กทม. 25 ม.ค. – ตำรวจจับชาวไต้หวัน ฉายา “ลูแปงไต้หวัน” ขณะกำลังผลิตเคนมผงในห้องพักคอนโดหรูกลางกรุงเทพฯ เร่งประสานตำรวจไต้หวันขยายผลถึงเครือข่าย หลังพบเคยผลิตยาเสพติดส่งออกต่างประเทศ
พลตำรวจเอกสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมทั้งสอบปากคำผู้ต้องหา กรณีตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ปส.) จับกุมนายโช วาย เชิน ผู้ต้องหาชาวไต้หวันฉายา “ลูแปงไต้หวัน” ที่คอนโดแห่งหนึ่งย่านอโศก โดยตำรวจ ปส. สืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาหลบหนีหมายจับของประเทศไต้หวัน ในคดียาเสพติดหลายคดี โดยใช้ชื่อปลอมและหนังสือเดินทางหลายสัญชาติหลบหนีคดีเข้ามาประเทศไทย ตรวจค้นห้องพักพบเคตามีน กว่า 2 กิโลกรัม , เฮโรอีน ประมาณ 8 กิโลกรัม , ไอซ์ 2 กิโลกรัม , ยาอี 379 เม็ด , โคเคน น้ำหนักกว่า 11 กรัม , LSD หรือ แสตมป์มรณะ 48 แผ่น , ยานอนหลับกว่า 200 เม็ด พร้อมเครื่องมืออุปกรณ์ผสมสารเสพติด เพื่อทำเป็นเคนมผงและอาวุธปืน ขนาด 9 มม. เครื่องกระสุนปืน จำนวน 8 นัด โดยขณะจับกุม ตำรวจพบผู้ต้องหากำลังผสมยาเสพติดหลายชนิดเข้าด้วยกันเพื่อทำเป็นเคนมผง ออกจำหน่ายให้กับเอเย่นต์ยาเสพติดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
ผบ.ตร.เปิดเผยว่า หลังตำรวจสืบทราบว่า มีตัวการใหญ่จำหน่ายเคนมผง จึงสืบสวนกระทั่งนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาได้ที่ห้องพัก พร้อมยึดยาเสพติดประเภทต่าง ๆ นอกจากนี้ ยังขยายผลตรวจค้นที่พักของผู้ต้องหารายนี้ 3 แห่ง ที่จังหวัดเชียงใหม่ , ย่านสุขุมวิท 50 และห้องพักย่านอโศก ขณะที่ การสอบสวน ผู้ต้องหารับสารภาพว่าเข้ามาอยู่ในประเทศไทย เพื่อจำหน่ายยาเสพติด ซึ่งมีการผสมสูตรเป็นของตัวเอง ด้วยการนำยาเสพติดหลายประเภทมาผสมกัน พร้อมอ้างว่า ผู้เสพนำไปเสพผิดวิธี จึงอาจส่งผลให้ถึงแก่ชีวิต
จากการตรวจสอบประวัติพบว่า ผู้ต้องหาเข้ามาประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2555 เชื่อว่าเข้าไทยอย่างไม่ถูกต้องและอยู่เมืองไทยมาตลอด ในชั้นนนี้ ยังพบผู้ต้องหาดำเนินการเพียงคนเดียว แต่ตำรวจจะประสานไปยังตำรวจไต้หวัน เพื่อขยายผลถึงเครือข่าย พร้อมหาความเชื่อมโยงถึงกลุ่มผู้ค้ารายย่อยและลูกค้า หลังพบว่าผู้ต้องหากระจายยาเสพติดส่วนหนึ่งผ่านสื่อสังคมออนไลน์และจำหน่ายตามแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ พร้อมเชื่อว่า มีบางส่วนถูกส่งไปจำหน่ายยังต่างประเทศ
ด้าน พลตำรวจโทชินภัทร สารสิน ผู้ช่วย ผบ.ตร. ระบุว่า ข้อมูลของผู้ต้องหาพบเคยทำและเคยผลิตยาเสพติดส่งออกต่างประเทศมาก่อนหน้านี้ แล้วมีพฤติการณ์หลบหนีเจ้าหน้าที่อยู่เรื่อยมา กระทั่งมาอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งทางตำรวจ ปส. ติดตามแกะรอยมาตลอดไม่ใช่ทำเพราะมีประเด็นเคนมผง โดยทราบอีกว่าผู้ต้องหามีการผสมยาเคนมผงหลายสูตรเพื่อส่งจำหน่ายขายทั่วไป
ขณะที่ พลตำรวจโทมนตรี ยิ้มแย้ม ผู้บัญชาการ ปส. เปิดเผยว่าหลังจากนี้จะขยายผลจากผู้ต้องหา 2 ส่วนคือแหล่งที่มาของยาเสพติด โดยจะตรวจสอบว่ามาจากที่ไหน และสูตรเคนมผงผู้ต้องหาส่งให้ใคร และเครือข่ายใดบ้าง โดยจะประสานกับทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจเข้มข้นหาเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง.-สำนักข่าวไทย