fbpx

ก.อ.ตั้ง กก.สอบวินัยร้ายแรง “เนตร นาคสุข” ไม่ฟ้อง “บอส อยู่วิทยา”

18 ต.ค. – การประชุมคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) เช้าวันนี้มีวาระสำคัญคือ การตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงนายเนตร นาคสุข อดีตรองอัยการสูงสุด จากรณีสั่งไม่ฟ้องทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง ขับรถชนตำรวจ สน.ทองหล่อ เสียชีวิตเมื่อ 9 ปีก่อน


ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการฯ ถ.แจ้งวัฒนะ นายพชร ยุติธรรมดำรง ประธานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) เป็นประธานประชุม ก.อ. โดยมีวาระสำคัญคือ การแต่งตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง นายเนตร นาคสุข อดีตรองอัยการสูงสุด กรณีสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา ทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง ผู้ต้องหาคดีขับรถยนต์หรู ชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ อดีต ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สน.ทองหล่อ เสียชีวิต เหตุเกิดช่วงเช้ามืดวันที่ 3 กันยายน 2555

การตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรงข้าราชการ เป็นไปตามมาตรา 75 แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินการทางวินัยและสั่งลงโทษทางวินัยสำหรับรองอัยการสูงสุด พ.ศ.2563 ระเบียบคณะกรรมการและระเบียบคณะกรรมการอัยการว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรงข้าราชการอัยการ พ.ศ.2554 มีนายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ เป็นประธานกรรมการ มีกรรมการ ประกอบด้วย นายชาติพงษ์ จีระพันธุ รองอัยการสูงสุด นายเชาวลิต วงศานรเศรษฐ์ รักษาราชการตำแหน่งผู้ตรวจการอัยการ นายสุวิช ชูตระกูล รักษาราชการตำแหน่งอธิบดีอัยการภาค 7 นายอนุชา วัฒนวิภา รักษาราชการตำแหน่งรองอธิบดีอัยการสำนักงานคณะกรรมการอัยการ เเละ พ.ต.ต.สันติ มุริจันทร์ อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุดสำนักงานอัยการคดีเยาวชนและครอบครัวจังหวัดขอนแก่น เป็นผู้ช่วยเลขานุการอัยการ ซึ่งนายพชรได้เสนอในที่ประชุม ก.อ. เพื่อพิจารณา


นายพชร เปิดเผยว่าวันนี้ได้เสนอชื่อรายชื่อคณะกรรมการสอบสวนต่อที่ประชุม ก.อ. ซึ่งมีมติเห็นชอบ คาดใช้เวลาตรวจสอบไม่นาน ยืนยันคณะกรรมการชุดนี้มีความโปร่งใส นอกจากนี้คณะกรรมการสอบชุดดังกล่าวอาจมีการขยายผลเชิญ “อัยการอักษรย่อชื่อ ช.” เข้าให้ข้อมูล ในประเด็นที่มีการข้อสังเกตเรื่องการเปลี่ยนแปลงความเร็วรถ มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่

สำหรับคณะกรรมการสอบชุดนี้ จะมีระยะเวลาสอบสวนข้อเท็จจริงเบื้องต้น 60 วัน และสามารถขอขยายระยะเวลาได้อีก 2-3 ครั้ง ซึ่งจะสอบในประเด็นการไม่สั่งคดีที่ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง สำหรับโทษสูงสุดของข้าราชการที่ผิดวินัยร้ายแรงคือไล่ออกจากราชการ. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย ปรับลดดอกเบี้ย MRR

นายกฯ ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย หั่นดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ลง 0.25% เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อลดภาระดอกเบี้ยให้กลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคล และ SME

“บิ๊กโจ๊ก” ร้อง ตร.ขอความเป็นธรรม ปมโดนให้ออกจากราชการ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล บุกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หอบหลักฐานยื่นคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมตำรวจ ขอให้เพิกถอนคำสั่งให้ออกจากราชการ

เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลโรงงานย่านพระราม 2

เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลในโรงงานย่านพระราม 2 ควันสีขาวลอยโขมง เบื้องต้นพบเป็นสารไทโอยูเรีย

อุตุฯ เผยไทยตอนบนร้อนจัด แนะเลี่ยงทำงานในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด แนะหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง