พาเด็กชาย 11 ปี ถูกเพื่อนร่วมห้องทำร้าย ขอความเป็นธรรม

กทม. 25 ส.ค. – “ทนายรณณรงค์” พาเด็กชายวัย 11 ปี ถูกเพื่อนร่วมห้องทำร้ายร่างกายจนขาหักในโรงเรียน ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรม หลังผ่านมา 3 เดือน คดีไม่คืบหน้า ไร้การเยียวยาจากคู่กรณี


ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม นำน้องพอร์ช เด็กชายวัย 11 ปี ที่ถูกเพื่อนร่วมห้องทำร้ายร่างกายในโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งแถวรังสิต จ.ปทุมธานี จนขาหักสองท่อน พร้อมบิดา เดินทางมายังกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เข้ายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมกับ พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 เนื่องจากผ่านมาแล้วกว่า 3 เดือน คดีไม่มีความคืบหน้า ทางโรงเรียนปัดความรับผิดชอบและไร้การเยียวยาจากคู่กรณี เลยมาร้องขอให้ช่วยเร่งรัดทางคดีเพื่อความเป็นธรรมแก่ลูกชาย

โดยบิดาน้องพอร์ช กล่าวว่า ลูกชายตนถูกเพื่อนคู่กรณีเอาผ้าขนหนูมาตีที่หลัง 3-4 ครั้ง น้องพอร์ชจึงตีคืนกันไปมา หลังจากนั้นน้องพอร์ชจึงหยุดและเดินมานั่งที่เดิม ปรากฏว่าหลังจากนั้นไม่นาน น้องพอร์ช กลับถูกเด็กคู่กรณีซึ่งมีน้ำหนักเยอะกว่าจับทุ่มจากด้านหลังแล้วนั่งทับ ก่อนที่เพื่อนในห้องวิ่งไปแจ้งคุณครูแล้วนำตัวน้องพอร์ชส่งโรงพยาบาล 


หลังเกิดเหตุ ตนได้ติดต่อฝั่งผู้ปกครองของเด็กคู่กรณี แต่ก็ไร้การตอบสนองกลับมา ติดต่อไปยังผู้บริหารโรงเรียนก็ไม่ให้คุย บอกว่าต้องทำเรื่องขอคุย ถ้าเรื่องไม่สมเหตุสมผล ทางผู้บริหารจะไม่คุยด้วย  ตนได้ไลน์ไปยังคุณครูที่ติดต่อกันประจำ แต่คุณครูไม่เคยบอกว่า จะให่น้องพอร์ชจะเรียนให้ทันเพื่อนยังไง บอกเพียงให้หายดีแล้วค่อยมาสอบถามอีกที จึงทำให้เหมือนกับว่าน้องพอร์ชถูกทิ้ง ส่วนเด็กคู่กรณีก็ไปเรียนตามปกติ ไม่มีคำขอโทษหรือแสดงความรับผิดชอบใด ๆ เลย

สำหรับอาการของน้องพอร์ชเอง กระดูกขาซ้ายหัก ต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลถึง 13 วัน 12 คืน แล้วต้องหยุดเรียนมาพักรักษาตัวทำกายภาพบำบัดที่บ้าน ผ่านมาแล้วกว่า 3 เดือนแล้วยังไม่ได้กลับไปเรียน ทุกวันนี้เดินยังลงน้ำหนักไม่ได้ปกติ ต้องใช้ Walker ในการช่วยเดิน และตนต้องทำงานหาเช้ากินค่ำ จึงต้องจ้างพยาบาลมาดูแลที่บ้าน เสียค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก ตนก็ไม่นึกไม่ฝันว่าลูกตัวเองจะต้องมาเจอเหตุการณ์อะไรแบบนี้

ที่สำคัญ ตนได้แจ้งความกับตำรวจ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ซึ่งทางตำรวจได้ออกหมายเรียกผู้ปกครองเด็กคู่กรณีและโรงเรียนให้เข้ามาให้ปากคำ พร้อมนำภาพวงจรปิดมามอบให้กับทางตำรวจ ซึ่งตำรวจต้องออกหมายเรียกถึง 2-3 ครั้ง แต่กลับถูกผู้ปกครองเด็กคู่กรณีและโรงเรียนเพิกเฉย ไม่ให้ความร่วมมือแต่อย่างใด ล่าสุดตนเพิ่งทราบเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาว่า ทางโรงเรียนได้นำภาพวงจรปิดมามอบให้กับพนักงานสอบสวนแล้ว แต่ฝั่งผู้ปกครองเด็กคู่กรณียังไร้วี่แวว


สิ่งที่ตนต้องการคือ อยากให้ผู้ปกครองของเด็กคู่กรณีและโรงเรียนออกมารับผิดชอบเยียวยาค่าเสียหาย ค่ารักษาพยาบาล และค่าเสียโอกาสที่น้องพอร์ชไม่สามารถไปเรียนได้ ไม่ใช่มาเพิกเฉยและไร้ความรับผิดชอบเช่นนี้ ตนได้โทรศัพท์ติดต่อไปยังผู้ปกครองเด็กคู่กรณีก็ไม่สามารถติดต่อได้ ส่วนฝั่งของโรงเรียนเองก็อ้างว่า ต้องติดต่อผ่านทางผู้บริหารเท่านั้นและหากไม่ใช่เรื่องสำคัญผู้บริหารจะไม่ลงมาคุย โรงเรียนเองก็ไม่เคยให้ความร่วมมือกับตนเลย โดยเฉพาะภาพวงจรปิด ซึ่งตอนแรกโรงเรียนอ้างกับตนว่าสามารถมาขอภาพได้ แต่ภายหลังก็ปฏิเสธที่จะให้ภาพวงจรปิด ส่วนคุณครูประจำชั้นก็ไม่ได้มาเหลียวแลน้องพอร์ลเท่าที่ควร ทั้งที่โรงเรียนเอกชนแห่งนี้ ตนจ่ายค่าเทอมไปถึง 25,000 บาทต่อเทอม ตอนนี้ตนไม่ได้ต้องการคำขอโทษจากเด็กคู่กรณีแล้ว แต่อยากได้ ความรับผิดชอบที่ทำกับลูกของตน

ส่วนประเด็นที่มีรายงานว่า ทางตำรวจไม่ให้ความร่วมมือและหัวเราะใส่คุณพ่อนั้น เป็นการเข้าใจผิดกัน เพราะคุณพ่อเข้าใจว่า หากออกหมายเรียกเกิน 2 ครั้งจะต้องถูกออกหมายจับ เพียงแต่ทางตำรวจแค่อธิบายให้เข้าใจเฉย ๆ ว่า ในคดีเด็กและเยาวชนจะไม่มีการออกหมายจับ หากออกหมายเรียกแล้วไม่มา ก็คงทำอะไรมากไม่ได้ตามกฎหมาย ซึ่งตอนนี้ตนก็ไม่ได้ติดใจในการทำงานของตำรวจแล้ว เพียงแต่อยากให้ทางตำรวจภูธรภาค 1 ช่วยเร่งรัดการดำเนินคดี และนำคู่กรณีกับทางโรงเรียนมาพูดคุยกับตน

ทางด้านน้องพอร์ช ระบุกับสื่อมวลชนว่า ตนไม่ได้รู้สึกโกรธเด็กคู่กรณีแล้ว สิ่งที่ตนต้องการคือ อยากกลับไปเรียน คิดถึงเพื่อน คิดถึงโรงเรียน และอยากให้ฝั่งคู่กรณีมารับผิดชอบกับตน ยืนยันว่าตนไม่เคยมีปัญหาทะเลาะวิวาทกับเด็กคู่กรณีมาก่อนและคบเป็นเพื่อนกันมาโดยตลอด นี่เป็นครั้งแรกที่เขาทำกับตน ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่าอยากฝากอะไรถึงเด็กคู่กรณีไหม  น้องพอร์ชบอกว่าไม่มีอะไรจะพูด

ด้านทนายรณณรงค์ กล่าวว่า ตามข้อกฎหมายการทำร้ายร่างกายหรือการรับโทษทางอาญา หากอายุไม่ถึง 12 ปี ไม่ต้องรับโทษทางอาญา แต่จะมีวิธีดำเนินคดีของเด็กและเยาวชน ซึ่งเรื่องนี้ต้องให้ความเป็นธรรมกับทางตำรวจ เพราะทางตำรวจได้ทำตามหน้าที่แล้ว โดยปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย เนื่องจากล่าสุด ทางพนักงานสอบสวนก็ได้ภาพวงจรปิดมาแล้ว

แต่ในทางคดีแพ่ง ผู้ปกครองของเด็กคู่กรณีและโรงเรียนต้องรับผิดชอบ เนื่องจากเป็นการกระทำของเด็กที่อยู่ในความดูแลของผู้ปกครองและสถานที่เกิดเหตุเป็นที่โรงเรียน ซึ่งในเวลานั้นต้องมีคุณครูเข้ามาดูแลความเรียบร้อย แต่เท่าที่ทราบพบว่าในห้องขณะเกิดเหตุ ไม่มีคุณครูอยู่ดูแล ดังนั้น โรงเรียนและผู้ปกครองเด็กคู่กรณีจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้  ซึ่งตอนนี้ทางตำรวจภูธรภาค 1 ได้ประสานกับทางกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อเรียกโรงเรียนและผู้ปกครองเด็กคู่กรณี มาร่วมพูดคุยเพื่อตกลงเจรจาไกล่เกลี่ยค่าสินไหมทดแทนในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ คาดหวังว่าจะสามารถพูดคุยกันได้ลงตัว แต่หากโรงเรียนและผู้ปกครองเด็กคู่กรณียังนิ่งเฉยอีก ก็เตรียมที่จะฟ้องร้องเรียกค่าสินไหมทางแพ่งในมูลฐานละเมิดต่อไป

ขณะที่ พ.ต.อ.ตระกูล เกียวประเสริฐ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี ซึ่งเป็นตัวแทน ผบช.ภ.1 มารับมอบหนังสือแทน ระบุว่า ในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ จะประสานกับโรงเรียนและผู้ปกครองของเด็กคู่กรณี มาพูดคุยร่วมกับทางตำรวจ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดปทุมธานี และศึกษาธิการจังหวัดปทุมธานี เพื่อเจรจาไกล่เกลี่ยและหาทางเยียวยารับผิดชอบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ส่วนในเรื่องของคดีอาญานั้น จากการตรวจสอบกับผู้กำกับการ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ระบุว่าได้ดำเนินการออกหมายเรียกตามขั้นตอนของกฎหมายวิธีพิจารณาความเด็กแล้ว แต่ไม่ได้รับความร่วมมือจากโรงเรียนและผู้ปกครองเด็กคู่กรณีเท่าที่ควร ยืนยันว่าทางตำรวจให้ทำงานอย่างเต็มที่แล้ว โดยเฉพาะการขอภาพวงจรปิด ซึ่งตอนนี้ทางโรงเรียนก็เพิ่งส่งมอบให้กับทางตำรวจเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามตาม ตำรวจภูธรภาค 1 จะรับเรื่องจากทนายรณณรงค์ ไปดำเนินการเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ผู้เสียหายต่อไป .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” เยี่ยมให้กำลังใจชาวสุรินทร์ ประสานนำผู้อพยพกลับบ้าน

สุรินทร์ 9 ส.ค.-“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจชาวสุรินทร์ ประสานคมนาคม นำผู้อพยพกลับบ้านโดยเร็วที่สุด สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด ดูแลประชาชนเป็นอย่างดี ให้ใช้งบเต็มที่ พร้อมประสานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และการประปาส่วนภูมิภาค ละเว้นค่าไฟ ค่าน้ำ ในช่วงที่เกิดการปะทะ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางลงพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ เพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจประชาชนในพื้นที่ เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยจุดแรกเดินทางไปที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ โดยเมื่อเดินทางถึง นายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ พร้อมด้วย นายชูชัย มุ่งเจริญพร สส.เขต 2 พรรคเพื่อไทย มาให้การต้อนรับ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรามาด้วยความห่วงใย และทราบดีว่าประชาชนทุกคนมีความยากลำบากในสิ่งที่ไม่ใช่ความผิดของเราเลย เป็นเรื่องที่ส่วนอื่นนอกประเทศ โดยเฉพาะเรื่องที่เป็นคู่ขัดแย้งของเราทำขึ้น สร้างขึ้น และทำให้ประชาชนเดือดร้อน ในขั้นต้น พวกเราทุกคนหน่วยหลัง ได้ทำการดูแลแผนพิทักษ์ส่วนหลังทั้งหมด พยายามดูแลทุกส่วนอย่างเต็มที่ […]

รถไฟด่วนพิเศษ ตกรางย่านสถานีกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์

ประจวบคีรีขันธ์ 9 ส.ค.-รถไฟขบวนรถด่วนพิเศษ ตกรางย่านสถานีกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ช่วงเช้ามืดวันนี้ จนท.นำผู้โดยสารที่บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลแล้ว ขบวนรถสายใต้เดินขบวนรถได้ตามปกติ แต่ล่าช้า เฟซบุ๊กทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย รายงานวันนี้ (9 สิงหาคม 2568) เวลา 05.15 น. เกิดเหตุขบวนรถด่วนพิเศษ ขบวนที่ 38/46 (สุไหงโก-ลก – กรุงเทพอภิวัฒน์) คันที่ 10-12 ตกรางย่านสถานีกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ – เจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บ นำตัวส่งโรงพยาบาล– ขนถ่ายผู้โดยสาร คันที่ 10-12 ทางรถยนต์– นำตู้โดยสารที่ไม่ได้ตกราง ทำขบวนต่อถึงสถานีปลายทาง ทั้งนี้ ขบวนรถสายใต้เดินขบวนรถได้ตามปกติ (ล่าช้า) การรถไฟฯ ขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์สายด่วน 1690 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุดังกล่าวมีผู้บาดเจ็บ 9 ราย เป็นพระภิกษุ 1 รูป เด็กหญิง […]

“ภูมิธรรม” บอกตั้ง “บุ๋ม ปนัดดา” สมน้ำสมเนื้อกับ “มาลี”

กทม. 9 ส.ค. – “ภูมิธรรม” บอกตั้ง “บุ๋ม ปนัดดา” เป็นโฆษก ศบ.ทก.จิตอาสา สมน้ำสมเนื้อกับ “มาลี” ชี้กองทัพพร้อมประสานข้อมูลเต็มที่ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีตั้ง น.ส.ปนัดดา วงศ์ผู้ดี เป็นโฆษกจิตอาสา ศูนย์บริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ที่หลายคนตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะมีความไม่เหมาะสมเรื่องของข้อมูล และความน่าเชื่อถือ ว่า น.ส.ปนัดดา เป็นอินฟลูเอนเซอร์ที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก และมีความสนใจในเรื่องบ้านเมือง ซึ่งข้อมูลด้านการทหารอาจจะรู้ไม่เยอะเท่ากับเจ้าหน้าที่ทหาร แต่มีความตั้งใจ อีกทั้งการเข้ามารับตำแหน่งก็เป็นการเสนอจากผู้บัญชาการเหล่าทัพ ซึ่งต้นคิดว่าเรื่องของการได้ข้อมูล เมื่อทางทหารสนับสนุนก็จะสามารถทำงานได้ดี นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า พลโทหญิงมาลี โสเจียตา โฆษกกลาโหมกัมพูชาเป็นผู้หญิง เราไม่อยากให้รู้สึกเหมือนว่าใช้โฆษกทหารที่เป็นผู้ชายไปโต้แย้ง เราอาจจะเสียเปรียบกว่า ซึ่งเห็นว่า น.ส.ปนัดดา มีความเหมาะสมอยู่แล้ว ส่วนเรื่องข้อมูลก็ให้ประสานกับกองทัพอย่างเต็มที่ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ตรงนี้ตนคิดว่าสมน้ำสมเนื้อ เมื่อถามย้ำว่า ข้อมูลที่ น.ส.ปนัดดา จะพูดออกมา เป็นการกลั่นกรองมาจากทางกองทัพใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็ประมาณนั้น […]

ไทยฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักบางแห่ง

กทม. 9 ส.ค.-กรมอุตุฯ รายงาาน 10-15 ส.ค. ไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 30% ของพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ในบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง ในช่วงวันที่ 10 – 15 ส.ค. ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก เนื่องจากจะมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. […]