กรุงเทพฯ 26 มิ.ย. – เหตุไฟไหม้อาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ย่านสำเพ็ง พบผู้เสียชีวิต 2 ราย ถูกไฟคลอก และถูกพลาสติกหลอมละลายห่อหุ้มร่าง จนไม่สามารถระบุอัตลักษณ์บุคคลได้ มีผู้บาดเจ็บ 11 ราย ตึกวอด 4 คูหา รถยนต์-รถจักรยานยนต์ถูกไฟไหม้เสียหายเกือบ 10 คัน คาดสาเหตุจากหม้อแปลงไฟฟ้าระเบิด
คลิปวิดีโอหม้อแปลงไฟฟ้าที่มีควันปริศนาพวยพุ่งออกมา มีผู้บันทึกไว้ได้ ก่อนที่อีกไม่กี่นาทีต่อมาจะมีเสียงระเบิดดังขึ้น และมีไฟลุกไหม้ลามไปยังอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ที่อยู่ติดกับหม้อแปลงไฟฟ้าดังกล่าว และเพลิงยังลามไหม้รถเก๋งที่จอดอยู่ริมถนนหลายคัน เพลิงที่โหมกระหน่ำ ควันไฟหนา และเสียงระเบิดที่ดังขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ผู้ถ่ายคลิปนี้ ซึ่งใช้ชื่อเฟซบุ๊ก Oaky Ekarat Soyin ต้องวิ่งหนีออกห่างจากจุดเกิดเหตุ เพื่อเอาชีวิตรอด เช่นเดียวกับพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนที่ไปจับจ่ายซื้อสินค้าในตลาดสำเพ็ง ต่างขนข้าวของวิ่งหนีตายอลหม่าน แต่ขณะเดียวกันก็พบว่ามีบางคนยืนดูเหตุการณ์ในระยะใกล้ โดยไม่วิ่งหนี
เพลิงโหมไหม้รุนแรงและลามไปยังอาคารพาณิชย์ที่อยู่ติดกันอีกหลายหลัง ระหว่างนั้นยังมีเสียงระเบิดขึ้นหลายรอบ เจ้าหน้าที่ระดมรถดับเพลิงพื้นที่ใกล้เคียงมาฉีดน้ำดับไฟ พร้อมสกัดไม่ให้ลุกลาม
ผ่านไปเกือบชั่วโมง เพลิงเริ่มสงบลง แต่ภายในอาคารยังมีไฟปะทุ มีเสียงระเบิดเป็นระยะ และมีเสียงวัตถุแตกร้าว คล้ายโครงสร้างอาคารถูกบีบอัด และภายในอาคารบางคูหามีกล่องลังกระดาษ พลาสติก และสิ่งของที่ติดไฟง่าย จึงทำให้เพลิงยังลุกไหม้ต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องถอยออกมาฉีดน้ำสกัด การดับเพลิงเป็นไปด้วยความยากลำบาก และเจ้าหน้าที่ต้องระมัดระวัง หวั่นอาคารทรุดตัว เพราะเป็นอาคารเก่าแก่อายุหลายสิบปี เจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง จึงคุมเพลิงไว้ได้
หลังเพลิงสงบ พบอาคารพาณิชย์เสียหาย 4 คูหา รถยนต์เสียหาย 3 คัน รถจักรยานยนต์ 4 คัน และพบผู้บาดเจ็บ 11 คน เป็นชายทั้งหมด มีอาการสำลักควันไฟ ถูกแผ่นกระเบื้องบาดร่างกาย เจ้าหน้าที่นำส่งโรงพยาบาลหัวเฉียว และโรงพยาบาลกลาง และมีผู้เสียชีวิตติดอยู่ภายในอาคาร 2 ราย เป็นหญิง 1 ราย เสียชีวิตอยู่ที่บริเวณชั้น 2 ส่วนอีกรายเป็นชาย เสียชีวิตอยู่ที่บริเวณชั้น 1
ต่อมาเมื่อเวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่กู้ภัยสามารถนำร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย ซึ่งติดอยู่ภายในอาคาร ออกมาได้แล้ว โดยรายแรกพบอยู่ที่ชั้นล่าง ด้านหลังตัวอาคาร ส่วนรายที่ 2 ติดอยู่ตรงทางขึ้นบันไดระหว่างชั้นที่ 2 กับชั้นที่ 3 แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 รายได้ เนื่องจากสภาพศพถูกพลาสติกที่มีจำนวนมากหลอมละลายห่อหุ้มร่างเอาไว้ทั้งหมด คล้ายกับการเลี่ยมอัดกรอบพระเครื่อง เจ้าหน้าที่ส่งร่างผู้เสียชีวิตให้แพทย์นิติเวช รพ.จุฬาฯ ชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียด อย่างไรก็ตาม มีการคาดว่า ผู้เสียชีวิต 2 ราย คือ น.ส.จิราพัช อายุ 52 ปี พนักงานแคชเชียร์ และนายเพชร อายุ 34 ปี สัญชาติเมียนมา ลูกจ้างของร้าน ที่สูญหายไม่สามารถติดต่อได้หลังเกิดเหตุ ขณะที่มีรายงานมูลค่าความเสียหายจากเจ้าของร้าน น่าจะไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท
ผู้ว่าฯ กทม. ระบุไฟไหม้สำเพ็งเป็นบทเรียนราคาแพง
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุไฟไหม้ตลาดสำเพ็ง โดยแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิต 2 ราย และผู้ได้รับบาดเจ็บจากการสำลักควัน ซึ่งมีทั้งประชาชนและเจ้าหน้าที่ ย้ำต้องเรียกหน่วยงานภาครัฐและการไฟฟ้าฯ มาหารือถึงแนวทางการป้องกันเหตุเพลิงไหม้ โดยเฉพาะอาคารที่มีความเสี่ยง รวมทั้งผู้ดูแลอาคารต้องให้ความร่วมมือในการตรวจตราอาคาร
เหตุการณ์ไฟไหม้ย่านตลาดสำเพ็ง ซึ่งเป็นแหล่งการค้าสำคัญ ถือเป็นบทเรียนราคาแพง จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ตัวอาคารบางจุดทรุดตัว หลังจากนี้จะเรียกเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าฯ และ กทม. ร่วมหารือป้องกันเกิดเพลิงไหม้ซ้ำ หนึ่งในนั้นคือการจัดระเบียบสายไฟและทางหนีไฟ
ส่วนความเสียหาย เช่น รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ผู้ว่าฯ กทม. ระบุว่า ให้ผู้เสียหายแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ก่อน และต้องให้ผู้เกี่ยวข้องรับผิดชอบในการชดใช้อย่างเป็นธรรม เพราะอาจไม่เข้าเงื่อนไข สำหรับผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง จากสำนักงานเขต. – สำนักข่าวไทย