28 พ.ค. – ตำรวจไซเบอร์ไทยรวบหนุ่มใหญ่บัลแกเรีย ลอบติดตั้งอุปกรณ์รบกวนการทำงานของตู้ ATM ในไทย พบโดนแล้วล่าสุด 13 ตู้
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. แถลงว่า สถาบันการเงินแจ้งข้อมูลต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าได้มีคนร้ายใช้กุญแจมาสเตอร์คีย์ไขหน้าตู้เอทีเอ็ม แล้วถอดเปลี่ยนสายรับส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ภายในตู้เอทีเอ็ม แล้วขโมยเอาสายรับส่งข้อมูลชิ้นเดิมไป โดยพบความเสียหายแล้วจำนวน 13 ตู้ เป็นเหตุให้ธนาคารได้รับความเสียหาย
ต่อมา ชุดสืบสวนได้ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ที่เกิดเหตุและเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี จนทราบว่าคนร้ายไม่ได้ก่อเหตุเพียงคนเดียว โดยได้ใช้รถยนต์ Honda รุ่น City สีขาว ซึ่งเป็นรถที่เช่ามาแล้วนำมาใช้ในการก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงได้ติดตามไปยังบริษัทของรถเช่าคันดังกล่าว จนได้ข้อมูลของผู้เช่ารถคันดังกล่าวมา
จากนั้นจึงได้เฝ้าติดตามพฤติกรรมของคนร้ายจนพบหลักฐานว่ามีการกระทำในลักษณะดังกล่าวจริง ในส่วนของสายรับส่งข้อมูลที่คนร้ายนำมาเปลี่ยนกับสายเดิม จากการตรวจสอบพบว่าเป็นสายรับส่งข้อมูลที่สามารถส่งข้อมูลไวรัสด้วยการใช้สัญญาณอินเตอร์เน็ตจากซิมการ์ด ที่ถูกติดตั้งไว้ในสายรับส่งข้อมูลดังกล่าว เพื่อรบกวนการทำงานของตู้และระบบไฟฟ้า
พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานขอหมายค้น และหมายจับ โดยเข้าตรวจค้นในหมู่บ้านหรู พื้นที่ ต.บางพลับ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พบนายนายอีวาน วัลเชฟ อายุ 50 ปี สัญชาติบัลแกเรีย ผู้ต้องหาตามหมายจับ จากการตรวจค้นบ้านพักของผู้ต้องหาพบสายรับส่งข้อมูลที่ถูกขโมยไป รวมทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่เชื่อว่ามีข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดอยู่ภายในจึงได้ตรวจยึดไว้เพื่อตรวจสอบพยานหลักฐานทางดิจิทัลต่อไปเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหา
“ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใด ๆ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือเพื่อการหลบหนี หรือการพาทรัพย์นั้นไป, ร่วมกันกระทำด้วยประการใดโดยมิชอบด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อดักรับไว้ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นที่อยู่ระหว่างการส่ง ในระบบคอมพิวเตอร์และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นมิได้มีไว้เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือเพื่อให้บุคคลทั่วไปใช้ประโยชน์ได้, ทำให้เสียหาย ทำลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ, กระทำด้วยประการใดโดยมิชอบเพื่อให้การทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นถูกระงับ ชะลอ ขัดขวาง หรือรบกวนจนไม่สามารถทำงานตามปกติได้ โดยเป็นการกระทำโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อข้อมูล คอมพิวเตอร์ หรือระบบคอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวกับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยขอ งประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือการบริการสาธารณะ
หรือเป็นการกระทำต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือระบบคอมพิวเตอร์ที่ มีไว้เพื่อประโยชน์สาธารณะของทางธนาคารไปโดยทุจริตและเป็น การเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันกา รเข้าถึงโดยเฉพาะและ มาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน”
เบื้องต้นผู้ต้องหาให้ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการเร่งติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ร่วมกระทำผิดและอยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลไปยังผู้มีส่วนที่เกี่ยวข้อง.-412-สำนักข่าวไทย