แม่เด็กออทิสติกเข้าแจ้งความลูกถูกศูนย์รับเลี้ยงทารุณกรรม

กรุงเทพฯ 21 มิ.ย. – “ทนายรณณรงค์” พาแม่เด็กออทิสติก วัย 8 ขวบ เข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับเจ้าของศูนย์รับเลี้ยงกระตุ้นพัฒนาการเด็กใน จ.สมุทรปราการ หลับอ้างพบลูกสาวถูกทารุณกรรมระหว่างฝากเลี้ยงที่ศูนย์ฯ


ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พานางเอ (นามสมมติ) แม่เด็กออทิสติก วัย 8 ขวบ เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ เพื่อดำเนินคดีกับเจ้าของศูนย์รับเลี้ยงกระตุ้นพัฒนาการเด็กในจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็นแพทย์จิตเวชโรงพยาบาลรัฐชื่อดังย่านปทุมวันและครูผู้ดูแลรวม 3 คน หลังอ้างพบว่าลูกสาววัย 8 ขวบ ซึ่งเป็นเด็กออทิสติก ถูกทารุณกรรมระหว่างการฝากเลี้ยงอยู่ที่ศูนย์ฯ ดังกล่าว

โดยแม่เด็ก เล่าว่าเมื่อช่วงเดือนกันยายนปี 63 ได้นำลูกสาวไปฝากเลี้ยงและกระตุ้นพัฒนาการที่ศูนย์ดังกล่าว ซึ่งช่วงแรกไม่พบความผิดปกติ จนกระทั่งช่วงต้นเดือน ม.ค.64 ที่มีการห้ามเข้าเยี่ยมเนื่องจากสถานการณ์โควิด โดยจะเข้าเยี่ยมได้ต้องมีการฉีดวัคซีน 2 เข็ม ทำให้ตนเองไม่สามารถเข้าเยี่ยมลูกได้ จนกระทั่งวันที่ 27 เม.ย. ได้ไปรับลูกเพื่อที่จะกลับต่างจังหวัด โดยครูที่ศูนย์ดังกล่าวแจ้งว่าลูกของตนมีแผลที่ข้อเท้าเนื่องจากการแพ้ถุงทรายถ่วงน้ำหนัก ที่ลูกสาวต้องใส่เนื่องจากเป็นเด็กเดินเขย่ง แต่เมื่อถึงบ้านที่ต่างจังหวัดตนได้ตรวจสอบแผลอย่างละเอียดอีกครั้งจนพบว่า ลูกของตนนั้นมีแผลที่ข้อเท้าข้างเดียว ทั้งที่ใส่ถุงทรายถ่วงน้ำหนักสองข้าง และเมื่อพาไปอาบน้ำก็พบว่าลูกยังมีแผลตามร่างกายอีกหลายจุด รวมถึงที่ก้นและบริเวณอวัยวะเพศ ลักษณะเป็นแผลติดเชื้อ เมื่อสอบถามไปทางครูผู้ดูแล ก็อ้างว่าไม่เคยเห็นและไม่เคยเปิดดูบริเวณก้นเด็ก ซึ่งคาดว่าอาจเป็นการแพ้ผ้าอ้อม แต่ส่วนตัวมองว่าลูกของตนดูแลตนเองไม่ได้ ดังนั้นผู้ดูแลควรที่จะเห็น หากไม่เห็นก็แสดงว่าไม่ได้ดูแลความสะอาดให้ลูกของตนเลย ซึ่งเมื่อพาลูกไปหาหมอ หมอก็สันนิษฐานว่าอาจจะเกิดจากความไม่สะอาดของผ้าอ้อม


หลังจากเกิดเหตุ ลูกของตนมีความหวาดกลัวหวาดระแวง ไม่พูดไม่ส่งเสียง มีอาการหวาดกลัวและซึม น้ำหนักลดลง ซึ่งครูอ้างว่าลูกไม่กินข้าวทั้งที่เป็นเด็กกินเก่ง เมื่อตัวเองตัดสินใจแจ้งความดำเนินคดี ทางเจ้าของก็มีการติดต่อมาขอไกล่เกลี่ย และชดใช้ค่าเสียหายให้ตามที่แม่เรียกร้อง พร้อมยอมรับว่ามีการผูกล่ามข้อเท้าลูกของตนจริง ๆ เนื่องจากลูกนั้นอยู่ไม่นิ่งและครูต้องดูแลเด็กคนอื่น แต่ตนเองไม่ยอมรับเงื่อนไขและยืนยันจะดำเนินคดีเพราะรู้สึกเสียใจกับการกระทำดังกล่าวของผู้ดูแล อีกทั้งค่าใช้จ่ายที่ต้องชำระให้กับทางศูนย์ตกเดือนละกว่า 20,000 บาท ยังไม่รวมค่าผ้าอ้อมและยา หากรวมทั้งหมดน่าจะมากกว่า 300,000 บาท แต่ลูกกลับถูกทารุณกรรมเช่นนี้

ทนายรณณรงค์ เปิดเผยว่าเบื้องต้นจะให้ตำรวจดำเนินคดีข้อหาทำร้ายร่างกายโดยการทารุณกรรม และแสวงหากำไรจากเด็ก ซึ่งหลังแม่เด็กแจ้งความกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ตรวจสอบศูนย์ดังกล่าว จนศูนย์สั่งปิดชั่วคราว แต่หลังจากนั้นตำรวจก็ไม่สามารถสอบปากคำผู้ปกครองของเด็กที่เหลือในศูนย์อีก 10 คนได้ เพราะผู้ปกครองของเด็กคนอื่น ๆ ไม่ติดใจเอาความ ส่วนตัวเชื่อว่าน่าจะมีเด็กถูกทารุณหลายคนแต่ทางศูนย์ฯ พยายามจ่ายเงินเพื่อปิดปาก. -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

“ทวี” แจง “ดีเจแมน-ใบเตย” ได้เยียวยา แต่ต้องรอคดีถึงที่สุด

“ทวี” แจง “ดีเจแมน-ใบเตย” ได้รับค่าเยียวยา หลังศาลชั้นต้นยกฟ้อง แต่ต้องรอให้คดีถึงที่สุด บอกหากไม่ได้รับความยุติธรรม ฟ้องรัฐได้

ถนนมิตรภาพเข้าสู่ประตูอีสานรถเพิ่มขึ้น

เริ่มแล้วเทศกาลปีใหม่ ประชาชนออกเดินทางกลับภูมิลำเนาการจราจรถนนมิตรภาพ ปริมาณรถมาก ตำรวจทางหลวง เตรียมพร้อมอำนวยความสะดวก

หมอชิต 2 เริ่มคึกคัก คาดวันนี้จะมีผู้โดยสารหนาแน่นที่สุด

สถานีขนส่งหมอชิต 2 มีประชาชนบางส่วนทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนาแล้ว แต่ยังไม่หนาแน่นนัก ด้าน บขส. คาดตลอดทั้งวันนี้จะมีผู้โดยสารหนาแน่นที่สุดถึง 120,000 คน

นายกฯ มอบคำขวัญวันเด็กประจำปี 2568

“แพทองธาร” นายกฯ มอบคำขวัญวันเด็ก ประจำปี 2568 “ทุกโอกาส คือ การเรียนรู้ พร้อมปรับตัวสู่อนาคตที่เลือกเอง” ระบุรัฐบาลเห็นคุณค่าในตัวเด็กๆ ทุกคน ขอให้ปรับตัวเรียนรู้ ให้เข้ากับสถานการณ์