“จูน-นาตาชา” ดาราสาว แจ้งความคลินิกดังฉีดฟิลเลอร์แล้วตากระตุก-ปวดหัว

กรุงเทพฯ 28 ก.พ. – น.ส.จูน นาตาชา ดารานักแสดง เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.จักรภัทร กลิ่นอ่อน รอง สว.(สอบสวน) กก.4 บก.ปคบ. แจ้งความเอาผิดคลินิกชื่อดังใช้หมอเถื่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจนตากระตุก และปวดศีรษะ


เหตุเกิดเมื่อ 23 ก.พ.65 ตนได้ไปใช้บริการฉีดฟิลเลอร์ ที่คลินิกชื่อดังแห่งหนึ่งย่านบางนา ซึ่งเพิ่งไปฉีดคลินิกนี้เป็นครั้งแรก ฉีดจำนวน 6 จุด ที่บริเวณใต้ตาซ้ายและขวากับร่องแก้มซ้ายและขวา โดยมี น.ส.ปูเป้ (นามสมมุติ) เป็นผู้ทำการฉีดให้ โดยที่ตนไม่ทราบว่าบุคคลดังกล่าวไม่ได้เป็นหมอมาก่อน

ระหว่างฉีดขณะเข็มยังคงปักคาอยู่เกิดมีอาการกล้ามเนื้อใต้ตาซ้ายกระตุก เมื่อฉีดเสร็จออกจากคลินิกกลับที่พัก พบว่าเกิดความผิดปกติบริเวณร่องแก้มทำให้รูปทรงผิดรูป ต่อมาตนได้พยายามติดต่อกับเจ้าหน้าที่ของคลินิกดังกล่าว แจ้งว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นกับตน แต่ทางพนักงานของคลินิกแจ้งกลับมา ขอให้ตนเข้ามาคุยกันอีกครั้งที่คลินิกดังกล่าว ตนพยายามโทรติดต่อคลินิกแต่ไม่มีคนรับสายและไม่สามารถติดต่อได้ จึงตัดสินใจเดินทางกลับไปยังคลินิกอีกครั้ง


ต่อมาได้ไปพบพนักงานคนที่เป็นผู้ฉีดฟิลเลอร์ให้ กำลังจะขึ้นรถเพื่อขับออกจากคลินิก ตนกับเพื่อนจึงไปขวางรถไว้ ก่อนจะสอบถามพนักงานคนดังกล่าวว่าเป็นหมอหรือมีใบอนุญาตหรือไม่ พนักงานคนดังกล่าวแจ้งว่าเธอไม่ได้เป็นหมอ ตนจึงไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.บางนา ทันที ทางตำรวจส่งตนไปตรวจร่างกายไว้เพื่อประกอบสำนวนแล้ว นอกจากแจ้งความ สน.ท้องที่แล้ว จึงตัดสินใจมาแจ้งความ บก.ป.ในด้วย จะไม่ยอมความเด็ดขาด เนื่องจากเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค ไม่อยากจะให้มีคลินิกที่ใช้หมอปลอมแบบนี้เปิดให้บริการต่อไปอีก

ทางเจ้าของคลินิกได้คุยผ่านพนักงานสอบสวนว่าอยากจะให้จบ ๆ เรื่องนี้ ขอให้เราเสนอไปว่าต้องการค่าชดใช้เท่าไร ตนไม่ได้ต้องการค่าเสียหายจากตรงนี้เลย เราต้องการจะดำเนินการไม่ให้มีหมอเถื่อนแบบนี้อีกเลย ผลจากการฉีดฟิลเลอร์ครั้งนี้ส่งผลกระทบต่องานเนื่องจากวันรุ่งขึ้นจะต้องไปโชว์ตัวที่ผู้ว่าจ้างติดต่อเรามาแล้ว ก็จำเป็นต้องยกเลิกไป ใบส่งตัวไปให้แพทย์ตรวจก็ระบุให้ตนหยุดงาน 1 วัน ก็เป็นความเสียหายที่เกิดขึ้นทันที

อุทธาหรณ์ในเรื่องนี้ก็คือขนาดเลือกคลินิกที่ดีที่สุดแล้ว มีชื่อเสียงแล้ว แต่ก็ยังเกิดเรื่องลักษณะแบบนี้ขึ้น ข่าวในลักษณะนี้ออกมาอยู่เรื่อย แต่ไม่ทราบว่าทำไมคลินิกแห่งนี้ถึงได้มีการนำบุคลากรที่ไม่ใช่หมอมาให้บริการลูกค้าแบบนี้อีก นี่จึงเป็นเหตุผลให้ตนจึงต้องมา บก.ปคบ.ในวันนี้ อยากจะให้ปราบปรามเรื่องแบบนี้ให้เด็ดขาด ไม่ต้องการไกล่เกลี่ย แต่ต้องการดำเนินคดีให้ถึงที่สุด การเลือกทำเสริมความงาม ถ้าจะให้ดีขอดูใบประกอบวิชาชีพแพทย์เลยจะเพิ่มความมั่นใจ ฝากถึงเจ้าของคลินิกให้คำนึงถึงจรรยาบรรณด้วย คุณได้เงินไปแล้วแต่ไม่สนใจชีวิตของผู้บริโภคแบบนี้ก็ใช้ไม่ได้


เบื้องต้นพนักงานสอบสวนรับแจ้งความแล้วสอบปากคำผู้เสียหาย ก่อนจะพาไปพบฝ่ายสืบสวนที่อาคาร บช.ก.เพื่อตรวจสอบประวัติบุคคลที่ฉีดรวมทั้งสถานเสริมความงานดังกล่าวในการดำเนินคดีต่อไป. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

นายกฯ สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ ร่วมประชุม WEF อวดผ้าไทยสู่สายตาโลก

นายกฯ สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ จากภาคใต้ ร่วมประชุม WEF อวดผ้าไทยสู่สายตาโลก หารือผู้นำและภาคเอกชนชั้นนำของโลก

กทม.จำกัดพื้นที่ชั้นใน ห้ามรถบรรทุกวิ่ง เริ่มคืนนี้!

ผู้ว่าฯ กทม. ติดตามสถานการณ์ฝุ่น กทม. คาดสุดสัปดาห์ระบายอากาศดีขึ้น พร้อมจำกัดพื้นที่ชั้นใน ห้ามวิ่งรถบรรทุก เริ่มคืนนี้! ย้ำประชาชนช่วยสอดส่องการลอบเผา ต้นเหตุฝุ่น PM 2.5

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่น

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่นคนอายุ 60+ ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ว

“จิรายุ” ย้ำเงินหมื่นเฟส 2 มอบคนอายุ 60+ รัฐบาลพร้อมโอนไม่มีเปลี่ยนแปลงแล้ว วันจันทร์ที่ 27 ม.ค.นี้ แน่นอน สามารถตรวจสอบสิทธิ์ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ววันนี้ ส่วนคนไม่มีสมาร์ทโฟน ฝากลูกหลานช่วยด้วย