ตร.ไซเบอร์เตรียมปิดเว็บเปิดเดิมพันเหตุการณ์สำคัญผ่านคริปโตฯ

บช.สอท. 14 ม.ค. – ตำรวจไซเบอร์เตรียมเสนอปิดเว็บไซต์ Polymarket.com เปิดเดิมพันเหตุการณ์สำคัญของโลก ผ่านคริปโตเคอร์เรนซี่ ด้าน ผบช.สอท.เผยแอปมือถือ 2 ค่าย เข้าข่ายผิด พ.ร.บ.คอมฯ


พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าวตำรวจไซเบอร์เตรียมเสนอปิดเว็บไซต์ Polymarket.com เปิดให้มีการเดิมพันเหตุการณ์สำคัญของโลก ผ่านคริปโตเคอร์เรนซี่

พล.ต.ท.ไตรรงค์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากกองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ได้ดำเนินการเฝ้าติดตาม เว็บไซต์การพนันออนไลน์ที่มีลักษณะเข้าข่ายผิดกฎหมายในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยพบว่าปัจจุบันมีการพัฒนาเข้าสู่ยุค เว็บ 3.0 และมีการนำคริปโตเคอร์เรนซี่ มาใช้เป็นสื่อกลางในการทำธุรกรรม ซึ่งเพิ่มความซับซ้อนและความยากในการตรวจสอบและติดตาม


จากการสืบสวนพบว่าเว็บไซต์ Polymarket.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ระดับโลกที่ให้บริการการทำนายผลหลากหลายประเภท เช่น การเมือง กีฬา บันเทิง และเศรษฐกิจ มีลักษณะเข้าข่ายการพนันออนไลน์ที่ผิดกฎหมายในประเทศไทย เนื่องจากการใช้คริปโตเคอร์เรนซี่ในการแลกเปลี่ยนและเดิมพันขัดต่อกฎหมาย ทั้งนี้ เว็บไซต์ดังกล่าวยังถูกปิดกั้นหรือควบคุมการเข้าถึงในหลายประเทศ เช่น ไต้หวัน ฝรั่งเศส และสิงคโปร์ เพื่อป้องกันผลกระทบต่อประชาชนและความมั่นคงของระบบเศรษฐกิจ

บช.สอท. เห็นว่าการดำเนินการระงับเว็บไซต์ Polymarket.com มีความสำคัญ เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อของการพนันออนไลน์ และเพื่อป้องกันการนำคริปโตเคอร์เรนซี่ไปใช้ในกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างร้ายแรง

สำหรับการเฝ้าระวังและความร่วมมือระหว่างประเทศ ทางตำรวจได้จัดตั้งทีมงานเฉพาะกิจเพื่อเฝ้าระวังและรวบรวมข้อมูล รวมถึงประสานความร่วมมือกับหน่วยงาน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันและปราบปรามเว็บไซต์ลักษณะดังกล่าว การดำเนินการนี้สะท้อนถึงความพยายามร่วมกันของนานาประเทศในการควบคุมและป้องกันกิจกรรมที่อาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย


ฝากเตือนประชาชนให้หลีกเลี่ยงการเข้าร่วมกิจกรรมบนเว็บไซต์ที่ไม่ได้รับอนุญาต และระมัดระวังการใช้คริปโตเคอร์เรนซี่ในทางที่ผิด หากพบข้อมูลหรือเบาะแสเกี่ยวกับเว็บไซต์ที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สายด่วน AOC 1441 หรือแจ้งความออนไลน์ที่ https://thaipoliceonline.go.th/

นอกจากนี้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ยังกล่าวถึงแนวทางการสกัดกั้นเกี่ยวกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ว่า จะมีการคัดกรองคนที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย ทาง ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ทางตำรวจคนตรวจคนเข้าเมือง ประสานการปฎิบัติกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภายในตำรวจเองก็จะมีตำรวจสันติบาลและตำรวจไซเบอร์ เพื่อที่จะรับทราบข้อมูลว่าบุคคลใดมีพฤติการณ์ที่ควรจะเฝ้าระวัง และน่าเชื่อว่าจะมาก่อเหตุในลักษณะของกลุ่มคอลเซ็นเตอร์ เช่น ใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน คือเดินทางมาที่ประเทศไทยโดยสายการบิน จากนั้นเดินทางต่อไปยังประเทศที่ 3 เพื่อไปประกอบการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ นอกจากนี้ก็ยังมีการสกัดกั้นในส่วนของคนไทยที่จะออกไปร่วมขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ประเทศเพื่อนบ้านเพื่อทำการหลอกคนไทยด้วยกัน โดยสกัดกั้นไม่ให้ออกเดินทางไปนอกประเทศได้ เพื่อเป็นการยับยั้งการก่อเหตุอาชญากรรมทางออนไลน์ ซึ่งก็จะมีการทำงานร่วมกันระหว่างตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจในพื้นที่แนวชายแดน ตำรวจตระเวนชายแดน และตำรวจไซเบอร์ รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารและปกครองในพื้นที่

ผบช.สอท.ยอมรับว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ปัจจุบันเป็นปัญหาของทุกประเทศทั่วโลก ในประเทศเราเองก็มีสแกมเซ็นเตอร์บ้าง แต่ที่ผ่านมาทางตำรวจเองก็มีการปราบปรามอย่างจริงจัง และมีการจับกุมได้อยู่ตลอด โดยส่วนมากประเทศไทยจะมีปัญหาเรื่องสแกมเซ็นเตอร์ที่อยู่เพื่อนบ้าน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องมีการสกัดกั้นทั้งตัวคนและสกัดกั้นสัญญาณโทรศัพท์ไม่ให้กระจายออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน และสกัดกั้นอุปกรณ์เครื่องมือเกี่ยวกับการสื่อสารไม่ว่าจะเป็นซิมบล็อก ไม่ให้นำมาใช้ในประเทศไทย และจะยกระดับความร่วมมือให้เป็นระดับภูมิภาค อย่างไรก็ตาม ในกรณีการหลอกเยาวชนไปทำงานแก็งคอลเซ็นเตอร์ก็มีการป้องกันโดยมีการสร้างความรับรู้ให้กับประชาชน

ส่วนกรณีแอปพลิเคชั่นที่มากับระบบปฏิบัติการมือถือของ 2 ค่ายดังนั้น พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า ทางตำรวจไซเบอร์เมื่อทราบข่าวก็ได้มีการตรวจสอบ พบว่าแอปพลิเคชั่นดังกล่าวมากับตัวปฏิบัติการคัลเลอร์โอเอส ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่กำหนดเอง พัฒนาโดยบริษัทของมือถือดังกล่าว โดยใช้พื้นฐานจากระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ แต่คันเลอร์โอเอส จะมาคลุมที่แอนดรอยด์อีกชั้นหนึ่ง และปรับแต่งรูปแบบแอปพลิเคชั่นให้แนบเนียนไปกับโทรศัพท์ ซึ่งแอนดรอยด์เวอร์ชั่น 15 ที่เป็นเวอร์ชั่นปัจจุบัน พบว่ามีแอปฟินอีซี่ และสินเชื่อความสุข ติดตั้งมากับโทรศัพท์ค่ายดังกล่าวด้วย โดยติดตั้งมาเอง ซึ่งผู้ซื้อโทรศัพท์ไม่ได้เป็นคนโหลดติดตั้งมา เมื่อพบว่าเป็นลักษณะนี้ ก็ต้องมาตรวจสอบว่าจะเข้าข่ายความผิดตามกฏหมายหรือไม่ ซึ่งการกระทำดังกล่าวก็จะเข้าข่ายความผิดตามกฏหมาย พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์มาตรา 13 จำหน่ายหรือเผยแพร่ชุดคำสั่งที่จัดทำขึ้นโดยเฉพาะเพื่อนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการกระทำความผิด มีโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีปรับไม่เกิน 20,000 หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งขณะนี้ทางตำรวจไซเบอร์ยังไม่ได้รับเรื่องจากผู้เสียหายในส่วนนี้ แต่หากมีผู้เสียหายอยากสอบถามถึงประเด็นการเข้าใช้งานต่างๆ เพื่อพิจารณาว่าเกิดความเสียหายขึ้นหรือไม่ และการเข้าใช้งานแอปเป็นอย่างไร เพื่อทำการพิจารณาว่าจะเข้าข่ายความผิดอื่นอีกหรือไม่. -419-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย

ทำเนียบ 10 มิ.ย.-นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย มอบ รมว.อุตสาหกรรม แก้ปัญหาราคา ก่อนประชุม ครม. ไม่ตอบคำถามสื่อปมเอกสาร รทสช.ขอปรับรัฐมนตรี จับตา ครม. ถกข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ก่อนประชุม JBC 14 มิ.ย.นี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ โดยก่อนการประชุม ประธานสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และคณะ เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐมนตรีติดตามการแก้ไขปัญหาของเกษตรกรมาโดยตลอด และมารายงานเรื่องนี้อย่างละเอียดอยู่ตลอด ตนทราบปัญหา ทางเกษตรกรจึงเน้นย้ำว่า ปัญหาจะแก้ไขได้ก็ต้องเป็นไปภายใต้การสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรี “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร” นายกรัฐมนตรี จึงไหว้รับขอบคุณ พร้อมกับกล่าวต่อว่า อะไรที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ก็พร้อมที่จะแก้ไขในทุกเรื่องอยู่แล้ว จึงอยากให้จัดระบบให้ดี เพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนทุกกลุ่ม ขณะเดียวกันเกษตรกรยังฝากรัฐบาลให้ไปดูแลในการรับซื้อใบอ้อย เนื่องจากเกษตรกรให้ความร่วมมือในการตัดอ้อยสด ทำให้นายกรัฐมนตรีถึงกับกล่าวแซว โห นี่จริงๆ ทำไมไม่ไปเป็นนักการเมือง ในสภาน่าจะเก่งเรื่องนี้ ทำให้เกษตรกรคนดังกล่าวกล่าวว่าลูกชายของตนเป็นนายก 6 สมัยรวด ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะกล่าวขอบคุณ และขอให้ทุกคน”รวยๆ […]

พญ. สังกัด รพ.ตำรวจ แอบสั่งยาเสียสาว ขายนอกระบบ

กทม. 10 มิ.ย. – ตำรวจ และ อย. ร่วมกันตรวจค้นแฟลตตำรวจ พร้อมคุมตัวแพทย์หญิงสังกัด รพ.ตำรวจ หลังพบหลักฐานสั่งซื้อยาเสียสาว มาขายนอกระบบ ตั้งแต่ปี 65 อ้างชื่อ 11 คลินิก เงินหมุนเวียนกว่า 80 ล้านบาท เตรียมขยายผลต่อถึงผู้เกี่ยวข้อง นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา, กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ลงพื้นที่แฟลตตำรวจแห่งหนึ่งย่านอารีย์ เขตพญาไท กรุงเทพ โดยได้รับรายงานจากนายแพทย์วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ว่าพบความผิดปกติในการสั่งซื้อยาอัลปราโซแลม หรือยานอนหลับ หรือ ยาเสียสาวที่ทำให้หลับและเคลิ้มไป ในทางสืบสวนสอบสวน พบว่า หมอคนนี้ สั่งซื้อยาจาก อย. ตั้งแต่ปี 2565-2568 15 ล้านบาท ทาง อย. เห็นความผิดปกติ จึงพูดคุยกับตำรวจและตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบมีการแอบอ้าง 11 คลินิกในการสั่งซื้อยา […]

สามียิงภรรยาดับคารถ ซอยเพชรเกษม 67

กทม. 10 มิ.ย. – ตำรวจปิดล้อมจับกุมสามีวัย 40 ยิงภรรยาวัย 36 เสียชีวิตคารถ ก่อนหนีไปหลบในบ้าน ซอยเพชรเกษม 67 ตรวจค้นที่เกิดเหตุพบอาวุธปืน 3 กระบอก ตำรวจ สน.เพชรเกษม รับแจ้งเหตุ พบศพภายในรถเก๋ง HRV ทะเบียนกรุงเทพมหานคร จอดอยู่ภายในซอยเพชรเกษม 67 แยก 8 เบื้องต้น ทราบชื่อผู้ก่อเหตุ คือ นายมีพาพัฒน์ อายุ 40 ปี สามี ส่วนผู้เสียชีวิต น.ส.นันทิชา อายุ 36 ปี ภรรยา ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่า ผู้ก่อเหตุยังอยู่ภายในบ้านพัก จึงตรึงกำลังปิดล้อมบ้านพักซึ่งลักษณะเป็นทาวน์เฮาส์ ระหว่างนั้นญาติของผู้ตายได้เดินทางมาเพื่อสอบถามเหตุ ทันทีที่รับรายงานจากตำรวจ ญาติก็มีสีหน้าเครียด น้ำตาคลอ ให้ข้อมูลว่านายมีพาพัฒน์ คบหากับผู้เสียชีวิตมาเป็นเวลาหลาย 10 ปี มีลูกด้วยกัน 3 คน ตำรวจปิดล้อมพื้นที่นานกว่า […]

ตั้งค่าหัว 1 แสน ไล่ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ

เชียงราย 9 มิ.ย. – ญาติสุดแค้น ตั้งค่าหัว 100,000 บาท ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังค้นหายังไร้ร่องรอย เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 32 (ตชด.32) นำ “โทมี่” สุนัขตำรวจ K9 พันธุ์ลาบราดอร์ เข้าร่วมภารกิจติดตามจับกุมนายซ้งปอ อายุ 55 ปี คนร้ายก่อเหตุฆ่าโหดอดีตภรรยาและน้องชายอดีตภรรยาเสียชีวิต ในพื้นที่บ้านร่มฟ้าผาหม่น หมู่ 15 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 และ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนหลบหนีเข้าป่าดอยผาหม่น ซึ่งเป็นภูเขาสูงชันและเต็มไปด้วยถ้ำและซอกเขา ทำให้ภารกิจไล่ล่ายากลำบาก แม้ใช้โดรนตรวจจับความร้อนทั้งกลางวันและกลางคืนก็ยังไม่พบตัว นายสุรชัย ผู้ใหญ่บ้านร่มฟ้าผาหม่น เปิดเผยว่า นายซ้งปอเป็นคนพื้นที่และมีความชำนาญเส้นทางป่า เคยหลบซ่อนตัวในป่านานถึง 2 เดือน โดยไม่มีใครเจอ และเป็นบุคคลอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปค้นหา ก่อนหน้านี้นายซ้งปอเคยขู่ฆ่าผู้นำชุมชนและชาวบ้านที่เคยมีส่วนไกล่เกลี่ยให้แยกทางกับภรรยา สร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ขณะนี้เหลือประชาชนอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเพียง 20-30% ส่วนที่เหลือพากันอพยพไปอยู่กับญาติในหมู่บ้านข้างเคียง เพื่อความปลอดภัย […]

ข่าวแนะนำ

ทหาร-ตร.วางกำลังแน่นตลอดแนวชายแดน จ.สระแก้ว

สระแก้ว 10 มิ.ย. – ทหารพราน-ตำรวจ วางกำลังแน่นตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา จ.สระแก้ว เพิ่มความเข้มงวดลาดตระเวน-ตั้งจุดตรวจคัดกรอง ขณะที่ตลาดโรงเกลือยังเปิดทำการ แต่บรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงา ด้านชาวบ้าน จ.บุรีรัมย์ เริ่มคลายกังวล ออกทำไร่ทำสวน ใช้ชีวิตปกติ บรรยากาศบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ อ.โคกสูง และ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ยังคงเคร่งครัดมาตรการรักษาความปลอดภัย โดยหน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 12-13 ตชด. จัดกำลังออกลาดตระเวนตลอดแนวชายแดน โดยเฉพาะพื้นที่บ้านหนองจาน ต.โคกสูง ซึ่งอยู่ใกล้แนวชายแดนเพียงไม่กี่กิโลเมตร นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ได้เพิ่มความเข้มในการตรวจสอบตามแนวถนนสีเพ็ญ เส้นทางที่เชื่อมชายแดนไทยกับกัมพูชา ใกล้ตลาดโรงเกลือ จุดยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจ แม้จะมีการวางกำลังแน่นหนา แต่ในช่วงเช้าวันนี้ (10 มิ.ย.) ตลาดโรงเกลือยังคงเปิดทำการตามปกติ พ่อค้าแม่ค้านำสินค้านานาชนิดมาวางขาย เช่น เสื้อผ้า รองเท้า และของใช้ทั่วไป มีประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินจับจ่ายซื้อของอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม บรรยากาศโดยรวมยังค่อนข้างเงียบเหงากว่าช่วงก่อนหน้า เนื่องจากความวิตกของนักท่องเที่ยวเกี่ยวกับความปลอดภัย หลังเกิดข้อพิพาทระหว่างไทยกับกัมพูชาในช่วงที่ผ่านมา ทั้งนี้ ทางการมีการปรับเปลี่ยนเวลาเปิด-ปิดด่านพรมแดน ส่งผลให้การเดินทางเข้า-ออกของนักท่องเที่ยวลดลงอย่างเห็นได้ชัด บรรดานักท่องเที่ยวจำนวนหนึ่งยังคงรู้สึกไม่มั่นใจในการเดินทางเข้ามาในพื้นที่ชายแดน […]

ปิดตำนาน “บิ๊กสุ” นายกรัฐมนตรีคนที่ 19 ของไทย

กรุงเทพฯ 10 มิ.ย. – พล.อ.สุจินดา คราประยูร นายกรัฐมนตรีคนที่ 19 ของไทย ถึงแก่อสัญกรรมด้วยโรคชรา สิริอายุ 91 ปี นอกจากบทบาททางการทหารแล้ว พล.อ.สุจินดา ยังมีส่วนสำคัญต่อสถานการณ์การเมืองไทย.-สำนักข่าวไทย

จ่อให้ออกจากราชการไว้ก่อน “พญ.” แอบอ้างสั่งยานอนหลับ

10 มิ.ย.- จ่อสั่งแพทย์หญิงคนดัง ให้ออกจากราชการไว้ก่อน กรณีถูกจับกุม แอบอ้างคลินิกสั่งซื้อยานอนหลับ พบก่อนหน้านี้เคยถูกสั่งตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง ปมเอี่ยวจีนเทา กรณีตำรวจ ปส. และ อย. เข้าตรวจสอบคลินิกสั่งซื้อยานอนหลับ ก่อนเชื่อมโยงถึงแพทย์หญิงคนดัง พร้อมจับกุมชายรายหนึ่ง ซึ่งรับเป็นผู้ดูแลห้องพักภายในแฟลตตำรวจ ยึดของกลางกลุ่มยานอนหลับ บรรจุอยู่ในกล่องลังกว่า 10 กล่อง เบื้องต้นพบเงินหมุนเงินกว่า 80 ล้านบาท และมีเงินหมุนเวียนร่วมกับบุคคลที่เกี่ยวข้องกว่า 400 ล้านบาท ล่าสุดมีรายงานข่าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรณีการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง จากการตรวจสอบพบว่า ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2565 มีผู้เสียหายร้องเรียนแพทย์หญิงคนดังเกี่ยวกับกรณีที่ผู้เสียหายได้นำเงินมามอบให้ เพื่อให้ช่วยต่อวีซ่าการพักอาศัยอยู่ในประเทศไทย ซึ่งอยู่ระหว่างกระบวนการฟ้องศาลคดีอาญา โดยศาลชั้นต้นสั่งจำคุก 7 ปี และมีการยื่นอุทธรณ์ ซึ่งทราบว่าสามารถตกลงกับคู่กรณีได้ อย่างไรก็ตาม กระบวนการทางวินัยยังคงดำเนินต่อ โดยทางโรงพยาบาลตำรวจ มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบวินัยร้ายแรงในกรณีนี้ และอยู่ระหว่างการนัดประชุมเพื่อพิจารณาผลวินัยร้ายแรงในเร็วๆ นี้ ส่วนกรณีที่มีการจับกุมสั่งซื้อ-ขายยานอนหลับ ในวันนี้ ล่าสุดชุดทำคดีได้ทำหนังสือส่งมายังต้นสังกัดว่า แพทย์หญิงคนดัง ตกเป็นผู้ต้องหาที่ 1 และมีความเห็นว่า หากให้รับราชการต่อไปอาจเกิดความเสียหายแก่ทางราชการ ซึ่งจะมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน เพื่อตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง […]

นายกฯ คุย “ฮุน เซน – ฮุน มาเนต” เห็นตรงยึดสันติวิธี

ทำเนียบ 10 มิ.ย.- นายกฯ ย้ำผลเจรจาชายแดนไทย-กัมพูชา เรียบร้อยดี เผยคุย “ฮุน เซน – ฮุน มาเนต” เห็นตรงยึดสันติวิธี งัดเทคนิค จริงใจเจรจา จนกัมพูชาปรับทัพ บอกรับทราบ “สนธิ” ยื่นหนังสือจี้รัฐบาลรักษาอธิปไตย ลั่นแก้ทีละปม ไม่เหมารวม MOU 44 พร้อมขอบคุณ จนท.ทุกหน่วย ขอ ปชช.มั่นใจไม่เกิดความรุนแรงแน่นอน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายผลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า เรื่องชายแดนไทย-กัมพูชา ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมารัฐบาลพยายามอย่างเต็มที่ในการคลี่คลายสถานการณ์ ที่มีความขัดแย้งกัน และปฏิบัติงานร่วมกันหลายภาคส่วน ซึ่งผลออกมาค่อนข้างสงบเรียบร้อยดี โดยในระดับนโยบาย รัฐบาลได้ให้หน่วยงานด้านความมั่นคง โดยเฉพาะกองทัพในพื้นที่ ประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ ตามกรอบความร่วมมือทวิภาคี ได้พูดคุยกันภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ ย้ำว่าทุกหน่วยงานได้มีการพูดคุยกัน ทั้งไทยและกัมพูชา และตนเองก็ได้พูดคุยกับพลเอกฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และสมเด็จฯฮุน เซน ประธานองคมนตรี ประธานวุฒิสภากัมพูชา ก็มีการประสานงานและเจรจากันเพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศ และผลประโยชน์สูงสุดของประชาชน […]