ผลสอบพบ! อดีต ผบช.น.-ตร.สน.ทองหล่อ-พฐ.บกพร่องคดี “บอส”

กทม.21 ส.ค.-Super Exclusive! พบอดีต ผบช.น. กลางปี 59,ต้นปี 60 บกพร่องคดี “บอส อยู่วิทยา” ตำรวจ สน.ทองหล่อ ลามถึงตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ส่วน พล.ต.ท.เพิ่มพูน รอด! ไม่ถูกเสนอตั้งกรรมการสอบ


มีรายงานว่าหลังจาก คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่แย้งคำสั่งไม่ฟ้องเด็ดขาดของอัยการคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา ทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง ขับรถชนตำรวจเสียชีวิต เมื่อปี 2555 ซึ่งพลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตั้งขึ้น มีพลตำรวจเอกศตวรรษ หิรัญบูรณะที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นประธาน ได้ขอขยายเวลาการสอบสวนเพิ่มอีก 10 วัน โดยครบกำหนดการขยายเวลาสอบสวนวันนี้ (21 ส.ค.)

รายงานแจ้งว่า คณะกรรมการฯ ได้ช่วยกันสรุปผลการสอบสวนจนเสร็จสิ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา(20 ส.ค.) และตรวจทานในช่วงเช้าวันนี้(21 ส.ค.) ก่อนเสนอพลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือ ผบ.ตร. ในวันเดียวกัน เพื่อสั่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาข้อบกพร่องและชี้มูลความผิดที่ปรากฎ


เหตุผลที่คณะกรรมการฯ จำเป็นต้องขอขยายเวลาสอบสวนส่วนหนึ่ง มาจากพลตำรวจโทเพิ่มพูน ชิดชอบ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้ส่งเอกสารชี้แจงเป็นครั้งที่ 2 เนื่องจากมีรายละเอียดบางอย่างที่ต้องชี้แจงต่อคณะกรรมการฯเพิ่มเติม  อาทิ กระบวนการพิจารณาทำความเห็นที่ใช้ระยะเวลานานกว่า 3 เดือน ซึ่งพลตำรวจโทเพิ่มพูน ยังคงยืนยันการใช้ดุลยพินิจ ไม่แย้งคำสั่งไม่ฟ้องเด็ดขาดของอัยการ เป็นไปอย่างถูกต้องทุกประการ

มีรายงานด้วยว่า พลตำรวจเอกมนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร. ได้ส่งเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษร  3-4 หน้ากระดาษ ชี้แจงต่อคณะกรรมการฯ  กรณีพันตำรวจเอกธนสิทธิ์ แตงจั่น พาดพิงว่า มีการใช้ห้องประชุมกองพิสูจน์หลักฐานพบกับพันตำรวจเอกวิรดล ทับทิมดี   ,  อาจารย์สายประสิทธิ์ เกิดนิยม และพลตำรวจเอกสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีต ผบ.ตร เพื่อพูดคุยสูตรคำนวณความเร็ว  จนเป็นที่มาของการเปลี่ยนแปลงความเร็วรถยนต์ของนายวรยุท

เอกสารพลตำรวจเอกมนู ยืนยันว่า มีการพบกันในห้องประชุมของ พฐ. จริง แต่พลตำรวจเอกสมยศ ไม่ได้เดินทางมาด้วย  และด้วยความรอบคอบพลตำรวจเอกมนู  ในฐานะผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจในขณะนั้น ได้มอบหมายให้พลตำรวจโทธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานในขณะนั้น  พร้อมด้วยพันตำรวจเอกวิวัฒน์ สิทธิสรเดช ผู้กำกับการ ในฐานะผู้บังคับบัญชาโดยตรงของพันตำรวจเอกธนสิทธิ์ เข้าร่วมรับฟังด้วย  ส่วนพลตำรวจเอกมนู ไปประชุมและทำภารกิจตามปกติ คณะกรรมการฯได้เก็บข้อมูลการชี้แจงนี้ เสนอต่อ ผบ.ตร. ด้วย


มีรายงานข้อมูลสำคัญว่า การพิจารณาข้อบกพร่อง ของคณะกรรมการฯ ได้คัดแยกตำรวจที่มีความบกพร่องในคดีนายวรยุทธ ออกเป็น 4 กลุ่ม โดยบางนายถูกพิจารณาข้อบกพร่องหลายประเด็น

กลุ่มที่ 1 จำนวน  11 นาย  เป็นพนักงานสืบสวนสอบสวน ซึ่งมีจำนวน  2 ชุด  บางนายเคยถูก ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดไปแล้ว เช่น พันตำรวจเอกวิรดล ทับทิมดี พนักงานสอบสวนในวันเกิดเหตุ , ผู้กำกับการ สน.ทองหล่อ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนในขณะนั้น และรองผู้กำกับการ สน.ทองหล่อ ในฐานะที่กำกับดูแลพันตำรวจเอกวิรดลข้อบกพร่องที่พบ  เช่น ไม่ตรวจปัสสาวะ ผู้ต้องหา ซึ่งเป็นประเด็นที่ ป.ป.ช. ยังไม่ได้ชี้มูลความผิด หรือกรณี ผู้ต้องหามอบตัวแล้วกลับให้ประกันตัวออกไป

กลุ่มที่ 2 จำนวน 9 นาย โดย 6 นาย เป็นอดีตผู้บังคับบัญชาระดับรองผู้บังคับการ ถึงผู้บัญชาการ ในช่วงปี 2559 – 2560  ได้แก่ อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในช่วงกลางปี 2559 , อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในช่วงต้นปี 2560 , อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล คุมงานสอบสวน, อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ควบคุม บก.น. 5, อดีตผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5, อดีตรองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 ข้อบกพร่อง ฐานเป็นผู้บังคับบัญชา ปล่อยปละละเลยไม่ใส่ใจ  เนื่องจากพนักงานอัยการ มีหนังสือเร่งรัดให้ออกหมายจับ และส่งตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดี แต่อดีตผู้บังคับบัญชาในกลุ่มนี้กลับไม่ดำเนินการออกหมายจับนายวรยุทธ ข้อหาชนแล้วหนี จนเป็นเหตุให้นายวรยุทธ เดินทางออกนอกประเทศ เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2560  และอีก 3 นาย คือ  พันตำรวจเอกวิรดล ทับทิมดี, ผู้กำกับการ สน.ทองหล่อ (ในขณะนั้น),รองผู้กำกับการ คุมงานสอบสวน (ในขณะนั้น)  ข้อบกพร่อง คือ ไม่ส่งตัวผู้ต้องหาไปตรวจปัสสาวะในทันทีหลังเกิดเหตุ

กลุ่มที่ 3 จำนวน  4 นาย ได้แก่ พันตำรวจเอกธนสิทธิ์ แตงจั่น, พันตำรวจเอกวิวัฒน์ ( ผู้บังคับบัญชาของ พันตำรวจเอกธนสิทธิ์), พลตำรวจโทธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข , รองผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐาน (กำกับดูแลพันตำรวจเอกธนสิทธิ์) ข้อบกพร่อง คือ กลับคำให้การเรื่องความเร็วรถยนต์จนเป็นจุดพลิกคดี

กลุ่มที่ 4  จำนวน  4 นาย ได้แก่ พันตำรวจเอกวิรดล ทับทิมดี ,ผู้กำกับการ สน.ทองหล่อ (ปี 2559 – 2560), รองผู้กำกับ สน.ทองหล่อ (ปี 2559-2560), พนักงานสอบสวน (ลงนามในหนังสือที่ส่งถึงอัยการแทนผู้กำกับ)  ข้อบกพร่อง คือ  ปรากฎหลักฐานว่ามีการลงวันที่สอบสวนพันตำรวจเอกธนสิทธิ์ 2 วัน  แต่ข้อเท็จจริงคือมีการสอบสวนเพียง 1 วัน

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า นายตำรวจที่เกี่ยวข้องหลายนายเกษียณอายุราชการไปแล้ว เช่น ผบช.น. จะลงโทษได้หรือไม่ กรณีนี้ หาก ผบ.ตร. มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงขึ้นมาแล้วสอบสวนพบมูลความผิดจริง ก็สามารถสั่งลงโทษย้อนหลังได้

ส่วนพลตำรวจโทเพิ่มพูน ก่อนหน้านี้สอบสวนไม่พบข้อบกพร่อง กรณีไม่แย้งคำสั่งไม่ฟ้องเด็ดขาดของอัยการนั้น มีรายงานว่า คณะกรรมการฯ มีความเห็นไม่เสนอ ผบ.ตร. ตั้งกรรมการสอบแล้วเช่นกัน เนื่องจากเห็นว่า “พลตำรวจโทเพิ่มพูน ได้ใช้ดุลพินิจโดยสมบูรณ์รอบคอบตามพยานหลักฐานที่ปรากฏในสำนวนขณะนั้น” กรณี พลตำรวจโทเพิ่มพูน จึงจบแค่ชั้นสอบสวนของชุดพลตำรวจเอกศตวรรษ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

5 ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากระเบิดกัมพูชา ทำพิธีลอยอังคาร

ชลบุรี 24 ส.ค. – 5 ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุกัมพูชายิงจรวดตกใส่ ทำพิธีลอยอังคาร ส่งดวงวิญญาณกลางอ่าวสัตหีบ โดยกองเรือยุทธการอำนวยความสะดวก 5 ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดของกัมพูชา เมื่อวันที่ 25 กรกฏาคม ประกอบด้วย ครอบครัวประชัน ซึ่งสูญเสียนางสาวรุ่งรัศ เด็กหญิงทักษพร และเด็กชายพงศภัค ครอบครัวเด็กชายกิตติศักดิ์ คำวัง ครอบครัวนางสาวอรุณรัตน์ วันศรี ครอบครัวนายสมศรี ลาภบุญ และครอบครัวนางสาวสาวิตรี อ่อนทรวง นำอัฐิผู้เสียชีวิต เดินทางจากจังหวัดศรีสะเกษ มายังกองเรือยุทธการ ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เพื่อทำพิธีลอยอังคาร ส่งดวงวิญญาณ โดยกองเรือยุทธการอำนวยความสะดวก สนับสนุนที่พัก รวมทั้ง จัดเรือกร.702 นำครอบครัวผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีกลางอ่าวสัตหีบ พิธีเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมเกียรติ ทุกคนต่างบอกว่า แม้จะผ่านมา 1 เดือน แต่ก็ยังทำใจไม่ได้ โดยเฉพาะครอบครัวประชัน ที่ต้องภรรยาและลูกอีก 2 คนไปพร้อมกัน.-สำนักข่าวไทย

ทบ. ตรวจสอบสาเหตุพลทหารเสียชีวิตที่ปราสาทตาเมือนธม

24 ส.ค. – กองทัพบกได้รับรายงานการเสียชีวิตของกำลังพลบริเวณปราสาทตาเมือนธม ปัจจุบันอยู่ระหว่างการตรวจสอบสาเหตุ พร้อมให้การช่วยเหลือเยียวยาตามสิทธิอย่างครบถ้วน กองทัพบกขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของ พลทหาร พิทยุตท์ โสดา กำลังพลสังกัด กองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 ซึ่งเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2568 เวลา 18.15 น. โดยพบร่างผู้เสียชีวิตภายในห้องสุขา บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ พลทหารพิทยุตท์ โสดา อายุ 20 ปี เป็นทหารกองประจำการ รุ่นปี 1/67 จากการสมัครใจเข้ามารับราชการในโครงการพลทหารออนไลน์ ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง พลปืนเล็ก หมู่ปืนเล็กที่ 2 หมวดปืนเล็กที่ 1 สังกัด กองร้อยทหารราบที่ 211 กองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 จากการตรวจสอบเบื้องต้น ผู้เสียชีวิตไม่มีโรคประจำตัว ไม่มีประวัติเสพยาเสพติด ไม่มีภาวะความเครียด […]

แจงปมเลขบัตรประชาชน “หลวงพ่ออลงกต” ซ้ำคนตาย

กทม. 24 ส.ค.-กรมการปกครอง แจงปม “เลขประจำตัวประชาชน” หลวงพ่ออลงกต ซ้ำกับคนตาย ส่วนการเปิดพร้อมเพย์ เลขบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ตาย ซึ่งตรงกับบัญชีกองทุนอาทรประชานาถ เป็นการดำเนินการโดยธนาคารพาณิชย์ กรณีมีรายงานว่า หลวงพ่ออลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ซึ่งมีชื่อเดิมว่า นายอลงกต พูลมุข มีชื่อซ้ำกับ นายอลงกต พลมุข ที่มีภูมิลำเนาที่ อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา และได้เสียชีวิตไปแล้วนั้น รวมทั้งวันเดือนเกิดยังตรงกัน ต่างกันเพียงปีเกิด ล่าสุดเฟซบุ๊ก กรมการปกครอง fanpage ได้โพสต์ข้อความถึงประเด็นดังกล่าว โดยระบุว่า “กรมการปกครอง ชี้แจงกรณีเลขบัตรประจำตัวประชาชนของหลวงพ่ออลงกต ตามที่ปรากฏข้อมูลจากสื่อมวลชนว่า ‘หลวงพ่ออลงกต มีเลขประจำตัวประชาชนตรงกับนายอลงกต พลมุข ซึ่งเป็นบุคคลที่เสียชีวิตแล้ว’ นั้น สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง ได้ตรวจสอบฐานข้อมูลทะเบียนราษฎรของกรมการปกครอง พบว่า พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือ หลวงพ่ออลงกต เลขประจำตัวประชาชน x-xxxx-xxx036-50-7 ชื่อจริง อลงกต พูลมุข นามสกุล พูลมุข มีสระอู เกิดปี […]

“คาจิกิ” ทวีกำลังเป็นพายุไต้ฝุ่น ส่งผลให้ไทยฝนตกเพิ่มทุกภาค

กรุงเทพฯ 24 ส.ค.- กรมอุตุฯ ออกประกาศระบุ ช่วงเช้าที่ผ่านมา พายุโซนร้อน “คาจิกิ” ในทะเลจีนใต้ ได้ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น เตือน 57 จังหวัด เฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก ตั้งแต่วันที่ 24-27 ส.ค.68 นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า พายุโซนร้อน “คาจิกิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น “กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย และมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย ก่อนจะขึ้นฝั่งตอนบนของ ประเทศเวียดนาม และ สปป.ลาว ในช่วงวันที่ 25–26 สิงหาคมนี้ ขอบด้านหน้าของพายุ เริ่มส่งผลกระทบต่อไทยตั้งแต่วันนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีเมฆฝนเพิ่มขึ้น จากนั้นจะมีฝนตก ก่อนขยายไปยังภาคกลาง รวมทั้ง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และ ภาคใต้ ในช่วงวันถัดไป กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า อิทธิพลของพายุ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่มีกำลังแรง จะทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ […]