มอบเงินรางวัล “อาสาตาจราจร” 20 คลิปอุบัติเหตุ-ฝ่าฝืน กม.

กรุงเทพฯ 18 มี.ค.- ตำรวจจับมือวิริยะประกันภัย มูลนิธิเมาไม่ขับ มอบเงินรางวัล “โครงการอาสาตาจราจร” รวม 100,000 บาท ให้เจ้าของคลิปอุบัติเหตุ หรือรถที่ฝ่าฝืนกฎหมาย รอบเดือน ม.ค.- ก.พ.65 หวังช่วยลดอุบัติเหตุ และเอาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ


วันนี้ (18 ม.ค. 65) เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารงานจราจร (ศจร.ตร.), พล.ต.ท.ปรีชา เจริญสหายานนท์ ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น., พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น. พร้อมด้วย นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ, คุณกานดา วัฒนายิ่งสมสุข ที่ปรึกษาฝ่ายการตลาด บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ผู้แทนสถานีวิทยุพิทักษ์สันติราษฎร์ สวพ.91 และ สถานีวิทยุ จส.100 ร่วมแถลงผลการมอบรางวัลและเกียรติบัตร โครงการอาสาตาจราจร ประจำเดือน ม.ค. และ ก.พ.65 ให้แก่เจ้าของคลิปวิดีโอที่ได้รับคัดเลือกจำนวน 20 คลิป

รางวัลที่ 1 รางวัลละ 20,000 บาท
ชื่อคลิป รถโม่ปูนไม่หยุดให้คนข้ามทางม้าลายขณะที่ฝั่งรถยนต์ได้สัญญาณไฟแดง
https://youtu.be/h9LhPwHOS58


รางวัลที่ 2 รางวัลละ 10,000 บาท
ชื่อคลิป รถใหญ่แซงมาแบบนี้ อันตรายต่อรถเล็กมากนะ
https://youtu.be/gyHKdnM5UMk

รางวัลที่ 3 รางวัลละ 6,000 บาท
ชื่อคลิป รถเก๋งขับตัด 4 เลน รถจยย.เบรคไม่ทันชนล้มเลย
https://youtu.be/SMpJo5AQ53E

รางวัลชมเชย จำนวน 7 รางวัล รางวัลละ 2,000 บาท


  1. ชื่อคลิป รถใหญ่เลี้ยวโค้งแบบนี้ รถเล็กหักหลบเกือบตกข้างทางซะแล้ว
    https://youtu.be/LKZvquNjH0I
  2. ชื่อคลิป เก๋งกำลังจะเลี้ยวเข้าซอย จู่ ๆ จยย.แซงมาทางขวาชนเข้าเลย
    https://youtu.be/0M_JU27THDQ
  3. ชื่อคลิป ปิคอัพเสียหลักลื่นหมุนขวางถนน จยย.เบรกไม่ทันชนล้มเลย
    https://youtu.be/rMxZJcNxGqI
  4. ชื่อคลิป รอสัญญาณไฟไม่ได้เลยหรอ ฝ่าไปแบบนี้อันตรายมากนะ
    https://youtu.be/OObP8Twb9xs
  1. ชื่อคลิป ตามหา! จยย.พ่วงข้างชนแล้วหนี
    https://youtu.be/MD8XFCdOh0k
  2. ชื่อคลิป จยย.ลักไก่เลี้ยวกลับรถบริเวณทางข้ามม้าลาย จนเกือบชนคนที่เดินข้าม
    https://youtu.be/Ta2_bDx4J-o
  3. ชื่อคลิป จยย.ขี่มาบนทางเท้าเสียหลักล้มไปชนกับแท็กซี่
    https://youtu.be/EpgZhDJEwgM

โครงการมีวัตถุประสงค์ให้ประชาชนทุกคนร่วมเป็นอาสาตาจราจร สามารถส่งข้อมูลพยานหลักฐานเมื่อเกิดอุบัติเหตุ หรือ การกระทำความผิดบนท้องถนนต่างๆ ผ่านทางกล้องหน้ารถ หรือโทรศัพท์มือถือ โดยสามารถส่งคลิปวิดีโอผ่านช่องทางมูลนิธิเมาไม่ขับ, ศูนย์โซเชียลมีเดีย ศปก.ตร., จส.100 และ สวพ.91 และแต่ละเดือนมูลนิธิเมาไม่ขับจะพิจารณาคัดเลือกคลิปที่เป็นการกระทำผิดกฎจราจรสำคัญหรือคดีอุบัติเหตุจราจร และคลิปนั้นใช้เป็นหลักฐานดำเนินคดีกับผู้ทำกระทำผิดได้ตามกฎหมาย เดือนละ 10 รางวัล รางวัลที่ 1 จำนวน 20,000 บาท, รางวัลที่ 2 จำนวน 10,000 บาท , รางวัลที่ 3 จำนวน 6,000 บาท และรางวัลชมเชย 7 รางวัล รางวัลละ 2,000 บาท รวม 50,000 บาท/เดือน โดยได้รับการสนับสนุนเงินรางวัลจากบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด

สำหรับในเดือน ม.ค. และ ก.พ.65 มีคลิปการกระทำผิดที่สำคัญ โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับการฝ่าฝืนเครื่องหมายทางข้าม (ทางม้าลาย) ดังนี้

​1) คลิปรถเอสยูวี กลับรถตรงสี่แยกคู้บอน ชนคนเดินข้ามถนนตรงทางม้าลายได้รับบาดเจ็บ เมื่อวันที่ 31 ม.ค. 65 พื้นที่ สน.คันนายาว ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ดำเนินคดีกับผู้ขับขี่รถเอสยูวี จำนวน 5 ข้อหา และเปรียบเทียบปรับผู้ขับขี่ รวมเป็นเงิน 4,400 บาท

2) คลิปรถโดยสารและรถบรรทุก ไม่หยุดให้คนข้ามทางม้าลาย ขณะที่ไฟสัญญาณทางข้ามเป็นไฟแดง พื้นที่ สน.พญาไท อยู่ระหว่างดำเนินการเรียกตัวผู้ขับขี่มาดำเนินคดีตามกฎหมาย

3) คลิปรถจักรยานยนต์ไรเดอร์ เลี้ยวกลับรถบริเวณเกาะกลางทางม้าลายคนข้าม จนเกือบชนคนเดินข้ามถนน พื้นที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ อยู่ระหว่างดำเนินการเรียกตัวผู้ขับขี่มาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ทั้งนี้ ตั้งแต่เริ่มโครงการมามีประชาชนส่งคลิปมาจำนวนมาก มีคลิปที่เป็นพยานหลักฐานในทางคดีได้ทั้งหมด 76 คลิป ซึ่งคณะทำงานเสริมสร้างภาพลักษณ์ ศจร.ตร.ส่งข้อมูลและเร่งรัดติดตามผลคดีกับสถานีตำรวจที่เกิดเหตุ จนสามารถติดตามตัวผู้กระทำผิดตามคลิปมาดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว จำนวน 25 คดี

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผอ.ศจร.ตร. เปิดเผยว่า โครงการอาสาตาจราจรเป็นการขับเคลื่อนตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งเมื่อวันที่ 4 มี.ค.65 ที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มูลนิธิเมาไม่ขับ รวมถึงคุณพ่อคุณแม่ของ พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล (หมอกระต่าย) เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพื่อหารือมาตรการสร้างจิตสำนึกในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ซึ่งนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญในการสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในการแจ้งเบาะแสการทำผิดกฎจราจร โดยการใช้กล้องรถยนต์เพื่อคอยบันทึกเหตุการณ์ และใช้เป็นหลักฐานหากเกิดอุบัติเหตุ โดยพิจารณาจัดสรรเงินรางวัลตอบแทน ให้สังคมเป็นเกราะป้องกัน สร้างสังคมที่มีความรับผิดชอบ สร้างความปลอดภัยบนถนนมากยิ่งขึ้น

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวอีกว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะขับเคลื่อนโครงการอาสาตาจราจรอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างภาคีเครือข่ายร่วมกันตรวจตราการทำผิดบนท้องถนน เมื่อประชาชนทุกคนรู้ว่าบนท้องถนนจะมีกล้องของรถ แต่ละคันคอยบันทึกเหตุการณ์ต่างๆ จะสร้างความตระหนักและตื่นตัวในการปฏิบัติตามกฎจราจร ลดการกระทำผิดกฎหมาย อย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน

สำหรับมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุในทางม้าลาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำรวจข้อมูลเส้นทางข้ามทั่วประเทศ ร่วมกับหน่วยงานเจ้าของถนนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อกำหนดแผนการปรับปรุงซ่อมแซม โดยผลการสำรวจมีเส้นทางข้ามภาพรวมทั้งประเทศ มีจำนวน 10,254 จุด (มีสัญญาณไฟจราจร 1,262 จุด มีกล้อง CCTV 1,881 จุด) จะจัดทำเส้นทางข้ามเพิ่มเติม 328 จุด ยกเลิก/ปรับย้าย 25 จุด

กำหนดแผนการปรับปรุงซ่อมแซมเส้นทางข้าม จำนวนทั้งสิ้น 2,853 จุด (จัดทำแล้วเสร็จ 1,523 จุด คงเหลือ 1,330 จุด) แผนติดตั้งสัญญาณไฟจราจรทางข้ามเพิ่มเติมอีก 584 จุด (ติดตั้งแล้วเสร็จ 82 จุด/คงเหลือ 502 จุด), แผนติดตั้งกล้อง CCTV เพิ่มเติมอีก 898 จุด (ติดตั้งแล้วเสร็จ 111 จุด / คงเหลือ 787 จุด) และแผนติดตั้งแถบชะลอความเร็วเพิ่มเติม 974 จุด (ติดตั้งแล้วเสร็จ 170 จุด / คงเหลือ 804 จุด)

บังคับใช้กฎหมายข้อหาที่เกี่ยวกับทางข้าม การฝ่าฝืนเครื่องหมายจราจร “เส้นทางข้าม”, ไม่ข้ามถนนตรงทางข้าม, จอดรถในทางข้าม และขับรถโดยใช้ความเร็วบริเวณเส้นทางข้ามเกินกฎหมายกำหนด ในเดือน ก.พ.65 มีผลการจับกุมทั้ง 4 ข้อหา รวมจำนวน 2,742 ราย และปรับปรุงแก้ไขกฎหมายจราจร โดยการเสนอแก้ไข พระราชบัญญัติจราจรทางบก เพิ่มอัตราโทษของการฝ่าฝืนเครื่องหมายจราจรทุกประเภท เช่น ข้อหาฝ่าฝืนเครื่องหมายทางม้าลาย จากเดิมปรับไม่เกิน 1,000 บาท แก้เป็น ปรับไม่เกิน 4,000 บาท จอดรถในทางม้าลาย จากเดิมปรับไม่เกิน 500 บาท แก้เป็นปรับไม่เกิน 2,000 บาท.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดดัง จ.เลย

มหาสารคาม 6 ส.ค. – มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดในพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย บาดเจ็บ หลังหนีไปกบดานที่บ้านเกิด จ.มหาสารคาม ตำรวจตั้งข้อหาพยายามฆ่า จากกรณี พระอธิการมานพพร อายุ 47 ปี เจ้าอาวาสวัดโพนสว่าง และเจ้าคณะตำบลเขาแก้ว ขับรถยนต์หลบหนีไป หลังใช้ปืนจ่อยิงพระมหาโยธิน เจ้าอาวาสวัดป่าพัฒนาราม และเจ้าคณะตำบลจอมศรี จนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่พระครูถาวรเทวธรรม เจ้าคณะตำบลธาตุ และเจ้าอาวาสวัดสวนธรรมเทวราช เจ้าคณะตำบลธาตุ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย หลบหนีได้ทันจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ เกิดเหตุในวัดพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาศาลจังหวัดเลยอนุมัติหมายจับในข้อหา “พยายามฆ่าผู้อื่น และมีอาวุธปืน กระสุนปืน พกพาโดยไม่มีเหตุอันควร” วันนี้ ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม พระอธิการมานพพร หรือนายมานพพร ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงพระ 2 รูป เข้ามอบตัว เนื่องจากถูกตำรวจกดดันอย่างหนัก เบื้องต้นให้การว่า วันเกิดเหตุมีการปรึกษากัน แต่ไม่ได้ทะเลาะ สาเหตุมาจากตนเองโดนกลั่นแกล้งจากทางพระทั้ง […]

แรงงานกัมพูชาแห่กลับประเทศ รัฐบาลขู่ยึดที่ดิน-ถอดสัญชาติ

6 ส.ค. – รัฐบาลกัมพูชาขู่ยึดที่ดินและถอดสัญชาติแรงงานที่ดื้ออยู่ไทย ส่งผลวันนี้ (6 ส.ค.) ชาวกัมพูชาแห่เดินทางกลับประเทศ ทำจุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี รถติดยาว 8 กิโลเมตร ที่จุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ตั้งแต่ช่วง 06.00 น. รถติดยาวเหยียดร่วม 8 กิโลเมตร ทั้งรถเช่าเหมา รถตู้ และรถรับจ้างที่ขนแรงงานชาวกัมพูชากลับประเทศ ส่วนภายในบริเวณตลาดบ้านแหลม ช่วงเวลา 07.00 น.ที่ผ่านมา ยังพบชาวกัมพูชาร่วมกว่า 20,000 คน ขนสัมภาระ ข้าวของ มารอเต็มหน้าด่าน มากกว่า 2-3 วันที่ผ่านมา ทั้งนี้ เป็นเพราะมีกระแสข่าวรัฐบาลกัมพูชาขู่จะออกมาตรการเอาจริงกับแรงงานกัมพูชาที่ยังดื้อไม่ยอมกลับประเทศก่อนวันที่ 10 สิงหาคมนี้ จะยึดที่ดินทำกินและถอดสัญชาติ คาดว่าจุดนี้จุดเดียวคนจะกลับกัมพูชาเฉียดครึ่งแสนคน แรงงานกัมพูชากลับประเทศ นายจ้างกลัวไปไม่กลับที่ตลาดสดแห่งหนึ่งใน อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พบว่ายังมีแรงงานกัมพูชาก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่ แต่มีสีหน้าเคร่งเครียดจากกระแสข่าวที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน แรงงานเล่าว่าไม่อยากกลับกัมพูชา กลับไปก็ไม่มีงานทำ ทางครอบครัวที่กัมพูชาก็โทรมาห่วงว่าคนไทยจะทำร้าย […]

เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า ตรึงกำลังเข้ม

6 ส.ค.- เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า พร้อมตรึงกำลังเข้ม ป้องกันทหารกัมพูชาตัดรั้วลวดหนาม รอบ 2 เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ตรวจพบกำลังทหารกัมพูชาเข้ามาดำเนินการตัดลวดหีบเพลง ที่ทางฝ่ายไทยได้วางไว้เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย ณ บริเวณพื้นที่ตลาดช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวานนี้ (5 ส.ค.) โดยทางฝ่ายไทยได้ดำเนินการแจ้งให้ยุติการกระทำดังกล่าว พร้อมให้ถอยออกจากพื้นที่ ซึ่งฝ่ายกัมพูชาปฏิบัติตาม และได้ออกจากบริเวณดังกล่าวในทันที ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าดำเนินการกางลวดหีบเพลงให้เข้าสู่สภาพเดิม ปัจจุบันยังคงมีการตรึงกำลังที่ฐานปฏิบัติการในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย-สำนักข่าวไทย

เอาผิด 2 ข้อหา อดีตทหาร BHQ-เรียกภรรยาให้ข้อมูล

บุรีรัมย์ 6 ส.ค. – ผู้การบุรีรัมย์ เค้นสอบอดีตทหารองครักษ์พิทักษ์ฮุนเซน ยืนยันไม่ได้เป็นสายลับ หลังถูกจับพร้อมเครื่องแบบทหาร-อาวุธปืน เบื้องต้นตั้ง 2 ข้อหา พร้อมเรียกภรรยามาให้ข้อมูล จากกรณีตำรวจ สภ.ลำดวน จ.บุรีรัมย์ จับกุมนายวิน ดา ทหารเขมรชุด BHQ องครักษ์พิทักษ์ฮุน เซน ได้ในบ้านพักหลังหนึ่งใน อ.กระสัง ซึ่งเป็นบ้านของภรรยาชาวไทย พร้อมปืนลูกซองไทยประดิษฐ์และเครื่องกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 3 นัด กระสุนปืนขนาด.38 อีก 3 นัด และเครื่องแบบทหารที่มีตราสัญลักษณ์ BHQ หลายรายการ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทหารกัมพูชา หน่วยรบพิเศษ BHQ ซึ่งเป็นองครักษ์พิทักษ์สมเด็จฮุน เซน จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำที่สถานีตำรวจภูธรลำดวน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เพราะคาดว่าน่าจะเป็นสายลับเข้ามาฝังตัว ส่งความเคลื่อนไหวทางการทหารไทยให้ฝ่ายกัมพูชา รับเป็นทหารBHQ จริง แต่ไม่ใช่สายลับพล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ลงพื้นที่สอบปากคำนายวิน ดา ด้วยตัวเอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง […]