ฝากขังผู้ต้องหาลักลอบนำชาวโรฮีนจาซุกบ้านเช่าดอนเมือง

กรุงเทพฯ 9 ม.ค.-ตำรวจนำตัวผู้ต้องหาที่นำชาวโรฮีนจาหลบหนีเข้าเมือง 19 คน ไปพักบ้านเช่าย่านดอนเมือง ขออำนาจศาลฝากขังแล้ว เบื้องต้นศาลดำเนินมาตรการคุมเข้มคัดกรองโรค ก่อนพิจารณารับฝากขังชั่วคราว


พนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง นำตัวนางระมัย ไชยมา หนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ ความผิดฐานร่วมกันให้คนต่างด้าวเข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม กรณีที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าได้นำแรงงานชาวโรฮีนจา 19 คน ไปพักอาศัยที่บ้านเช่าย่านดอนเมือง และต่อมาถูกฝ่ายสืบสวนตามไปจับกุมตัวได้ที่จังหวัดปทุมธานี ไปขออำนาจศาลอาญารัชดาภิเษกฝากขังผัดแรก หลังใกล้เวลาควบคุมตัวครบ 48 ชั่วโมง

โดยระหว่างที่มีการนำตัวนางระมัยไปฝากขัง เจ้าหน้าที่ได้เพิ่มความเข้มในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ตั้งแต่การนำตัวออกจาก สน.ดอนเมือง โดยตำรวจผู้ควบคุมตัวได้สวมใส่ชุด PPE ตลอดเวลา และนำนางระมัยขึ้นรถที่ใช้ในการสนับสนุนภารกิจส่งกลับโควิด-19 เพียงคนเดียว แยกจากการควบคุมผู้ต้องหาคดีทั่วไป และเมื่อมาถึงที่ศาลอาญาได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ในการนำส่งฝากขังโดยไม่นำผู้ต้องหาลงจากรถ และปฏิบัติตามมาตรการคุมเข้มการแพร่ระบาดฯ ของศาล ทำการตรวจวัดไข้และซักประวัติซ้ำ รวมถึงเช็ดล้างเครื่องมือภายในรถเพื่อความปลอดภัยด้วย


ทั้งนี้ระหว่างการขออำนาจศาลฝากขัง ก็มีนายประกันมาเตรียมยื่นหลักทรัพย์ขอปล่อยตัวชั่วคราว หลังได้รับการติดต่อจากญาตินางระมัย โดยได้เตรียมเงินสดจำนวน 150,000 บาท เพื่อวางเป็นหลักทรัพย์ ซึ่งศาลอยู่ระหว่างการพิจารณาคำร้องขอฝากขังตัวชั่วคราวดังกล่าว

ขณะที่นายสุริยันต์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม เปิดเผยว่า ศาลได้เพิ่มมาตรการคุมเข้มในการฝากขังผู้ต้องหาใน 2 ลักษณะ หากเป็นผู้ต้องหาทั่วไปที่ไม่มีความเสี่ยง ก็ยังนำตัวไปขออำนาจศาลฝากขังได้ตามปกติ ซึ่งเมื่อมาถึงแล้วเจ้าหน้าที่ก็จะทำการคัดกรองประวัติตามคำแนะนำด้านสาธารณสุข แต่หากเป็นกรณีที่อาจมีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด ก็จะมีมาตรการแยกเป็นพิเศษ เช่น การไม่นำผู้ต้องหาลงจากรถระหว่างการพิจารณาขอฝากขัง, การขอฝากขังผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอเรนซ์, หากเป็นผู้ต้องขังในเรือนจำ จะอนุญาตให้ต่ออายุการฝากขังผ่านทางวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ได้ นอกจากนี้ศาลยังได้เพิ่มช่องทางในการยื่นขอประกันผู้ต้องหาผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดอีกทางหนึ่งด้วย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าจะเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม