กทม.27 ส.ค.-ศาลชั้นต้นสั่งประหารชีวิตนายประสิทธิชัย เขาแก้ว หรือ อดีต ผอ.กอล์ฟ ใช้ปืนยิงเบิกทางก่อนชิงทองจากห้างดังที่ จ.ลพบุรี เมื่อ 9 มกราคม 2563
คดีนี้พนักงานอัยการคดีอาญา 6 พร้อมผู้เสียหายอีกหลายคนที่ขอเป็นโจทก์ร่วมยื่นฟ้องนายประสิทธิชัย เขาแก้ว หรือ อดีต ผอ.กอล์ฟ รวม 9 ข้อหา ประกอบด้วย ฆ่าผู้อื่นเพื่อตระเตรียมการหรือเพื่อความสะดวกในการที่จะกระทำความผิดอย่างอื่น หรือเพื่อจะเอาหรือเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดแต่การที่ตนได้กระทำความผิดอื่นหรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้, พยายามฆ่าผู้อื่นเพื่อตระเตรียมการหรือเพื่อความสะดวกในการที่จะกระทำความผิดอย่างอื่น, ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้อาวุธและใช้ยานพาหนะเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและได้รับอันตรายสาหัส, ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมืองหมู่บ้านหรือที่ชุมนุมชน, พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควรและโดยไม่ได้รับอนุญาต, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, มีและใช้อาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้, ใช้อาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ในการกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นและฐานชิงทรัพย์ และมียุทธภัณฑ์ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต หลังจำเลยก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงปืนและชิงทองกลางห้างดังในจังหวัดลพบุรี เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2563 และวันนี้(27 ส.ค.) ศาลอาญา นัดอ่านคำพิพากษาของศาลชั้นต้น ซึ่งเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ ได้เบิกตัวจำเลยมาจากเรือนจำกลางพิเศษกรุงเทพมหานคร
ศาลวินิจฉัยคำให้การพยานโจทก์ ประกอบหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ พบว่าสอดคล้องต้องกันไม่มีเหตุให้ต้องสงสัย พิพากษาว่าจำเลย กระทำผิดตามฟ้องทุกข้อหา พิพากษาประหารชีวิต ซึ่งเป็นบทลงโทษหนักสุดในทุกข้อหาที่ยื่นฟ้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ศาลอ่านคำวินิจฉัย ศาลบรรยายคำร้องขอของจำเลยด้วยว่า จำเลยขอให้ลดโทษเพราะได้สำนึกผิด และอ้างถึงคุณงามความดีที่เคยทำมา อีกทั้งรับสารภาพตลอดการสืบสวนสอบสวน แต่ศาลชี้ว่า ฟังไม่ขึ้น การรับสารภาพของจำเลยนั้นศาลชี้ว่า เพราะจำนนด้วยหลักฐาน ส่วนการกล้าวอ้างว่า ทำความผิดจากความคิดชั่ววูบนั้น ศาลระบุว่า เป็นคำกล่าวอ้างเลื่อนลอย เนื่องจากพฤติการณ์สืบสวนสอบสวนชัดเจนว่า จำเลยได้ตระเตรียมการมาก่อน รวมทั้งการอ้างว่าไม่มีเจตนายิงผู้อื่นหรือยิงเพราะคิดว่าผู้อื่นมีปืนจะยิงต่อสู้ ศาลเห็นว่าฟังไม่ขึ้นเช่นกัน เพราะหลักฐานชี้พฤติการณ์ยิงจากด้านหลังและการอ้างไม่ได้เป็นข้อเท็จจริง
นอกจากนี้ ศาลยังให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายให้กับผู้เสียชีวิตทั้ง 3 คนตามความเป็นจริง เช่น ค่าปรงศพ ค่าพิธกรรมทางศาสนา ส่วนค่าชดใช้เยียวยาจิตใจ รวมถึงค่าเสียหายด้านพยาบาลผู้บาดเจ็บ ให้ชดใช้แตกต่างกันไปตามความเสียหายของแต่ละบุคคลรวมเป็นเงินกว่า 6 ล้านบาท
หลังศาลอ่านคำพิพากษาเสร็จสิ้น พ่อและแม่ของเด็กชายไตตั้น ผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า คำพิพากษาวันนี้(27 ส.ค.)ถือว่าคืนความยุติธรรมให้ลูกชาย ส่วนตัวไม่ติดใจกับจำเลยแล้ว แต่ยอมรับยังคงคิดถึงลูกชายทุกวันและยังไม่สามารถทำใจเข้าไปใช้บริการห้างที่เกิดเหตุได้.-สำนักข่าวไทย