ตร.ไซเบอร์ยันเครือข่ายมินนี่ เปลี่ยนชื่อเว็บไซต์ตบตา จนท.หลังพบทำผิดซ้ำ

บช.สอท. 5 มี.ค. – ตำรวจไซเบอร์ยัน “เครือข่ายมินนี่” เปลี่ยนชื่อเว็บไซต์ตบตาตำรวจ หลังพบทำผิดซ้ำ ขอเวลาตรวจสอบปมแชทคุยบุคคลสำคัญ หากพบหลักฐานเอี่ยวฟันไม่เลี้ยง พบทำกว่า 1 ปี มีเงินหมุนเวียน 200 ล้านบาท


พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ผบช.สอท. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงผลทลายเครือข่ายเจ้าแม่เว็บพนัน ถูกจับแล้วไม่เข็ดแถมยังกล้าถอนเงินจากเว็บ ขณะไปรายงานตัวที่ศาล

สืบเนื่องจากตำรวจได้ตรวจสอบพบเว็บไซต์การพนันออนไลน์เครือข่าย “Betflik” ประกอบด้วยเว็บไซต์ จำนวน 7 เว็บไซต์ คือ www.betflik101.com, www.betflix488.com, www.betflixspin.com, www.sabuy.bet, www.spinixgold.com, www.spinixup.net และ www.spinplay.com ได้ลักลอบเปิดเว็บไซต์การพนันออนไลน์ เปิดให้บุคคลทั่วไปสมัครเป็นสมาชิกและเข้าเล่นพนันออนไลน์จนเกิดการเสียทรัพย์สินกันจริง จึงได้ทำการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเกี่ยวกับเว็บไซต์การพนันออนไลน์เครือข่ายดังกล่าวเรื่อยมา


เมื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่า กลุ่มบุคคลที่เป็นผู้ทำหน้าที่ถอนเงินสดจากบัญชีรับผลประโยชน์จากเว็บการพนันออนไลน์เป็นกลุ่มคนเดียวกันกับกลุ่มผู้ต้องหาที่เคยถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวกับการจัดให้มีการเล่นการพนันออนไลน์มาก่อน ซึ่งอยู่ระหว่างการประกันตัวเพื่อต่อสู้คดี โดยกลุ่มผู้ต้องหายังได้มีการถอนเงินสดจากบัญชีรับผลประโยชน์จากเว็บการพนันออนไลน์ในขณะที่กำลังเดินทางไปรายงานตัวที่ศาลอีกด้วย ตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอาญาออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องกับเครือข่าย เว็บไซต์การพนันออนไลน์ 33 ราย แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้

กลุ่มแรกเป็นกลุ่มบริหาร จำนวน 7 ราย ได้แก่ น.ส.ธันยนันท์ หรือมินนี่ เป็นเจ้าของเว็บไซต์และผู้จัดให้มีการเล่นการพนันออนไลน์, น.ส.อรณี เป็นเลขา และผู้รวบรวมเงินจากเว็บการพนันออนไลน์มามอบให้เจ้าของเว็บไซต์ ส่วนนายยุคณเดช, นายชุมพล, นายชาญชัย, นายสิทธิพล และนายณัฐพงษ์ เป็นผู้ทำหน้าที่ถอนเงินสดจากบัญชีรับผลประโยชน์จากเว็บการพนันออนไลน์

กลุ่มที่ 2 เป็นกลุ่มเจ้าของบัญชีรับผลประโยชน์จากเว็บการพนันออนไลน์ จำนวน 26 ราย


จากการสืบสวนของตำรวจทราบว่าผู้ต้องหาตามหมายจับ ในกลุ่มบริหาร ซึ่งเป็นตัวการสำคัญของเครือข่ายเว็บไซต์การพนันออนไลน์พักอาศัยอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และ จ.เลย ตำรวจ บก.สอท.1 จึงได้สนธิกำลังกับ บก.สอท.3 สืบสวนติดตามกลุ่มผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าว และรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายค้นต่อศาล ซึ่งศาลได้ออกหมายค้นตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจร้องขอ

กระทั่งวันที่ 4 มี.ค.68 บก.สอท.1 และ บก.สอท.3 ได้ระดมกำลังเข้าตรวจค้นเป้าหมายพร้อมกันจำนวน 13 จุด จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ทั้งหมด 9 ราย ดังนี้ น.ส.ธันยนันท์ หรือมินนี่, น.ส.อรณี, นายยุคณเดช, นายชุมพล, นายชาญชัย, นายณัฐพงษ์, นายสิทธิพล, นายพัฒนวัสส์ และ น.ส.ธิดารัตน์ พร้อมตรวจยึดของกลาง เป็นโทรศัพท์มือถือ จำนวน 30 เครื่อง, เครื่องคอมพิวเตอร์ จำนวน 5 เครื่อง, บัตรเครดิตและ บัตรเดบิต จำนวน 32 ใบ, สมุดบัญชีธนาคาร 25 เล่ม และเอกสารและหลักฐานอื่นๆ ที่อาจเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดจำนวนหลายรายการ และในวันนี้สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้เพิ่มอีก 1 ราย ซึ่งเป็นบัญชีม้า รวมสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 10 ราย

ทั้งนี้ ได้แจ้งข้อหา ร่วมกันจัดให้มีการเล่นหรือทำอุบาย ล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่น หรือเข้าพนันในการเล่น ทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน, สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้ มีการทำผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน” ซึ่งฐานความผิดของผู้ต้องหาแต่ละรายจะ แตกต่างกันไปตามพฤติการณ์ และพยานหลักฐานในคดี จากนั้นตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน บก.สอท.1 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะสืบสวนขยายผล เพื่อติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ร่วมขบวนการมา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ด้าน พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า จากการสืบสวนสอบสวนพบว่าเครือข่ายเว็บไซต์ ‘Betflik’ และ ‘Spinnix’ มีทั้งหมด 7 เว็บไซต์ ที่ลักลอบเปิดให้เล่นการพนันตั้งแต่ปี 2567 และเมื่อชุดสืบสวนเข้าไปทำการทดลองเล่น สามารถเล่นได้เสียจริง จากนั้นจึงได้มีการตรวจสอบเส้นทางการเงินและพบว่าไปเกี่ยวข้องกับเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ชื่อดัง ที่ถูกจับกุมได้เมื่อปี 2566 โดยมีตัวละครแบ่งเป็น ผู้บริหารเว็บไซต์ 7 คน และเป็นผู้ร่วมขบวนการ 26 คน รวมทั้งหมด 33 คน

โดยเฉพาะ 7 คน ที่เป็นผู้บริหาร เคยถูกจับกุมเมื่อปี 2566 ไปแล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการประกันตัวในการต่อสู้คดี ซึ่งคดีของ น.ส.ธันยนันท์ และ น.ส.อรณี อยู่ในชั้น ป.ป.ช. อยู่ในระหว่างการไต่สวน ส่วนอีก 5 คนที่เหลือ ถูกสั่งฟ้องไปบ้างแล้วในชั้นอัยการ และบางคนอยู่ระหว่างการประกันตัว โดยในวันพรุ่งนี้ (6 มี.ค.) จะคุมตัวผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ทั้งหมด 10 คน ไปฝากขังที่ศาลอาญารัชดา และทำการคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นการทำผิดซ้ำไม่หลาบจำ

ด้าน พล.ต.ท.ไตรรงค์ อธิบายถึงพฤติการณ์ของการกระทำความผิดที่กลุ่มผู้ต้องหามีถึง 7 เว็บไซต์ ว่า กลุ่มผู้ต้องหาจะใช้ชื่อต้นในการจดโดเมนเนมหรือชื่อเว็บไซต์ที่เหมือนกัน และจะจดหลายๆ ชื่อ แต่จะเปลี่ยนตัวเลขหรือเปลี่ยนนามสกุล เพื่อป้องกันกรณีถูกจับจะได้ถ่ายโอนลูกค้าและเรียกลูกค้ากลุ่มเดิมกลับมา ทำให้ทางตำรวจยากต่อการสืบสวน แต่กรณีนี้ตำรวจสืบสวนธุรกรรมทางการเงินจนเชื่อมโยงถึงผู้กระทำความผิดทั้ง 33 คน โดยเฉพาะ 7 คนที่เป็นกลุ่มเดิม ทำหน้าที่เป็นผู้บริหารเว็บไซต์ทั้งการบริหารการเงิน บริหารบัญชีม้า และกลุ่มผู้รับผลประโยชน์ ซึ่งยืนยันว่าการกระทำผิดครั้งนี้เป็นการกระทำผิดครั้งใหม่ แต่เพียงแค่ใช้รูปแบบและวิธีการเดิม

ยืนยันได้ว่ามีพยานหลักฐานเพียงพอที่นำไปสู่การออกหมายจับ โดยเฉพาะ น.ส.ธันยนันท์ ที่พบว่ามีเส้นทางการเงินจากเว็บพนันหลายสายเข้าไปถึงน.ส.ธันยนันท์ โดยมี น.ส.อรณี ทำหน้าที่ทางบัญชีเหมือนกับในอดีต ซึ่งจากการตรวจสอบการกระทำความผิดตั้งแต่ปี 67 จนถึงปัจจุบัน พบมีเงินหมุนเวียนกว่า 200 ล้านบาท และยังหมุนเวียนเป็นเงินไทย วนอยู่ในกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 33 คน

ส่วนที่มีข้อมูลว่าตำรวจตรวจพบแชทสนทนาลักษณะขอความช่วยเหลือจากบุคคลสำคัญปรากฏในโทรศัพท์ของมินนี่นั้น ตอนนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน เนื่องจากมีข้อมูลจำนวนมาก และเพิ่งจับได้เมื่อวาน ดังนั้นจึงขอเวลาในการตรวจสอบ ยืนยันว่าหากข้อมูลหรือหลักฐานอะไรที่ไปเกี่ยวข้องหรือสัมพันธ์กับบุคคลใดก็ตาม จะดำเนินการโดยไม่ละเว้น ส่วนจะมีความพัวพันกับอดีตนายตำรวจหรือไม่นั้น ก็ต้องขอตรวจสอบรายละเอียดก่อน พร้อมย้ำว่าหากใครมีส่วนร่วมในการกระทำความผิดหรือให้การช่วยเหลือสนับสนุนในการกระทำความผิดก็จะพิจารณาดำเนินคดีทั้งหมด

สำหรับกรณีของ น.ส.ธันยนันท์ ที่คดีเก่าอยู่ที่ ป.ป.ช. และมีการกระทำผิดซ้ำ ทาง ป.ป.ช. จะพิจารณาถอนประกันหรือไม่ ก็เป็นอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช. ในการพิจารณา โดยจากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฏิเสธ โดยเฉพาะ น.ส.ธันยนันท์ ที่ขอให้การเป็นเอกสาร

ส่วนขบวนการดังกล่าวจะมีผู้อยู่เบื้องหลังหรือไม่นั้น ทางตำรวจไม่ตอบคำถาม แต่ย้ำว่ารอดูการตรวจสอบพยานหลักฐานหากเชื่อมโยงถึงใครจะไม่ละเว้น ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการเสนอปิดกั้น 7 เว็บไซต์การพนันดังกล่าว. -419- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ป.ป.ช.ตั้งองค์คณะไต่สวนจริยธรรมร้ายแรง “แพทองธาร” คลิปคุย “ฮุนเซน”

กทม. 14 ก.ค. – ป.ป.ช. มติเอกฉันท์ตั้งองค์คณะไต่สวนจริยธรรมร้ายแรงต่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ปมคลิปเสียงคุยกับ “ฮุน เซน” ที่สำนักงาน ป.ป.ช. วันนี้มีรายงานว่าคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ได้ประชุม และมีมติเป็นเอกฉันท์ให้แต่งตั้งองค์คณะไต่สวน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กรณีปรากฏคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งบริเวณแนวชายแดน ไทย-กัมพูชา โดยนายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข ประธานกรรมการ ป.ป.ช. และนายประภาศ คงเอียด กรรมการ ป.ป.ช. ร่วมเป็นองค์คณะไต่สวน การตั้งองค์คณะไต่สวนครั้งนี้ เป็นไปตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา51 ซึ่งเปิดช่องให้ ป.ป.ช. ตั้งกรรมการไม่น้อยกว่า 2 คนไต่สวนได้ในกรณีที่เกี่ยวข้องกับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับสูงมีผลกระทบต่อสาธารณะอย่างกว้างขวางหรือเกี่ยวพันกับองค์กรตุลาการ ก่อนหน้านี้ ป.ป.ช. มีมติรับเรื่องไว้พิจารณาเบื้องต้น และมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงภายใน 10 วัน โดยให้มีการถอดเทปคำสนทนาและจัดทำคำแปลจากภาษาต่างประเทศอย่างถูกต้อง ครอบคลุมการสอบพยาน และการศึกษา คดีเปรียบเทียบ เช่น […]

เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ลาสิกขา ปมโอน 13 ล้าน

พระนครศรีอยุธยา 14 ก.ค. – เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ สมัครใจลาสิกขา หลังโอนเงินกว่า 13 ล้าน ให้ “สีกากอล์ฟ” ยืนยันไม่มีสัมพันธ์เชิงชู้สาว แต่ยอมรับว่า “อ่อนต่อโลก” พระเทพพัชราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทำพิธีลาสิกขาด้วยความสมัครใจในวันนี้ ภายหลังจากเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ลงพื้นที่ตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัด พร้อมสอบปากคำพระเทพพัชราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสฯ นานเกือบ 3 ชั่วโมง พันตำรวจโท สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ท. เปิดเผยว่า อดีตเจ้าอาวาสฯ เต็มใจลาสิกขา เข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย เพราะจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของสีกากอล์ฟ พบว่า เส้นเงินถูกโอนจากบัญชีส่วนตัวของอดีตเจ้าอาวาสฯ ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่า เป็นเงินที่ได้มาจากการรับกิจนิมนต์และสอนหนังสือ โดยโอนไปให้สีกากอล์ฟ รวม 12.8 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีเงินจากบัญชีวัดอีก 3.8 แสนบาท ซึ่งมีทั้งโอนผ่านโทรศัพพ์และให้เป็นเงินสด เริ่มโอนตั้งแต่เดือนมกราคมไปจนถึงเดือนกรกฎาคม 2567 ซึ่งในเดือนเดียวกันพบว่าโอนให้สีกากอล์ฟ […]

แก๊งจีนดำลวงเพื่อนร่วมชาติเรียกค่าไถ่ สังหารโหด

เชียงราย 14 ก.ค. – ตำรวจเร่งคลี่คลายคดีแก๊งจีนดำฆ่าจีนเทา หลอกเพื่อนร่วมชาติมาเรียกค่าไถ่ที่เชียงใหม่ สังหารโหด และนำศพทิ้งกลางป่า ตำรวจพบศพนายหยาง อายุ 24 ปี สัญชาติจีน ถูกห่อด้วยถุงดำ และผ้าปูที่นอน แล้วใช้ผ้ายางพลาสติกห่อทับอีกชั้น ถูกนำมาทิ้งไว้ที่ป่าละเมาะข้างทางริมถนน ใกล้กับหมู่บ้านป่าเหว ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ โดยก่อนหน้านี้ ได้รับการร้องขอความช่วยเหลือจากพี่สาวของนายหยางให้ช่วยติดตามตัวน้องชาย หลังข้ามชายแดนมาจากเขตเศรษฐกิจพิเศษคิงส์โรมัน ในฝั่งลาว ผ่าน ตม.สบรวก อำเภอเชียงแสน ที่ จ.เชียงราย มาพร้อมกับนายฮูกัง เพื่อนชาวจีนอีกคนหนึ่ง โดยจ้างแท็กซี่เดินทางมายังเชียงใหม่ เมื่อ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมาและหายตัวไป ก่อนถูกเรียกค่าไถ่ 3 ล้านบาท เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ที่ผ่านมา พลตำรวจโทกฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า พบตัวนายฮูกัง เพื่อนชาวจีนที่เดินทางมากับนายหยาง และอ้างว่า ถูกนายซาง เบนซิน และนายหวังซวง นัดหมายให้พานายหยาง […]

“รมต.สุชาติ” เข้าพบสมเด็จฯ วัดไตรมิตร รับแนวทางแก้ปัญหาวงการสงฆ์

วัดไตรมิตร 14 ก.ค.- “รมต.สุชาติ” เข้าพบสมเด็จฯ วัดไตรมิตร รับแนวทางแก้ปัญหาวงการสงฆ์ ชี้ต้องร่วมมือกัน ทั้งตำรวจ-มส.-พศ. ย้ำต้องเร่งแก้ให้เร็วที่สุด ก่อนประชาชนหมดศรัทธา สั่งสำนักพุทธฯ ดูกฎหมายอาญา 206 เอาผิดสีกา ก. ได้หรือไม่ ย้อนถาม พศ. ทำไมไม่รู้ จี้ให้ทำงานเชิงรุก บอกหลัง 1 ต.ค.นี้ ทุกวัดต้องส่งรายงานการเงินทุกเดือนและทุกปี ตามกฎกระทรวงใหม่ นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางมายังวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เมื่อมาถึงได้เข้ากราบสักการะสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (สมเด็จธงชัย) เจ้าคณะใหญ่หนกลาง กรรมการมหาเถรสมาคม และผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ก่อนเข้ากราบนมัสการสมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก เพื่อรับแนวทางปฏิบัติ ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ภายหลังการเข้าพบสมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ) นานกว่า 30 นาที นายสุชาติ กล่าวว่า เรื่องสงฆ์ที่เกิดปัญหาอยู่ในขณะนี้ เป็นเรื่องที่มหาเถรสมาคม มีการประชุมตั้งแต่เมื่อวาน ซึ่งเป็นการประชุมเร่งด่วนฉุกเฉิน […]