พาเด็กชาย 11 ปี ถูกเพื่อนร่วมห้องทำร้าย ขอความเป็นธรรม

กทม. 25 ส.ค. – “ทนายรณณรงค์” พาเด็กชายวัย 11 ปี ถูกเพื่อนร่วมห้องทำร้ายร่างกายจนขาหักในโรงเรียน ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรม หลังผ่านมา 3 เดือน คดีไม่คืบหน้า ไร้การเยียวยาจากคู่กรณี


ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม นำน้องพอร์ช เด็กชายวัย 11 ปี ที่ถูกเพื่อนร่วมห้องทำร้ายร่างกายในโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งแถวรังสิต จ.ปทุมธานี จนขาหักสองท่อน พร้อมบิดา เดินทางมายังกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เข้ายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมกับ พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 เนื่องจากผ่านมาแล้วกว่า 3 เดือน คดีไม่มีความคืบหน้า ทางโรงเรียนปัดความรับผิดชอบและไร้การเยียวยาจากคู่กรณี เลยมาร้องขอให้ช่วยเร่งรัดทางคดีเพื่อความเป็นธรรมแก่ลูกชาย

โดยบิดาน้องพอร์ช กล่าวว่า ลูกชายตนถูกเพื่อนคู่กรณีเอาผ้าขนหนูมาตีที่หลัง 3-4 ครั้ง น้องพอร์ชจึงตีคืนกันไปมา หลังจากนั้นน้องพอร์ชจึงหยุดและเดินมานั่งที่เดิม ปรากฏว่าหลังจากนั้นไม่นาน น้องพอร์ช กลับถูกเด็กคู่กรณีซึ่งมีน้ำหนักเยอะกว่าจับทุ่มจากด้านหลังแล้วนั่งทับ ก่อนที่เพื่อนในห้องวิ่งไปแจ้งคุณครูแล้วนำตัวน้องพอร์ชส่งโรงพยาบาล 


หลังเกิดเหตุ ตนได้ติดต่อฝั่งผู้ปกครองของเด็กคู่กรณี แต่ก็ไร้การตอบสนองกลับมา ติดต่อไปยังผู้บริหารโรงเรียนก็ไม่ให้คุย บอกว่าต้องทำเรื่องขอคุย ถ้าเรื่องไม่สมเหตุสมผล ทางผู้บริหารจะไม่คุยด้วย  ตนได้ไลน์ไปยังคุณครูที่ติดต่อกันประจำ แต่คุณครูไม่เคยบอกว่า จะให่น้องพอร์ชจะเรียนให้ทันเพื่อนยังไง บอกเพียงให้หายดีแล้วค่อยมาสอบถามอีกที จึงทำให้เหมือนกับว่าน้องพอร์ชถูกทิ้ง ส่วนเด็กคู่กรณีก็ไปเรียนตามปกติ ไม่มีคำขอโทษหรือแสดงความรับผิดชอบใด ๆ เลย

สำหรับอาการของน้องพอร์ชเอง กระดูกขาซ้ายหัก ต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลถึง 13 วัน 12 คืน แล้วต้องหยุดเรียนมาพักรักษาตัวทำกายภาพบำบัดที่บ้าน ผ่านมาแล้วกว่า 3 เดือนแล้วยังไม่ได้กลับไปเรียน ทุกวันนี้เดินยังลงน้ำหนักไม่ได้ปกติ ต้องใช้ Walker ในการช่วยเดิน และตนต้องทำงานหาเช้ากินค่ำ จึงต้องจ้างพยาบาลมาดูแลที่บ้าน เสียค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก ตนก็ไม่นึกไม่ฝันว่าลูกตัวเองจะต้องมาเจอเหตุการณ์อะไรแบบนี้

ที่สำคัญ ตนได้แจ้งความกับตำรวจ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ซึ่งทางตำรวจได้ออกหมายเรียกผู้ปกครองเด็กคู่กรณีและโรงเรียนให้เข้ามาให้ปากคำ พร้อมนำภาพวงจรปิดมามอบให้กับทางตำรวจ ซึ่งตำรวจต้องออกหมายเรียกถึง 2-3 ครั้ง แต่กลับถูกผู้ปกครองเด็กคู่กรณีและโรงเรียนเพิกเฉย ไม่ให้ความร่วมมือแต่อย่างใด ล่าสุดตนเพิ่งทราบเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาว่า ทางโรงเรียนได้นำภาพวงจรปิดมามอบให้กับพนักงานสอบสวนแล้ว แต่ฝั่งผู้ปกครองเด็กคู่กรณียังไร้วี่แวว


สิ่งที่ตนต้องการคือ อยากให้ผู้ปกครองของเด็กคู่กรณีและโรงเรียนออกมารับผิดชอบเยียวยาค่าเสียหาย ค่ารักษาพยาบาล และค่าเสียโอกาสที่น้องพอร์ชไม่สามารถไปเรียนได้ ไม่ใช่มาเพิกเฉยและไร้ความรับผิดชอบเช่นนี้ ตนได้โทรศัพท์ติดต่อไปยังผู้ปกครองเด็กคู่กรณีก็ไม่สามารถติดต่อได้ ส่วนฝั่งของโรงเรียนเองก็อ้างว่า ต้องติดต่อผ่านทางผู้บริหารเท่านั้นและหากไม่ใช่เรื่องสำคัญผู้บริหารจะไม่ลงมาคุย โรงเรียนเองก็ไม่เคยให้ความร่วมมือกับตนเลย โดยเฉพาะภาพวงจรปิด ซึ่งตอนแรกโรงเรียนอ้างกับตนว่าสามารถมาขอภาพได้ แต่ภายหลังก็ปฏิเสธที่จะให้ภาพวงจรปิด ส่วนคุณครูประจำชั้นก็ไม่ได้มาเหลียวแลน้องพอร์ลเท่าที่ควร ทั้งที่โรงเรียนเอกชนแห่งนี้ ตนจ่ายค่าเทอมไปถึง 25,000 บาทต่อเทอม ตอนนี้ตนไม่ได้ต้องการคำขอโทษจากเด็กคู่กรณีแล้ว แต่อยากได้ ความรับผิดชอบที่ทำกับลูกของตน

ส่วนประเด็นที่มีรายงานว่า ทางตำรวจไม่ให้ความร่วมมือและหัวเราะใส่คุณพ่อนั้น เป็นการเข้าใจผิดกัน เพราะคุณพ่อเข้าใจว่า หากออกหมายเรียกเกิน 2 ครั้งจะต้องถูกออกหมายจับ เพียงแต่ทางตำรวจแค่อธิบายให้เข้าใจเฉย ๆ ว่า ในคดีเด็กและเยาวชนจะไม่มีการออกหมายจับ หากออกหมายเรียกแล้วไม่มา ก็คงทำอะไรมากไม่ได้ตามกฎหมาย ซึ่งตอนนี้ตนก็ไม่ได้ติดใจในการทำงานของตำรวจแล้ว เพียงแต่อยากให้ทางตำรวจภูธรภาค 1 ช่วยเร่งรัดการดำเนินคดี และนำคู่กรณีกับทางโรงเรียนมาพูดคุยกับตน

ทางด้านน้องพอร์ช ระบุกับสื่อมวลชนว่า ตนไม่ได้รู้สึกโกรธเด็กคู่กรณีแล้ว สิ่งที่ตนต้องการคือ อยากกลับไปเรียน คิดถึงเพื่อน คิดถึงโรงเรียน และอยากให้ฝั่งคู่กรณีมารับผิดชอบกับตน ยืนยันว่าตนไม่เคยมีปัญหาทะเลาะวิวาทกับเด็กคู่กรณีมาก่อนและคบเป็นเพื่อนกันมาโดยตลอด นี่เป็นครั้งแรกที่เขาทำกับตน ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่าอยากฝากอะไรถึงเด็กคู่กรณีไหม  น้องพอร์ชบอกว่าไม่มีอะไรจะพูด

ด้านทนายรณณรงค์ กล่าวว่า ตามข้อกฎหมายการทำร้ายร่างกายหรือการรับโทษทางอาญา หากอายุไม่ถึง 12 ปี ไม่ต้องรับโทษทางอาญา แต่จะมีวิธีดำเนินคดีของเด็กและเยาวชน ซึ่งเรื่องนี้ต้องให้ความเป็นธรรมกับทางตำรวจ เพราะทางตำรวจได้ทำตามหน้าที่แล้ว โดยปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย เนื่องจากล่าสุด ทางพนักงานสอบสวนก็ได้ภาพวงจรปิดมาแล้ว

แต่ในทางคดีแพ่ง ผู้ปกครองของเด็กคู่กรณีและโรงเรียนต้องรับผิดชอบ เนื่องจากเป็นการกระทำของเด็กที่อยู่ในความดูแลของผู้ปกครองและสถานที่เกิดเหตุเป็นที่โรงเรียน ซึ่งในเวลานั้นต้องมีคุณครูเข้ามาดูแลความเรียบร้อย แต่เท่าที่ทราบพบว่าในห้องขณะเกิดเหตุ ไม่มีคุณครูอยู่ดูแล ดังนั้น โรงเรียนและผู้ปกครองเด็กคู่กรณีจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้  ซึ่งตอนนี้ทางตำรวจภูธรภาค 1 ได้ประสานกับทางกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อเรียกโรงเรียนและผู้ปกครองเด็กคู่กรณี มาร่วมพูดคุยเพื่อตกลงเจรจาไกล่เกลี่ยค่าสินไหมทดแทนในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ คาดหวังว่าจะสามารถพูดคุยกันได้ลงตัว แต่หากโรงเรียนและผู้ปกครองเด็กคู่กรณียังนิ่งเฉยอีก ก็เตรียมที่จะฟ้องร้องเรียกค่าสินไหมทางแพ่งในมูลฐานละเมิดต่อไป

ขณะที่ พ.ต.อ.ตระกูล เกียวประเสริฐ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี ซึ่งเป็นตัวแทน ผบช.ภ.1 มารับมอบหนังสือแทน ระบุว่า ในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ จะประสานกับโรงเรียนและผู้ปกครองของเด็กคู่กรณี มาพูดคุยร่วมกับทางตำรวจ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดปทุมธานี และศึกษาธิการจังหวัดปทุมธานี เพื่อเจรจาไกล่เกลี่ยและหาทางเยียวยารับผิดชอบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ส่วนในเรื่องของคดีอาญานั้น จากการตรวจสอบกับผู้กำกับการ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ระบุว่าได้ดำเนินการออกหมายเรียกตามขั้นตอนของกฎหมายวิธีพิจารณาความเด็กแล้ว แต่ไม่ได้รับความร่วมมือจากโรงเรียนและผู้ปกครองเด็กคู่กรณีเท่าที่ควร ยืนยันว่าทางตำรวจให้ทำงานอย่างเต็มที่แล้ว โดยเฉพาะการขอภาพวงจรปิด ซึ่งตอนนี้ทางโรงเรียนก็เพิ่งส่งมอบให้กับทางตำรวจเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามตาม ตำรวจภูธรภาค 1 จะรับเรื่องจากทนายรณณรงค์ ไปดำเนินการเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ผู้เสียหายต่อไป .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” นำค้นวัดไร่ขิง 3 จุด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด

นครปฐม 16 พ.ค.-“บิ๊กเต่า” นำกำลังตำรวจกองปราบบุกค้นวัดไร่ขิง 3 จุด หาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เอี่ยวคดียักยอกเงินวัด 300 ล้าน พร้อมนำหมายค้นบ้านประชาชน 1 จุด ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่วัด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด เวลา 07.00 น. พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ป.ป.ช. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ตรวจค้นภายในวัดไร่ขิงพระอารามหลวง มีทั้งหมด 3 จุด และบริเวณโดยรอบอีก 1 จุด ซึ่งจุดแรกในวัดไร่ขิงคือกุฏิของพระธรรมวชิรานุวัตร หรือเจ้าคุณแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงและเจ้าคณะภาค 14 โดยมีผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงเป็นผู้ที่นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในกุฎิ พร้อมสังเกตการณ์ ทันทีที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการถึงบริเวณหน้ากุฎิเจ้าอาวาส ได้ให้ตำรวจอ่านหมายค้น เพื่อเข้าตรวจสอบและยึดสิ่งของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการกระทำความผิด ทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้ประกอบหลักฐานการสอบสวนไต่สวนมูลฟ้องในการพิจารณาความผิด ขณะที่พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากการอ่านหมายค้น ว่า วันนี้เป็นการตรวจค้นเกี่ยวกับเส้นเงินที่ไหลไปตามบัญชีต่างๆ มีใครเกี่ยวข้องบ้าง ต้องมีการเรียกสอบรายบุคคลพร้อมกับการตรวจค้น โดยหลักๆ ส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเส้นเงินที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ โดยมุ่งเน้นไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ […]

2 ผู้ต้องหามอบตัว คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์ม

ตรัง 16 พ.ค. – หัวหน้าแก๊ง พร้อมลูกน้องอีก 1 คน ก่อเหตุเผานั่งยาง 3 ศพในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ติดต่อขอมอบตัว หวั่นถูกวิสามัญ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังไล่ล่า เช้านี้ ตำรวจ สภ.โคกนา เจ้าของพื้นที่คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ได้รับการประสานจากอดีตสมาชิกสภาจังหวัด ในพื้นที่อำเภอสิเกาว่า จะนำตัว 2 ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว คือ นายศุภกรณ์ หรือบิน อายุ 37 ปี ชาวตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง และนายจรณชัย หรือแต้ม อายุ 32 ปี ชาวหมู่ 7 ตำบลน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองคน กังวลเรื่องความปลอดภัย หากหลบหนีต่อไป เกรงถูกวิสามัญฆาตกรรม หลังเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ระดมปิดล้อมบ้านเขาหลัก […]

ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากทุกตำแหน่ง

15 พ.ค.- เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากหน้าที่ทุกตำแหน่ง เหตุถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามในหนังสือ คำสั่งถอดถอนพระสังมาธิการ พระธรรมวชิรานุวัตร พักจากตำแหน่งหน้าที่ทุกตำแหน่ง ทั้งเจ้าคณะภาค 14 และ เจ้าอาวาสวัดไร่ชิงพระอารามหลวง หลังจากทราบเรื่องว่าถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา จึงได้อาศัยอำนาจตามความในข้อ 56 แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ. 2553) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังมาธิการ ออกตามความในพระราชบัญญัติคุณะสูงณ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเดิมโดยพระราชบัญญัติคณะสงน์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 ให้เหตุผลว่า ถ้าจะให้คงอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ในระหว่างการสอบสวนจะเป็นการเสียหายแก่การคณะสงฆ์ .-สำนักข่าวไทย

เจ้าอาวาสวัดไร่ขิงยอมสึก คำให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี

15 พ.ค.- เจ้าอาวาสวัดไร่ขิงยอมลาสิกขาด้วยตัวเอง หลังถูกเค้นสอบนานกว่า 8 ชม. เบื้องต้นยอมให้การแล้ว คำให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ช่วงหนึ่งของการสอบปากคำ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้อุ้มพระพุทธรูป ปางสมาธิองค์สีดำ ถือเข้าไปไปยังห้องสอบสวนที่สอบปากคำพระธรรมวชิรานุวัตร (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง จังหวัดนครปฐม เจ้าคณะภาค 14 สังเกตพบว่ามีการนำพระพุทธรูปวางไว้บนโต๊ะบริเวณด้านหน้าของ พระธรรมวชิรานุวัตร โดยมีรายงานจากเจ้าหน้าที่ว่า พระธรรมวชิรานุวัตร ยอมทำพิธีลาสิกขาบทด้วยตัวเอง แต่ยังไม่เริ่มพิธีเนื่องจากรอชุดเสื้อผ้าเปลี่ยนหลังทำพิธีลาสิกขาบทแล้วเสร็จ ส่วนการสอบปากคำ เบื้องต้นทางพระธรรมวชิรานุวัตร ยอมให้การกับพนักงานสอบสวนแล้ว และให้การไปในทิศทางที่ดี ซึ่งปรากฏว่าทางพระธรรมวชิรานุวัตร ได้โอนเงินไปให้กับผู้ต้องหาที่ 2 เป็นจำนวนเงินหลักร้อยล้านบาท ในช่วงปี 2564 ซึ่งข้อมูลนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบปากคำหาข้อเท็จจริง ว่ามีการทำธุรกรรมด้วยสาเหตุใด แต่พบบางส่วนเข้าไปพัวพันกับเว็บการพนัน .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ศาลไม่ให้ประกันผู้ต้องหาคดีตึก สตง.ถล่ม ส่งคุมขังเรือนจำ

16 พ.ค.- ศาลไม่ให้ประกัน “เปรมชัย” และผู้ต้องหาคดีตึก สตง.ถล่ม คุมตัวทั้งหมดเข้าเรือนจำ ชี้คดีมีความเสียหายใหญ่หลวง น่าสะพรึงกลัว กระทบสังคม ญาติและทนายความของผู้ต้องหาทั้งหมดได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ ขอปล่อยชั่วคราวระหว่างฝากขัง ศาลได้ไต่สวนพนักงานสอบสวน ผู้ร้อง และผู้ต้องหา แล้วมีคำสั่งเมื่อเวลา 20.00 น. ว่า พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ผู้ต้องหาถูกกล่าวหาเกี่ยวข้องกับคดีนี้จนเกิดความเสียหายใหญ่หลวงน่าสะพรึงกลัว กระทบต่อสังคมอย่างยิ่ง ทั้งพนักงานสอบสวนและผู้เสียหายคัดค้านการปล่อยชั่วคราว เกรงจะหลบหนียากแก่การติดตามตัว ทั้งคดีต้องสอบสวนพยานอีก 15 ปาก กรณีมีเหตุผลอันสมควรจะรอผลการสอบสวนให้เสร็จสิ้นก่อนแล้วค่อยพิจารณามีคำสั่งโดยละเอียดรอบคอบต่อไป ในชั้นนี้จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหา ยกคำร้อง ต่อมาเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพต่อไป.-สำนักข่าวไทย

จับครบทีม 4 คนร้ายฆ่าเผานั่งยาง 3 ศพ-ฆ่าฝังดิน 1 ศพ

ตรัง 16 พ.ค. – ปิดคดีฆ่าเผานั่งยาง 3 ศพ และฆ่าฝังดิน 1 ศพ ในสวนปาล์ม จ.ตรัง ตำรวจจับครบแล้ว 4 คน โดย 2 คนสุดท้ายเพิ่งนำตัวลงมาจากเขา คนร้ายที่ก่อเหตุเผานั่งยาง 3 ศพ และฆ่าฝังดิน 1 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน ต.กะลาเส อ.สิเกา จ.ตรัง ทนแรงกดดันจากเจ้าหน้าที่ไม่ไหว ล่าสุดยอมให้เจ้าหน้าที่ควบคุมตัว เพราะกลัวจะถูกวิสามัญ โดย 2 คนแรกคือ นายศุภกรณ์ หรือ บิน หัวหน้าแก๊ง กับนายจรณชัย หรือ แต้ม ตำรวจควบคุมตัวได้ช่วงเช้ามืดวันนี้ ส่วนอีก 2 คนคือ นายปิยศักดิ์ หรือ แจ็ค และนายรพีพันธ์ หรือ เทือก ตำรวจเข้าควบคุมตัวได้ช่วงเย็นที่ผ่านมา ขณะที่หนีไปกบดานอยู่ในป่าบ้านถ้ำน้ำผุด อ.เมืองตรัง ซึ่งคือบ้านเกิดของนายแจ็ค […]

เปิดสัมพันธ์ลับ “ทิดแย้ม-สีกา”

16 พ.ค. – เปิดความสัมพันธ์ลับระหว่าง “ทิดแย้ม-สีกา” เริ่มตั้งแต่สีกายังเรียนหนังสือในโรงเรียนวัดไร่ขิง อดีตเจ้าอาวาสให้ความเมตตา จึงเอ่ยปากยืมเงิน 40 ล้านบาท เพื่อนำมาลงทุนตั้งแต่ปี 2564 ความสัมพันธ์ระหว่างนายแย้ม อินทร์กรุงเก่า หรืออดีตพระธรรมวชิรานุวัตร อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง และเจ้าคณะภาค 14 หรือ ทิดแย้ม กับสีกา คือ น.ส.อรัญญาวรรณ ซึ่งได้ข้อมูลจากการสอบปากคำทั้ง 2 คน ตลอดคืน รวมถึงหลักฐานสำคัญในโทรศัพม์มือถือของทั้ง 2 คน ทำให้พบว่าความสัมพันธ์นี้ถึงขั้นลึกซึ้ง น.ส.อรัญญาวรรณ รับสารภาพว่ารู้จักกับทิดแย้มมานานแล้ว ตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ที่โรงเรียนวัดไร่ขิง โดยอดีตเจ้าอาวาสขณะนั้นให้ความเมตตา จึงลองเอ่ยปากขอยืมเงิน 40 ล้านบาท เพื่อนำมาลงทุนตั้งแต่ปี 2564 สอดคล้องกับที่ทิดแย้มให้การว่าได้โอนเงินไปให้กับ น.ส.อรัญญาวรรณ เป็นจำนวนเงินหลักร้อยล้านบาท ช่วงปี 2564 นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบหลักฐานสำคัญคือ คลิปการสนทนาระหว่างทิดแย้ม และ น.ส.อรัญญาวรรณ ที่มีการพูดคุยถึงเรื่องการทวงเงินเพราะครบดีล ถึง 4 ครั้ง ครั้งละ 5 […]

เตรียมฝากขัง “อดีตเจ้าคุณแย้ม” พรุ่งนี้ ค้านประกันตัว

นครปฐม 16 พ.ค. – ตำรวจเตรียมคุมตัว “อดีตเจ้าคุณแย้ม” ขออำนาจศาลฝากขัง พรุ่งนี้ (17 พ.ค.) พร้อมคัดค้านการประกันตัว หลังถูกกล่าวหายักยอกเงินวัดไปเล่นพนันออนไลน์ ปฏิบัติการดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่เวลา 06.30 น. นำโดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. และ ป.ป.ท. นำหมายศาลเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 4 จุด ประกอบด้วย ในวัดไร่ขิง 3 จุด และนอกวัดไร่ขิง 1 จุด เพื่อขยายผลค้นหาพยานหลักฐานในคดีที่พระธรรมวชิรานุวัตร หรืออดีตเจ้าคุณแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง และเจ้าคณะภาค 14 ถูกกล่าวหาว่าทุจริตยักยอกเงินวัดไร่ขิง กว่า 300 ล้านบาท ไปเล่นการพนันออนไลน์ พื้นที่เป้าหมายสำคัญจุดแรกคือ กุฏิของอดีตเจ้าคุณแย้ม โดยเจ้าหน้าที่ได้อ่านหมายค้น มีผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง เป็นผู้รับหมายและนำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น เบื้องต้นมีการยึดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ทั้งคอมพิวเตอร์ มือถือ รวมถึงเอกสารรายรับ-รายจ่าย 10 ลัง เกือบ […]