คนร้ายฆ่าสามีผู้ตายในเหตุ “ลุงหัวร้อน” ยิงดับ ซ.ตากสิน

กรุงเทพฯ 17 ก.พ.-กลุ่มชายฉกรรจ์ 5-6 คน พร้อมอาวุธมีดและขวาน ไล่ฟัน สามีผู้เสียชีวิต จากเหตุลุงหัวร้อน ยิงดับที่ ซ.ตากสิน 18 ขณะนำอาหารและน้ำ มาเซ่นไหว้ภรรยา ที่ศาลาตั้งศพ วัดดาวคะนอง มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 2 ราย


เกิดเหตุชายถูกไล่ฟันด้วยอาวุธมีด ที่วัดดาวคะนอง ผู้พบเห็นเหตุการณ์ เผยว่า ผู้เสียชีวิต กระโดดลงคลองประตูระบายน้ำ ชุมชนหลังวัดดาวคะนอง เจริญนคร 65 จากนั้นกู้ภัยทางน้ำ สนธิกำลังร่วมกับมูลนิธิป่อเต็กตึ้ง ร่วมกับงมจนพบร่างผู้เสียชีวิต บริเวณหน้าประตูระบายน้ำคลองดาวคะนอง ตัดแม่น้ำเจ้าพระยา ทราบชื่อภาพหลังคือ นายกิรติ อายุ 34 ปี เป็นสามี ของนางสาว สุจิตรา ที่ถูกยิงเสียชีวิต ที่ซอยตากสิน 18 เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ผู้เสียชีวิต ได้นำข้าวและน้ำ มาเซ่นไหว้ศพภรรยา ภายในวัดดาวคะนอง ที่จะมีการเตรียมฌาปนกิจในวันนี้ (17 ก.พ.) แต่กลับมาถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ 5-6 คน ใช้อาวุธ มีดครบมือ ขี่รถจักรยานยนต์มาด้วยกัน 3 คัน มีผู้หญิงมาด้วย 1 คน จนทำให้มีผู้บาดเจ็บ 2 คน โดยผู้บาดเจ็บ บอกว่าไม่ทราบว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นใคร


มารดาของผู้เสียชีวิต อยากขอความเป็นธรรมไม่อยากให้เรื่องนี้เงียบ เพราะเป็นการเกิดเหตุต่อเนื่อง หลังลูกสะใภ้ถูกยิงเสียชีวิตไปก่อนหน้านี้เพียง 4 วัน (13 ก.พ.) จึงรู้สึกเสียใจมากไม่คิดว่าจะเกิดความสูญเสียติดๆ กันแบบนี้ อยากให้ตำรวจจับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็ว ซึ่งหลังจากทำการฌาปนกิจศพของ น.ส.สุจิตรา ลูกสะใภ้ ในวันนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จะรับศพลูกชายไปบำเพ็ญกุศลที่วัดบางสะแกนอก ถนนเทอดไท ซอย 33 ต่อไป

ขณะที่ พล.ต.ต.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 8 ชี้แจงว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในงานศพ จากการสอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุพบว่าช่วงขณะที่กำลังเตรียมประกอบพิธีภายในงานศพ มีเด็กเข้ามาจุดประทัดเล่นภายในบริเวณวัดจนเกิดเสียงรบกวนบริเวณงาน นายกิรติสามีของผู้เสียชีวิตจึงออกไปด่าทอต่อว่าห้ามปราม จนเด็กกลุ่มดังกล่าวไม่พอใจและนำเรื่องไปฟ้องกลุ่มวัยรุ่นที่อยู่ภายในบริเวณวัดจึงทำให้เกิดความไม่พอใจและเข้ามาไล่ทำร้ายนายกิรติ ในบริเวณวัด เมื่อนายกิรติ เห็นว่าจวนตัวจึงวิ่งหลบหนีและกระโดดลงไปซ่อนตัวในน้ำจนเสียชีวิต ซึ่งจากการตรวจสอบบาดแผลบนศพของผู้เสียชีวิตแล้วไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย คาดว่าในระหว่างที่ผู้เสียชีวิตกระโดดลงไปซ่อนตัวในน้ำอาจเกิดอาการสำลักน้ำจนทำให้เสียชีวิตในเวลาต่อมา

เบื้องต้นชุดสืบสวนสอบสวนในพื้นที่ได้ลงไปสอบปากคำพยานและสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้หลายคน จึงตรวจสอบพบว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุภายในวัดและกลุ่มผู้ก่อเหตุกับภรรยาของผู้เสียชีวิต เป็นคนละกลุ่มกัน เป็นเหตุซึ่งหน้าที่เกิดขึ้นจากตัวของผู้เสียชีวิตเอง ทั้งนี้ชุดสืบสวนสอบสวนในพื้นที่อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินการควบคุมตัวหรือออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีดังกล่าวต่อไป


สำหรับคดีของนางสาวสุจิตรา อายุ 34 ปี ภรรยาของผู้เสียชีวิต ที่ถูกยิงเสียชีวิตก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ เหตุเกิดภายในซอยตากสิน 18 โดยผู้ต้องหาจ่อยิงนางสาวสุจิตรา ไปถึง 4 นัด แล้วหลังจากนั้นได้นำอาวุธปืนดังกล่าวไปทิ้งที่บริเวณถนนกัลปพฤกษ์ ก่อนจะติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอเข้ามอบตัว โดยอ้างว่าโกรธแค้น และน้อยใจที่หลานสาวที่ตนเองเลี้ยงดูมาไม่อยากจะอยู่ด้วย จึงทำให้เกิดการทะเลาะวิวาทกับผู้ตาย และได้ลงมือยิงผู้ตายในที่สุด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้โรงอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย

เพลิงไหม้โรงงานอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่เร่งนำรถดับเพลิงเข้าระงับเหตุ เพื่อควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามไปยังพื้นที่ใกล้เคียง เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้

พุ่งไม่หยุดราคาทองคำโลกนิวไฮอีก คาดไปต่อถึง 3 พันดอลลาร์/ออนซ์

ราคาทองคำตลาดโลกพุ่งแตะ 2,800 ดอลลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ นักวิเคราะห์คาดมีโอกาสพุ่งต่อถึง 3,000 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่งผลราคาทองไทยวันนี้ขึ้นต่อจากราคาปิดวานนี้ และทำนิวไฮเท่าวานนี้

ข่าวแนะนำ

ศึกชิงทำเนียบขาว 2024 : คอมมาลา แฮร์ริส

รายงานศึกชิงทำเนียบขาว 2024 พาไปรู้จักกับนางคอมมาลา แฮร์ริส ที่เพิ่งได้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต ไม่กี่เดือนก่อนเลือกตั้ง เปรียบเหมือนการเปลี่ยนม้าใหม่กลางศึก หากชนะได้เธอจะกลายเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐด้วย

เปิดโครงการ “เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต” ครั้งที่ 10

นายกฯ ควง “คุณหญิงพจมาน-ครอบครัว” นำ ครม.-ประชาชน ร่วมโครงการเดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10 เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

สาว อบต.ตกใจ ตำรวจตามรอยเงิน 39 ล้านบาท ที่แท้ชื่อซ้ำกัน

สาว อบต. ตกใจ ตำรวจมาถึงที่ทำงาน ถามถึงเงิน 39 ล้านบาท ที่แท้ชื่อซ้ำกัน ยันไม่เคยรู้จัก “มาดามอ้อย-ทนายตั้ม” มาก่อน