กรุงเทพฯ 13 พ.ย.-โฆษก บช.น. เผย พร้อมรับมือม็อบ หากก่อความไม่สงบ ให้บังคับใช้กฎหมายเข้าจับกุมได้ทันที ส่วนกรณีชายขับรถยนต์ชนดะ 7 คันรวด เตรียมส่งฟ้องศาลวันจันทร์นี้ หากไม่นำเอกสารยืนยันโรคประจำตัวมายืนยัน
พลตำรวจตรีจิรสันต์ แก้วแสงเอก โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล และ พันตำรวจเอกกฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงการเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มเห็นต่างทางการเมืองเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน พร้อมกับอำนวยความสะดวกด้านการจราจร
สำหรับการชุมนุมเมื่อวานนี้ (12 พ.ย.64) กลุ่มราษฎรเอ้ย เป็นไปด้วยความเรียบร้อยไม่มีความวุ่นวาย, ด้านกลุ่มก่อความไม่สงบทะลุแก๊ส ไม่พบการรวมกลุ่มของมวลชนในพื้นที่แต่อย่างใด
ขณะที่การชุมนุมในวันที่ 13 พ.ย. 64 มีการนัดชุมนุม 3 กลุ่ม คือ ศิลปินเพลงเพื่อราษฎร ที่หน้าเรือนจำคลองเปรม เวลา 17.00 น., กลุ่มพลเมืองโต้กลับ ที่ศาลฎีกา เวลา 17.30 น. และกลุ่มทะลุแก๊ส ที่แยกดินแดง เวลา 17.30 น.
ส่วนการชุมนุมในวันที่ 14 พ.ย.64 กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมกับกลุ่มทะลุฟ้า อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เวลา 15.00 น. และจะเคลื่อนขบวนไปท้องสนามหลวง ซึ่งตำรวจก็ได้เตรียมกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยแล้ว การชุมนุมทั้งในวันนี้และพรุ่งนี้ (14 พ.ย.) ตำรวจนครบาลจัดเตรียมกำลังพลและยุทโธปกรณ์ เพื่อเข้าดำเนินการรักษาความสงบเรียบร้อยในการชุมนุมดังกล่าว โดยเน้นย้ำให้ปฏิบัติภายใต้กรอบกฎหมาย และคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก รวมทั้งแนะนำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางและบริเวณใกล้เคียงพื้นที่การชุมนุมเพื่อไม่ให้เกิดการจราจรติดขัด
ทั้งนี้ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลจะมีการรวบรวมพยานหลักฐานในการดำเนินการเอาผิดกับผู้กระทำความผิดหากมีเหตุใช้ความรุนแรงและก่อความไม่สงบในบ้านเมือง ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมซึ่งหน้าได้ก็จะดำเนินการทันที ในกรณีที่จับกุมซึ่งหน้าไม่ได้ก็จะรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายเรียกตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
สำหรับการดำเนินคดีเกี่ยวกับการชุมนุมตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2563 จนถึงปัจจุบัน มีการดำเนินคดีไปแล้ว 783 คดี สั่งฟ้องแล้ว 385 คดี และอยู่ระหว่างดำเนินการสอบสวนอีก 398 คดี
ส่วนกรณีรถยนต์ยี่ห้อ MG สีแดง ขับชนดะ 7 คันรวด บริเวณหน้า รพ.ศิริราช เขตบางกอกน้อย เมื่อวันที่ 9 พ.ย. 2564 เจ้าตัวให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนอ้างว่า ตนมีโรคประจำตัวเป็นลมชักเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ซึ่งในวันเกิดเหตุอาการเกิดกำเริบ จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ขณะทางเจ้าหน้าที่ให้ทางเจ้าตัวนำหลักฐานเอกสารชี้แจงโรคประจำตัวมายืนยันกับพนักงานสอบสวน
เบื้องตนพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นเสียหายและได้รับบาดเจ็บ, ข้อหาเฉี่ยวชนและหลบหนีไม่อยู่ให้การช่วย พร้อมเตรียมสำนวนส่งฟ้องศาล ภายในวันจันทร์ที่ 15 พ.ย.2564
ด้าน พันตำรวจเอกกฤษณะ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่จำเป็นจะต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดกับผู้ชุมนุมที่ทำผิดกฎหมาย รวมถึงการสร้างเฟคนิวส์ในสื่อโซเชียลเพื่อยั่วยุปลุกปั่นสร้างความเข้าใจผิด ก็มีความผิดเช่นกัน ซึ่งที่ผ่านมาการดำเนินคดีเกี่ยวกับการชุมนุมทั่วประเทศมีถึงกว่า 1,200 คดี ซึ่งยืนยันว่าการชุมนุมยังเป็นความผิดตามกฎหมาย ต้องดำเนินคดี.-สำนักข่าวไทย