ปธ.ศาลฎีกาเปิด 5 นโยบายพัฒนาศาลยุติธรรม

กทม.29 ก.ย. –  ประธานศาลฎีกาแถลงผลงานตลอดระยะเวลา  1 ปี ภายใต้ชื่องาน  “ความยุติธรรม ไม่มีวันหยุด” พร้อมเปิด 5 นโยบาย พัฒนาศาลยุติธรรม


เวลา 15.00 น.  ที่ ห้องประชุมใหญ่ สำนักประธานศาลฎีกา  นายไสลเกษ  วัฒนพันธุ์ ประธานศาลฎีกา แถลงผลการดำเนินงานตามนโยบายของประธานศาลฎีกาตลอด 1 ปี ที่ผ่านมา ภายใต้ชื่องาน “ความยุติธรรม ไม่มีวันหยุด” ผ่านระบบการประชุมทางไกลผ่านจอภาพไปยังศาลยุติธรรมทั่วประเทศ  โดยมีนางเมทินี ชโลธร รองประธานศาลฎีกา ว่าที่ประธานศาลฎีกาคนถัดไป ร่วมงานด้วย

โดยผลการดำเนินงานตามนโยบายของประธานศาลฎีกา 5 ประการ ที่ได้รับจากการทำแบบ สอบถามความคิดเห็นของประชาชนตลอด 1 ปี ที่ผ่านมา โดยนโยบายที่สำคัญ คือ การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของผู้ต้องหาหรือจำเลย ทั้งการเปิดให้ยื่นคำร้องใบเดียว ไม่ต้องมีหลักทรัพย์วางประกัน หรือมีเพียงบาวส่วน เพื่อขอปล่อยตัวชั่วคราวได้ในวันหยุด  ซึ่งตั้งแต่เริ่มต้นใช้ศาลมีคำสั่งอนุญาตปล่อยชั่วคราวเกินกว่าร้อยละ 80 ซึ่งเป็นบรรทัดฐานที่สังคมจะรับรู้ต่อไปในอนาคต  การส่งเสริมลดการคุมขัง โดยยึดหลักปล่อยเป็นหลักขังเป็นข้อยกเว้น เช่น การรอการกำหนดโทษ ให้จำเลยทำงานบริการสังคมหรือประโยชน์สาธารณะแทนค่าปรับ เพื่อช่วยเหลือจำเลยที่ไม่ทีความสามารถทางเศรษฐกิจได้รับความคุ้มครองทางเสรีภาพ โดยมีจำเลยที่ศาลอนุญาตให้ทำงานบริการสาธารณะแทนค่าปรับไปแล้วกว่า 1 หมื่นคน แทนเงินค่าปรับไปทั้งสิ้นกว่า 120 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีการนำร่องแบบประเมินตนเองฉบับศาลยุติธรรม มาทดลองในศาลทรัพย์สินทางปัญญ  าและการค้าระหว่างประเทศ ศาลภาษีอากรกลาง และศาลจังหวัดสมุทรปราการ   การนำเทคโนโลยีมาใช้ในการยื่นส่งคำคู่ความ และอ่านคำพิพากษา  หรือ คำสั่งของศาลฎีกา การส่งเสริมระบบบริหารงานบุคคล   สร้างสมดุลระหว่างอาวุโสและความรู้ความสามารถ และให้ศาลบังคับใช้กฎหมายที่ส่งเสริมรักษาสิ่งแวดล้อม รวมทั้งจัดพื้นที่แยกประเภทผู้ต้องหาที่ถูกควบคุมตามข้อหาแตกต่างกันไปตามลักษณะความผิด อย่่างไรก็ตาม นายไสลเกษ ยังเชื่อมั่นว่านางเมทินี   ประธานศาลฎีกาคนต่อไปที่จะรับตำแหน่งในอีก 2 วันข้างหน้า และคณะทำงาน จะสามารถผลักดันนโยบายที่สัมฤทธิ์ผลเป็นที่พอใจได้ต่อไปอย่างแน่นอน  -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง