“จอนนี่ มือปราบ” ร้อง ป.ป.ช.เอาผิดอธิบดีกรมพัฒนาสังคมฯ

นนทบุรี 8 ก.ค. – “จอนนี่ มือปราบ” ร้อง ป.ป.ช. เอาผิดอธิบดีกรมพัฒนาสังคมฯ กับพวก ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กล่าวหาบุกรุกที่ดินนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย จ.อุบลราชธานี ชี้เลือกปฏิบัติ-ไร้คำสั่งทางปกครอง ซัดถูกกลั่นแกล้งเพราะเคยวิจารณ์นายกฯ


วันนี้ (8 ก.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อ.เมือง จ.นนทบุรี จอนนี่ มือปราบ พร้อมด้วยทนายเกิดผล แก้วเกิด เข้ายื่นหนังสือแจ้งความกลับอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ และเจ้าหน้าที่ รวม 3 ราย ในความผิดตามมาตรา 157-หมิ่นประมาท หลังอธิบดีกรมพัฒนาสังคมฯ แจ้งความดำเนินคดี จอนนี่ มือปราบ กรณีสร้างรีสอร์ตรุกล้ำเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ต.คำเขื่อนแก้ว อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี อ้างพยายามส่งหนังสือแจ้งให้ยุติการทำรีสอร์ตแล้วแต่กลับไม่ได้รับความร่วมมือ หนำซ้ำยังถูกข่มขู่

จอนนี่ กล่าวว่า วันนี้มายื่นหนังสือร้อง ป.ป.ช. แจ้งความดำเนินคดีบุคคล 3 ราย คือ อธิบดีกรมพัฒนาสังคมฯ และเจ้าหน้าที่ ในความผิด ม.157 ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และหมิ่นประมาท กรณีตรวจสอบรีสอร์ตของตนเพียงที่เดียว และอ้างว่าไม่ได้รับความร่วมมือ หนำซ้ำยังถูกข่มขู่ ทั้งที่ในบริเวณใกล้เคียงมีสถานประกอบการอื่นๆ โดยอ้างกฎหมายที่จัดตั้งขึ้นภายหลังที่ประชาชนเข้ามาอาศัยและทำมาหากินมาเป็นเวลานาน ทั้งนี้ ที่ดินของตนเข้าไปซื้อต่อจากชาวบ้านเป็นทอดๆ ซึ่งตนเป็นลำดับที่ 3 แล้ว มีเอกสารสัญญาซื้อขายถูกต้อง มีลายเซ็นของผู้ใหญ่บ้าน นายอำเภอ หรือเจ้าหน้าที่รัฐ และดำเนินการก่อสร้างรีสอร์ตจนเปิดให้บริการมานานหลายปี แต่กลับมาถูกตรวจสอบเอาตอนนี้


ส่วนตัวมองว่าเป็นการเลือกปฏิบัติ เพราะมาตรวจสอบตนหลังมีกระแสดรามาของนายกรัฐมนตรีที่มีการต่อสายโทรคุยสมเด็จฮุน เซน และตนออกมาโพสคลิปวิจารณ์การทำงานของนายกฯ ยืนยันไม่ได้ประสงค์ร้ายต่อนายกฯ เพียงแต่วิพากษ์วิจารณ์ในฐานะประชาชนคนไทยและเป็นผู้ใต้บังคับบัญชานายกฯ แต่ประเด็นดังกล่าวทำให้ต้องตัดสินใจลาออกจากตำรวจ สุดท้ายก็ถูกร้องเรียนให้ตรวจสอบที่มาของทรัพย์สินและรายได้ จนวันนี้ถูกตรวจสอบเรื่องการก่อสร้างรีสอร์ตบุกรุกที่นิคมฯ จึงต้องออกมาต่อสู้ในฐานะประชาชนคนธรรมดา ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ ร้องขอความเป็นธรรม

ด้านทนายเกิดผล เปิดเผยว่า เรื่องนี้ต้องแยกออกเป็น 2 เรื่องคือ 1.การซื้อที่ของนิคมฯ ถ้ามีการซื้อ-ขายจากสมาชิกที่มีใบ นค.1 หรือ นค.3 ถือว่าผิด แต่กรณีครอบครองมาก่อนมีกฎหมายประกาศใช้ในปี พ.ศ. 2511 และเป็นเขตนิคมฯ ในปี พ.ศ. 2515 ซึ่งมีชาวบ้านอยู่มาก่อน ดังนั้น กรณีนี้คือการซื้อที่ดินที่ไม่มีเอกสาร เป็นสิทธิของผู้ครอบครองที่อยู่มาก่อน 2.ถ้าหน่วยงานรัฐจะดำเนินคดีกับจอนนี่ ต้องมีคำสั่งให้รื้อถอนก่อน และจอนนี่มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่ง หากอุทธรณ์ไปแล้วก็มีสิทธิเพิกถอนคำสั่งศาลปกครอง แต่กระบวนการนี้ไม่มี จะข้ามมาดำเนินคดีได้อย่างไร ถือเป็นการปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมายหรือไม่ หากไม่มีถือเป็นการกระทำที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือเลือกปฏิบัติ ซึ่งจอนนี่บอกว่าที่ผ่านมาไม่เคยได้รับหนังสือจากหน่วยงานใด นอกจากนี้มีคำสั่งรื้อถอนกับผู้ประกอบการคนอื่นหรือไม่ ถ้าไม่มีก็เท่ากับเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บริเวณเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย แหล่งข่าวรายหนึ่งให้ข้อมูลว่า การแจ้งความดำเนินคดี ดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ไม่ได้ดำเนินการกับจอนนี่เพียงรายเดียว ยังมีพยาบาลและชาวบ้านอีกจำนวนหนึ่ง จึงไม่ได้เป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ส่วนรายละเอียดของการดำเนินการจะเป็นไปตามขั้นตอนของการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ในกรณีดังกล่าวได้มีการแจ้งทางกรมให้ทราบตั้งแต่ปี 65 และทางพื้นที่เองยังไม่ได้ติดตาม จนกระทั่งทางกรมได้มีการประสานขอข้อมูลเพิ่มเติมและมีการนำเข้าแจ้งความร้องทุกข์ดังกล่าว ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เป็นการกระทำตามหน้าที่ที่พึงกระทำ และไม่ได้มีการกลั่นแกล้งแต่อย่างใด เนื่องจากข้อมูลดังกล่าวถูกส่งให้ทางกรมตั้งแต่ปี 65 แล้ว


ขณะที่ชาวบ้านยอมรับว่าจุดที่เป็นรีสอร์ตของจอนนี่ มือปราบ ในอดีตเคยเป็นป่ามาก่อน แต่พื้นที่ถูกแปรสภาพ แล้วโดยเจ้าของคนก่อน หลังซื้อก็ไม่พบว่ามีการบุกรุกเพิ่มเติม โดยก่อนซื้อที่ดินต่อจากชาวบ้าน จอนนี่มาปรึกษาผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้าน เพื่อทำกิจกรรมร่วมกัน ให้ชาวบ้านมีรายได้และจ้างแรงงานท้องถิ่น โดยไม่ต้องไปทำมาหากินต่างถิ่น ซึ่งหลานตนก็ทำงานที่รีสอร์ตของจอนนี่ ก็รู้สึกตกใจที่จอนนี่ถูกแจ้งความดำเนินคดี เพราะเข้าใจว่ามาถูกต้องตามกฎหมาย และไม่ได้บุกรุกพื้นที่เพิ่มจากเจ้าของรายเดิม ชาวบ้านคงไม่ยอม เพราะถ้าผิด ก็ต้องย้ายกันทั้งหมด

ด้าน ผบก.ปทส. ให้ข้อมูลทางโทรศัพท์ว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องยากซับซ้อน เพียงแต่ผู้ถูกกล่าวหาเป็นคนมีชื่อเสียง จุดดังกล่าวอยู่ในเขตที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย กันเป็นพื้นที่ป่า 20% ซึ่งไม่สามารถเข้าไปทำประโยชน์ได้ นับจากนี้จะมีตำรวจ ปทส.ชุดล่วงหน้า ลงพื้นที่ไปตรวจสอบว่ามีการบุกรุกเนื้อที่เท่าไร มีสิ่งปลูกสร้างอะไรบ้าง มีชาวบ้านกี่ราย ในส่วนของชาวบ้าน ฝ่ายปกครองต้องไปพูดคุยทำความเข้าใจ ส่วนตนและ ปทส.ชุดใหญ่ มีกำหนดการจะลงพื้นที่ในวันที่ 22 กรกฎาคมนี้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 163 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 20 ส.ค. – หนีไม่รอด รวบโจรสวมชุดไรเดอร์ บุกเดี่ยวชิงทองกลางห้างดัง จ.สมุทรปราการ กวาดทอง 163 บาท พบของกลางบางส่วนซุกตู้ลำโพงในบ้าน จากกรณีคนร้ายแต่งตัวคล้ายไรเดอร์ สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ สะพายกระเป๋าข้าง บุกเข้าไปในร้านทอง พร้อมใช้อาวุธปืนข่มขู่พนักงาน ก่อนกระโดดข้ามตู้หน้าร้าน กวาดสร้อยคอและสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนักรวม 163 บาท เป็นทองคำรูปพรรณประเภทสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท ประมาณ 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท, น้ำหนัก 3 บาท ประมาณ 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท ประมาณ 24 เส้น น้ำหนักรวม 48 บาท (รวมสร้อยข้อมือ 79 เส้น) ก่อนวิ่งขึ้นรถ จยย.ที่จอดอยู่ด้านหน้า […]

หลักฐานชัด! ทหารกัมพูชาลอบวางทุ่น PMN-2 ภูมะเขือ

19 ส.ค.- กองทัพเรือพบหลักฐานสำคัญ ยืนยันทหารกัมพูชาลักลอบใช้ทุ่นระเบิด PMN-2 บริเวณภูมะเขือ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ชุดเก็บกู้กวาดล้างที่ 1 หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมกองทัพเรือ (นปท.ทร.) ซึ่งสนับสนุนการปฏิบัติงานเก็บกู้และกวาดล้างทุ่นระเบิดในพื้นที่ภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ ร้อย ร.132 พัน.13 (ฐานเหนือเมฆ) ตรวจพบโทรศัพท์มือถือของทหารกัมพูชาที่ทิ้งไว้ในพื้นที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบภายในเครื่อง พบคลิปวิดีโอและภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ทหารกัมพูชากำลังถือทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 พร้อมทั้งมีการบันทึกเสียงเป็นภาษาเขมร คาดว่าเป็นการสาธิตวิธีการใช้งาน ก่อนนำไปลักลอบฝังในพื้นที่ชายแดนไทย หลักฐานจากโทรศัพท์ยังระบุวันเวลาที่ถ่ายภาพและวิดีโอไว้อย่างชัดเจน จึงนับเป็นพยานหลักฐานสำคัญที่ยืนยันพฤติกรรมการละเมิดข้อตกลง และการใช้ทุ่นระเบิด ซึ่งขัดต่ออนุสัญญาระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ นปท.ทร. ได้แสดงถึงความรอบคอบและไหวพริบในการตรวจสอบหลักฐานทันที ก่อนส่งมอบให้หน่วยกองทัพบกในพื้นที่ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป. – สำนักข่าวไทย

“ทศพล” รุดมอบมาลัย “ภูมิธรรม” หลัง ครม.ชงนั่งผู้ว่าฯ เชียงใหม่

กองบินตำรวจ 20 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เตรียมแถลงจับยาเสพติดลอตใหญ่ “ทศพล” รุดมอบมาลัย หลัง ครม.ชงนั่งผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 8.00 น. ที่กองบินตำรวจ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เดินทางมาขึ้นเครื่อง เพื่อไปแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดล็อตใหญ่ ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พลตํารวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร อธิบดีกรมการปกครอง นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ เลขานุการ รมว.มหาดไทย ร่วมเดินทางด้วย ทั้งนี้เมื่อนายภูมิธรรมเดินทางมาถึง นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ที่ ครม. มีมติเมื่อ 19 ส.ค. แต่งตั้งให้ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้นำพวงมาลัยมามอบให้นายภูมิธรรมและปลัดกระทรวงมหาดไทย และร่วมเดินทางกับคณะด้วย โดยมีสีหน้ายิ้มแย้ม อย่างไรก็ตามก่อนเดินทางเลขาธิการ ป.ป.ส. ได้รายงานสถานการณ์ยาเสพติดให้นายภูมิธรรมรับทราบ.-319.-สำนักข่าวไทย

มท.ชง ครม.แต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กลอต 25 ตำแหน่ง

กทม.19ส.ค.-มท.ชง ครม.แต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กลอต 25 ตำแหน่ง ผู้ว่าฯ หนองบัวลำพู ผงาดขึ้นอธิบดี พช. โยก “สยาม” นั่งพ่อเมืองปากน้ำ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำแหน่งบริหารระดับสูงให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 25 ตำแหน่ง อาทิ นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นผู้ว่าฯ สมุทรปราการ นายจุมพฎ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าฯ บึงกาฬ เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าฯ ตาก เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายสุรศักดิ์ อักษรกุล ผู้ว่าฯ หนองบัวลำภู เป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร เป็นผู้ว่าฯ ชลบุรี นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

ศาลยกฟ้อง “ทักษิณ” คดี ม.112 – พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

กทม. 22 ส.ค.-ศาลชั้นต้นยกฟ้อง “ทักษิณ” คดี ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เจ้าตัวยิ้มและกล่าวคำพูดแรกขอบคุณทีมทนายความ ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษายกฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในความผิดมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เนื่องจากศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานฝ่ายโจทก์ เห็นว่าคลิปเสียงที่โจทก์นำมาเป็นหลักฐานไม่มีการพิสูจน์ว่าเป็นคลิปที่มีการตัดต่อหรือไม่ และศาลเชื่อว่าบทสัมภาษณ์น่าจะมากกว่าความยาวของคลิปดังกล่าว จึงพิพากษายกฟ้อง หลังฟังคำพิพากษา นายทักษิณ ยิ้มและกล่าวคำพูดแรกขอบคุณทีมทนายความ หลังจากนี้จะได้ทำงานเพื่อประเทศชาติอย่างเต็มที่.-สำนักข่าวไทย

“ทักษิณ” ผูกเนกไทเหลือง มาฟังคำตัดสินคดี ม.112

กทม. 22 ส.ค.-“ทักษิณ” มาก่อนเวลา สวมสูท-ผูกเนกไทเหลือง มาฟังคำตัดสินคดี ม.112 ก่อนสวมกอด “พินทองทา” และโบกมือทักทายสื่อฯ-มวลชนเสื้อแดง ก่อนขึ้นห้องพิจารณาที่ 902 ด้านตำรวจ สน.พหลฯ จัดกำลังดูแลความเรียบร้อยตามความเหมาะสม ต่อมาเวลา 09.20 น. นางสาวพินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนกลางนายทักษิณชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมาถึงศาลอาญารัชดา โดยจอดรถบริเวณด้านข้างอาคารศาลอาญา จากนั้นในเวลาไล่เลี่ยกันนายทักษิณ เดินทางมาถึงศาลอาญาด้วยรถยนต์ส่วนตัว โดยมาด้วยชุดสูทสีกรมท่า เสื้อเชิ้ตสีขาวผูกเนกไทสีเหลือง ก่อนจะสวมกอดกับลูกสาว และเดินเข้าไปบริเวณด้านในอาคารศาลอาญารัชดาทันทีเพื่อเข้าสู่ห้องพิจารณาคดีที่ 902 ในเวลา 10.00 น. ตามที่ศาลนัดพิพากษาตัดสินคดีวันนี้ ขณะที่มาตรการรักษาความปลอดภัย พันตำรวจเอกมารุต สุดหนองบัว ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน ให้ข้อมูลว่า ในวันนี้เจ้าหน้าที่ศาลอาญาได้ประสานขอกำลังสถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน ให้เข้ามาช่วย ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย ซึ่งตำรวจสถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน ทั้งในและนอกเครื่องแบบได้เข้ามาช่วยดูแลรักษาความปลอดภัยภายในพื้นที่โดยมีการวางกำลังเสริมกับตำรวจศาลและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของศาลตามความเหมาะสม โดยก่อนหน้านี้ทางกลุ่มแกนนำมวลชนเสื้อแดงได้มีการประสานกับฝ่ายสืบสวนว่าจะเข้ามาจัดกิจกรรมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ให้กำลังใจ และจับภาพรวมการข่าวก็ยังไม่พบอะไรที่น่าเป็นกังวล ขณะเดียวกันพบมีมวลชนจำนวนหนึ่งเดินทางมาปักหลักที่บริเวณลานจอดรถของศาลอาญาพร้อมใจกันสวมใส่เสื้อสีแดง และสกรีนข้อความให้กำลังใจพร้อมรูปของนายทักษิณ เป็นการให้กำลังใจเดินทางมาให้กำลังใจนายทักษิณเดินทางมาจากในพื้นที่กรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด ซึ่งตำรวจศาลและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของศาลอาญาได้มีการกันพื้นที่ เพื่อให้กลุ่มมวลชนอยู่ พื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ให้เพื่อไม่ให้กระทบกับประชาชน และเจ้าหน้าที่ที่เดินทางมาที่ศาลอาญา.-420.-สำนักข่าวไทย

ฝ่ายกัมพูชามาถึงแล้ว ร่วมประชุม RBC ชุดใหญ่ที่สระแก้ว

สระแก้ว 22 ส.ค.-การประชุม RBC ระดับกองเลขาฯ ไทย-กัมพูชา รอข้ามคืน ฝ่ายกัมพูชาส่งข้อเสนอให้ผู้บังคับบัญชาตรวจ ก่อนเปิดโต๊ะเจรจา ‘ตี1’ เสร็จ ‘ตี2’ นำเข้า RBC วงใหญ่ 10 โมงเช้าวันนี้ ซึ่งฝ่ายกัมพูชามาถึงแล้วตามกำหนด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย-กัมพูชา (RBC) ในระดับกองเลขานุการ ที่สโมสรนายทหาร มณฑลทหารบกที่ 19 ซึ่งเดิมกำหนดในเวลา 14.00 น. วันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา มาถึงเวลา 18.00 น. กองทัพภาคที่ 1 และกองทัพบก ชี้แจงว่า การประชุมยังดำเนินการอยู่ ผ่านทางโทรศัพท์และอีเมล ซึ่งฝ่ายกัมพูชาต้องให้ผู้บังคับบัญชาของตัวเองพิจารณา ก่อนขึ้นโต๊ะเจรจากับฝ่ายไทย จนถึงเวลาประมาณ 00.05 ของวันที่ 22ส.ค. พลโท ซอ กึมปะ รองผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 5 ประธานคณะทำงาน และคณะของฝ่ายกัมพูชา เดินทางมาถึง สโมสร […]

ประชุม RBC ระดับเลขาฯ ไม่ยกเลิก หลังมีข่าวส่อแววล่ม

สระแก้ว 21 ส.ค.- ไม่ล่ม! การประชุม RBC ระดับเลขานุการ ยังไม่ยกเลิก กระบวนการหารือยังคงดำเนินต่อไป แม้ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวส่อล่ม เนื่องจากฝ่ายกัมพูชายังไม่เดินทางมาเข้าร่วม ภายหลังการประชุม คณะกรรมการร่วมชายแดนในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ถูกเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 27 สิงหาคม 2568 หลายฝ่ายจับตาไปที่การประชุมของกองทัพภาคที่ 1 ซึ่งจะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ (22 ส.ค.) แต่ปรากฏว่าวันนี้ เมื่อถึงเวลาประชุม RBC ระดับเลขานุการ ทางฝ่ายกัมพูชายังไม่ได้เดินทางมา บรรยากาศที่สโมสรนายทหาร มณฑลทหารบกที่ 19 จ.สระแก้ว การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย – กัมพูชา (RBC) สมัยวิสามัญ ซึ่งตามกำหนดในเวลา 14.00 น. จะมีการประชุม กองทัพภาคที่ 1 นำโดย พลตรี สุรวิชญ์ แดงจันทร์ เสนาธิการกองทัพภาคที่ 1 เป็นประธานคณะทำงาน ฝ่ายไทย ขณะกัมพูชา นำโดย พลโท ซอ […]