ตร.เร่งล่าคนร้ายยิงถล่มงานแต่ง ย่านสุทธิสาร ตาย 1 บาดเจ็บ 4

กรุงเทพฯ 15 ส.ค. – ตำรวจเร่งล่าคนร้ายยิงถล่มกลางงานแต่งย่านสุทธิสาร ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บ 4 คน ล่าสุดมีการเปิดเผยคลิปก่อนและหลังยิงในงานแต่ง พ่อของเจ้าสาวระบุเจ้าบ่าวเชิญเพื่อนมาสังสรรค์


จากกรณีคนร้ายยุกยิงถล่มกลางงานแต่งงานที่บ้านหลังหนึ่งในซอยสุทธิพงศ์ 1/1 ถนนสุทธิสารวินิจฉัย เขตดินแดง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บ 4 คน เหตุเกิดเมื่อวานนี้ (14 ส.ค.)

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่ามีพยานหลายคนเห็นเหตุการณ์ ขณะร่วมงานเลี้ยงงานแต่งงาน โดยมีพยานที่ร่วมงานคนหนึ่งเล่าว่าก่อนเกิดเหตุมีกลุ่มคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ 3 คัน มาวนเวียนก่อนจะก่อเหตุ และจอดบริเวณหน้าอู่ซ่อมรถ และมี 1 คนในนั้นลงจากรถควักอาวุธปืนยิงเข้ามายังภายในงานที่ทางฝั่งเจ้าบ่าวนั่งกินกับเพื่อน โดยที่ไม่มีการพูดจากัน จากนั้นไม่นานได้ยินเสียงปืนดัง ไม่คิดว่าจะมีการยิงกันเกิดขึ้นในบ้านงานแต่งงาน คาดว่าต้องมีเรื่องกันมาก่อนหน้านี้ แล้วตามมายิงในงาน


ภายในงานเพื่อนกลุ่มเจ้าบ่าวมาเยอะมาก เชื่อว่าคนภายในต้องรู้กัน มีการชี้เป้าไว้แล้ว เพราะเมื่อลงจากรถพุ่งเป้ายิงไปทางกลุ่มผู้บาดเจ็บทันที ซึ่งก่อนเกิดเหตุมีวัยรุ่นคนหนึ่งเดินเข้ามาขอชาร์จแบตมือถือ แล้วพูดว่า “พวกพี่ไม่เกี่ยวนะ” จากนั้นไม่นานมีคนเข้ามากราดยิงตรงกลุ่มผู้บาดเจ็บ คาดว่าเพื่อนเจ้าบ่าวต้องรู้จักกลุ่มที่ขับรถมาวนดูก่อนหน้านี้อย่างแน่นอน อีกทั้งเมื่อวันเสาร์ที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา เพื่อนเจ้าบ่าวมานั่งกินอยู่ที่นี่ก่อนแล้วครั้งหนึ่ง และมีการพูดคุยถึงเรื่องเขม่นกับคู่อริ

นอกจากนี้ยังมีพยานที่อยู่ในบ้านงานระบุว่า ตอนเกิดเหตุต่างตกใจวิ่งหนีเอาตัวรอดกันจ้าละหวั่น และยังตั้งข้อสังเกตว่าก่อนจะเกิดเหตุนั้นมีกลุ่มเพื่อนของเจ้าบ่าวไปจอดรถเหมือนคอยเฝ้าสังเกตภายในซอยก่อนจะถึงบ้านที่เกิดเหตุ เหมือนรู้ว่าอาจมีผู้ไม่หวังดีมาก่อเหตุปั่นป่วนในงานแต่งงานครั้งนี้ กระทั่งหลังจากจัดงานแต่งงานเสร็จยังมีการกินเลี้ยงกันอยู่ถึงช่วงเย็น ปรากฏว่ามีรถจักรยานยนต์ 2 คัน ขี่ตามกันมาจอดบริเวณหน้าประตูทางเข้าที่จุดเกิดเหตุ จากนั้นคนร้ายประมาณ 2 คน ลงมาก่อเหตุแล้วหลบหนีไป ใช้เวลาก่อเหตุไม่ถึง 1 นาที

ทั้งนี้ มีรายงานว่ากลุ่มผู้บาดเจ็บเป็นเพื่อนฝ่ายเจ้าบ่าวที่มาร่วมงานกินเลี้ยงฉลองแต่งงาน ซึ่งเป็นนักศึกษาและอดีตนักศึกษาสถาบันอาชีวะชื่อดัง


ด้านพลตำรวจตรีโชคชัย งามวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่า จากการสอบถามเจ้าบ่าว ยืนยันว่าไม่มีเหตุโกรธเคืองกับใคร ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนว่ามีความเกี่ยวข้องกับผู้มาร่วมงานหรือไม่ ส่วนเรื่องความขัดแย้งระหว่างสถาบันนั้น ยังไม่ได้ตัดประเด็นนี้ เพราะเจ้าบ่าวจบการศึกษามานาน 2 ปี แล้ว โดยการยิงเป็นลักษณะยิงสาด ไม่ได้ยิงเฉพาะเจาะจงใคร ขอเวลาในการสืบสวนติดตามและไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางของคนร้าย เพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดี

เปิดคลิปวงจรปิดก่อนและหลังยิงกลางงานแต่ง
คลิปจากกล้องวงจรปิดก่อนและหลังเกิดเหตุ ภาพชุดแรกเป็นกล้องวงจรปิดช่วงก่อนเกิดเหตุ ระบุเวลาประมาณ 16.31 น. ของวันเกิดเหตุ กล้องจับภาพคนร้าย 4 คน ขี่รถจักรยายนต์ 2 คัน คันแรกคนขับสวมแจ็กเก็ตสีเขียว ส่วนคนซ้อนสวมเสื้อแขนยาวสีดำ ทับด้วยกั๊กสีเขียวสะท้อนแสง ขี่จักรยานยนต์สีดำ ส่วนคันที่ 2 ทั้งคนขับและคนซ้อนสวมเสื้อคลุมแจ็กเก็ตสีครีม หมวกกันน็อกสีขาวและสีดำ ขับผ่านที่เกิดเหตุเข้ามาในซอย ลักษณะคล้ายมาดูลาดเลา

ส่วนเหตุการณ์ที่ 2 กล้องในจุดเดิมระบุเวลา 16.47 น. ของวันเกิดเหตุ เป็นช่วงที่คาดว่าคนร้ายจะลงมือยิง โดยคนร้ายคันแรกที่สวมเสื้อแจ็กเก็ตเขียวขับเข้ามาจอดรอคนร้ายอีกคัน จากนั้นมีการพูดคุยกันสักครู่ ก่อนที่คนร้ายคันที่สวมแจ็กเก็ตเขียวจะวกรถกลับไปที่จุดเกิดเหตุเพื่อยิงกลุ่มผู้บาดเจ็บ โดยคนร้ายคันที่สวมแจ็คเก็ตสีครีมจอดรออยู่สักประมาณ 3-4 วินาที คนร้ายที่จอดรอก็ขับรถตามมือยิงออกไป

ส่วนเหตุการณ์ที่ 3 เป็นช่วงหลังเกิดเหตุ คนร้ายขับรถออกไปจากซอยที่เกิดเหตุ เลี้ยวซ้ายเข้าซอยสุทธิพงษ์ 1 ก่อนจะไปเลี้ยวซ้ายอีกทีที่ซอยสุทธิพงษ์ 1/7 เพื่อออกไปบยังถนนรัชดา บริเวณร้านบุญถาวร ภาพจากกล้องนี้จะอยู่บริเวณถนนรัชดา สามารถจับภาพคนร้ายที่ขี่รถจักรยานยนต์สีดำ สวมแจ็กเก็ตสีเขียว

พ่อเจ้าสาวเผยเจ้าบ่าวเชิญเพื่อนมาสังสรรค์
ด้านพ่อฝั่งเจ้าสาว เผยกับทีมข่าวว่าในวันเสาร์ (13 ส.ค.) ก่อนงานแต่ง ทางฝั่งเจ้าบ่าวมีการชวนกลุ่มเพื่อนมากินสังสรรค์ทั้งรุ่นพี่-รุ่นน้อง และศิษย์เก่าของมหาวิทยาลัย มากันประมาณ 50 คน นั่งดื่มกินกันตามปกติ กระทั่งวันจัดงานแต่ง (14 ส.ค.) เจ้าบ่าวชวนเพื่อนมาอีกประมาณ 50 คน รวมเป็นประมาณ 100 คน นั่งกินกันอยู่ที่ห้องเก็บของฝั่งตรงข้ามออฟฟิศของตนตั้งแต่เช้า จนเกิดเหตุยิงกระหน่ำขึ้น

เชื่อว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้ปมเหตุไม่ได้เกิดขึ้นจากทางเจ้าบ่าว เพราะเรียนจบมาแล้ว 2 ปี และเป็นการกราดยิง คาดเกิดจากความขัดแย้งของพวกรุ่นน้องที่มาร่วมงานที่ยังเรียนอยู่ที่สถาบันดังกล่าว อาจเคยไปทะเลาะวิวาทกับต่างสถาบัน จนเป็นเหตุให้คู่อริต่างสถาบันกลับมาล้างแค้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

คุมได้แล้ว! เพลิงไหม้โรงงานผลิตยาง จ.สมุทรสาคร

สมุทรสาคร 7 ก.ค. – คุมได้แล้ว! ไฟไหม้โรงงานผลิตยาง จ.สมุทรสาคร พบต้นเพลิงเกิดขึ้นบริเวณท่อส่งน้ำมัน หวั่นอาคารพังถล่ม หลังโหมไหม้รุนแรง ภาพจากมุมสูงจะเห็นอาคารที่เกิดเหตุมีขนาดใหญ่เนื้อที่ราวๆ 3-4 ไร่ ต.บ้านเกาะ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ของบริษัทประกอบกิจการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ทำจากยาง เจ้าหน้าที่ต้องระดมรถน้ำของ อบต.บ้านเกาะ และพื้นที่ใกล้เคียงกว่า 20 คัน ฉีดน้ำสกัดเพลิงที่โหมลุกไหม้อย่างรุนแรง ควันสีดำพวยพุ่งขึ้นท้องฟ้า มีเสียงระเบิดดังขึ้นเป็นระยะ จุดต้นเพลิงเกิดขึ้นบริเวณท่อส่งน้ำมันที่ใช้ในกระบวนการผลิตภายในโรงงาน เนื่องจากมีเชื้อเพลิงไวไฟ ประกอบกับภายในมีสินค้าประเภทยางที่ผลิตแล้วเป็นจำนวนมาก ทำให้เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็วจนอาคารเริ่มทรุดตัว มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 2 คน เป็นเจ้าหน้าที่ของโรงงาน 1 คน และเจ้าหน้าที่ดับเพลิง 1 คน เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้ แต่ไฟยังดับไม่สนิท เนื่องจากภายในมีทั้งเครื่องจักรที่ใช้ในกระบวนการผลิต วัตถุดิบไวไฟ และสินค้ายางยืดที่ผลิตเสร็จแล้วจำนวนมาก ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี จึงต้องฉีดน้ำหล่อเลี้ยงไปเรื่อยๆ พร้อมกับให้เจ้าหน้าที่ชุดผจญเพลิงนำอุปกรณ์เข้าไปดับไฟด้านใน ทั้งนี้ ต้องเฝ้าระวังความปลอดภัยจากตัวอาคารที่อาจพังถล่มลงมาได้ เนื่องจากถูกไฟลุกไหม้อย่างรุนแรงจนเสียหายเกือบทั้งหมด คนงานเล่าว่าเพลิงลุกที่ท่อส่งน้ำมันที่ส่งไปยังเครื่องจักร ซึ่งใช้ในกระบวนการผลิตสินค้าประเภทยาง แต่ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร […]

หนุ่มวัย 24 สารภาพผลักลูกเลี้ยงหัวฟาดพื้นดับ คุมทำแผนฯ

นนทบุรี 7 ก.ค. – ตำรวจคุมตัวพ่อเลี้ยงโหด ผลักลูกเลี้ยงวัย 2 ขวบ ล้มศีรษะฟาดพื้นเสียชีวิต ทำแผนฯ หลังเค้นสอบกว่า 6 ชั่วโมง จนยอมรับ อ้างโมโหเด็กส่งเสียงดังรบกวน ตำรวจ สภ.บางบัวทอง คุมตัวนายธนวัฒน์ อายุ 24 ปี ทำแผนประกอบคำรับสารภาพทำร้ายร่างกาย “น้องขงเบ้ง” อายุ 2 ขวบ 5 เดือน ลูกเลี้ยง จนเสียชีวิตภายในบ้านพัก ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พร้อมให้การว่า เด็กส่งเสียงดังรบกวนจึงเกิดความโมโหผลักจนล้ม ทำให้บริเวณท้ายทอยกระแทกกับพื้น กระทั่งแน่นิ่งไป เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 18.00-20.00 น. เมื่อวานนี้ (6 ก.ค.) ส่วนบาดแผลรอยจ้ำตามร่างกายและบาดแผลอื่นๆ นายธนวัฒน์ยังไม่รับสารภาพ ต้องรอผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ประกอบอีกครั้ง แม่ของเด็ก อายุ 25 ปี เล่าว่า ตนออกไปทำงานทุกวัน เวลา 4 โมงเย็น […]

“บิ๊กเต่า” เผย “สีกา ก.” ให้ข้อมูลเป็นประโยชน์ เลือกเหยื่อรวย-เข้าถึงง่าย

7 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เรียกประชุมแบ่งภารกิจให้กองใต้สังกัด สืบสวนสอบสวนหาข้อมูลเพิ่ม เผยคืบหน้ากรณี “ทิดอาชว์” และนางสาว ก. เจ้าตัวยอมรับเลือกแต่คนรวย-เข้าถึงง่าย อ้างสำนึกผิด ยอมร่วมมือกับตำรวจ พร้อมจี้สำนักพุทธฯ ทำงานให้มากกว่านี้ เพื่อเรียกศรัทธาวงการสงฆ์กลับมา ความคืบหน้าในประเด็น อดีตพระเทพวชิรปาโมกข์ หรือ ทิดอาชว์ เจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ เจ้าคณะภาค 14-15 สายธรรมยุต มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับนางสาว ก. จนถูกแบล็กเมล์รีดไถ่เงิน 7.3 ล้านบาท ล่าสุดวันนี้ เวลา 14.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. และ พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. ได้เรียกคณะทำงานเข้าประชุมวางแผนการทำงานในกรณีของทิดอาชว์และนางสาว ก. ซึ่งใช้เวลาประมาณกว่า 3 ชั่วโมง โดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ได้ออกมาเผยความคืบหน้าว่า วันนี้เป็นการเรียกประชุมกองงานต่าง ๆ เพื่อแบ่งสายงานมอบหมายภารกิจให้แต่ละกองไปสืบสวนสอบสวนหาข้อมูลมาเพิ่มเติม ภายหลังจากที่ทำการสอบสวนนางสาว ก. และได้ข้อมูลมามากพอสมควร […]

Cambodia strongly rejects Thailand’s baseless claim over Ta Krabei Temple

กัมพูชาโต้ไทยอ้างปราสาทตาควายอยู่ในไทย

พนมเปญ 7 ก.ค.- กัมพูชาคัดค้านอย่างหนักว่า ไทยอ้างโดยไร้มูลว่า ปราสาทตาควายอยู่ในดินแดนไทย และตำหนิไทยว่าห้ามชาวกัมพูชาคล้องผ้าขาวม้าขึ้นปราสาทตาควาย เว็บไซตขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานว่า กระทรวงกลาโหมแห่งชาติของกัมพูชาได้ออกแถลงการณ์แสดงความคัดค้านอย่างหนักต่อการกล่าวอ้างอย่างไร้มูลและโอหังของสื่อไทย เจ้าหน้าที่ทหารไทย และพลเรือนชาวไทยบางกลุ่มที่ว่า ปราสาทตาควายตั้งอยู่ในดินแดนอธิปไตยของไทย แถลงการณ์ของกัมพูชาระบุว่า การกล่างอ้างดังกล่าวเป็นการบิดเบือนความจริงอย่างสิ้นเชิง เพราะไทยอ้างแผนที่ฝ่ายเดียวที่ไม่มีคุณค่าทางกฎหมายตามหลักการกฎหมายสากล กัมพูชายืนยันว่า ในทางภูมิศาสตร์แล้วปราสาทตาควายตั้งอยู่ในเทือกเขาดงรัก อำเภอบันเตียอัมปึล จังหวัดอุดรเมียนเจยหรืออุดรมีชัย ซึ่งทั้งหมดอยู่ในดินแดนและอธิปไตยของกัมพูชา โดยเป็นไปตามกฎหมายที่ได้รับการรับรองจากสากล แถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมกัมพูชายังระบุว่า ทหารไทยห้ามนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาคล้องผ้ากรอมาหรือผ้าขาวม้าติดธงชาติกัมพูชาขึ้นปราสาทตาควาย แต่กลับอนุญาตให้นักท่องเที่ยวชาวไทยสวมเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับติดธงชาติไทย ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงทวิภาคีที่เคยตกลงกันไว้.-814.-สำนักข่าวไทย