายกัมพูชา จากกรณีที่มีการใช้อาวุธจรวด BM-21 จำนวน 2 นัด ยิงเข้ามาในพื้นที่ชุมชนภายในศูนย์พัฒนาพื้นที่ชายแดน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อเวลา 09.40 น. วันนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ราษฎรได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ซึ่งฝ่ายไทยได้ดำเนินการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่โดยทันที เพื่อความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังเฝ้าติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งเตรียมมาตรการรองรับอย่างรอบด้าน ทั้งนี้ หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติม จะได้รายงานให้ทราบต่อไปโดยเร็วที่สุด.-313.-สำนักข่าวไทย

น่าน จมมาบาดาลเกือบทั้งเมืองแล้ว

น่าน 24 ก.ค.-น้ำท่วมตัวเมืองน่านวิกฤติหนัก หลังน้ำยังเพิ่มสูงบางจุดท่วมมิดชั้น 2 แล้ว และขยายวงกว้างออกไปในรัศมีเกือบ 10 กม. รวมทั้ง รพ.น่าน ที่ต้องย้ายผู้ป่วยไปที่สนามบิน น้ำท่วมตัวเมืองน่านเรียกว่าสาหัสสากรรจ์จริงๆ ตอนนี้เมืองน่านจมมาบาดาลเกือบทั้งเมืองแล้ว จากที่ประเมินเท่ากับน้ำท่วมใหญ่ปี 49 ซึ่งเป็นน้ำท่วมใหญ่รอบร้อยปี แต่ตอนนี้น่าจะหนักเกินแล้ว น้ำท่วมถึงชุมชนสวนตาล ซึ่งอยู่ห่างจากริมน้ำน่าน 4 กิโลเมตร แม้จะเห็นว่าระดับไม่สูง แต่ด้านในสูงถึงคอแล้ว การเข้าออกต้องใช้เรือเพียงอย่างเดียว และน้ำยังเพิ่มขึ้น ชาวบ้านยังเร่งอพยพข้าวของออกมา เขตเศรษฐกิจเมืองน่านไม่ต้องพูดถึงจมน้ำสูงกว่า 1 เมตร วัดวาอารามหลายแห่งถูกน้ำท่วม และยิ่งชุมชนใกล้น้ำน่านบ้านเรือนหลายพันหลังถูกน้ำท่วมสูง บางจุดน้ำท่วมถึงชั้น 2 ของบ้าน อย่างเจ้าของบ้านรายนี้ถ่ายภาพจากชั้น 2 ของบ้านย่านชุมชนบ้านพระเกิด ไม่ไกลจากโรงพยาบาลน่าน ส่งมาให้ทีมข่าว จะเห็นว่าน้ำท่วมสูงเกินรั้วบ้านและกำลังจะขึ้นชั้นสอง และมีชาวบ้านที่ติดอยู่ในบ้านกลางน้ำท่วมสูงอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่พยายามจะเข้าไปช่วยแต่เรือมีจำกัดและน้ำยังไหลเชี่ยว ทำให้บางจุดยังไม่สามารถเข้าไปได้ ชาวบ้านบางส่วนต้องเดินฝ่าน้ำท่วมสูงถึงคอออกมาด้านนอก เพื่อหาอาหารและน้ำดื่ม รวมทั้งโรงพยาบาลน่านที่ถูกน้ำท่วมตั้งแต่เมื่อคืน เจ้าหน้าที่เพิ่งออกมาจากโรงพยาบาลบอกว่า ตอนนี้น้ำท่วมสูงมาก ตึกอาคารเก่าน้ำท่วมถึงหน้าอก แต่ผู้ป่วยในราว 3 ร้อยคนอยู่บนตึกใหม่ตั้งแต่ชั้น 2 ปลอดภัยดี […]

เปิดแผน “จักรพงษ์ภูวนารถ” ป้องกันประเทศจากภัยคุกคาม

กทม. 24 ก.ค.-เปิดแผน “จักรพงษ์ภูวนารถ” ป้องกันประเทศจากภัยคุกคามฝ่ายตรงข้าม โฆษก ทบ. ชี้ชัดเจนแล้ว กัมพูชา เป็นฝ่ายที่บีบบังคับเรา ซัดเราคงไม่ปล่อยให้ใครเอาเปรียบ หรือลอบทำร้าย จากนี้จำเป็นต้องทำในสิ่งที่พยายามหลีกเลี่ยงมาตลอด ลั่นขณะนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้! ขอให้พี่น้องคนไทย เชื่อมั่นในศักยภาพของกองทัพไทย พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ระบุถึงแผนจักรพงษ์ภูวนารถ ที่เราเปิดปฏิบัติการ ว่าคือ แผนป้องกันประเทศ ที่กำหนดหน้าที่ของแต่ละหน่วย และกำลังทางทหาร และให้เตรียมความพร้อม เมื่อมีคำสั่ง เป็นแผนที่ได้ถูกกลั่นกรอง โดยประเมินจากสถานการณ์ และสภาพแวดล้อมในกิจการป้องกันประเทศ ในกรอบของกองทัพบก ที่ผ่านมา ในศึกเขาพระวิหาร ที่ใช้แผนนี้ ปัจจุบันขีดความสามารถกำลังรบเราเป็นอย่างไร โฆษก ทบ. ระบุพัฒนามาตามลำดับ และพิจารณาให้เหมาะสมกับภัยคุกคาม และขีดความสามารถของฝ่ายตรงข้าม ป้องกันภัยคุกคามจากฝ่ายตรงข้าม ส่วนแผนหลักๆ เป็นการป้องกัน หรือรุกคืบ โฆษก ทบ. ระบุ อาจจะพูดไม่ได้ แต่โดยปกติ อันดับแรกต้องครอบคลุมอธิปไตยของเราก่อน ส่วนเป็นการซีลชายแดนหรือไม่ โฆษก ทบ. ระบุพูดง่ายๆ แผนนี้ […]

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย