รวบสาววัย 20 เปิดบัญชีม้า รับจ้างแค่ 300 ถูกนำไปปั่นลงทุนในเฟซบุ๊ก

10 เม.ย. – กำไรที่ไม่มีอยู่จริง สืบนครบาลรวบอารียา บางไผ่ รับจ้างเปิดบัญชีม้า 300 บาท แต่ถูกนำไปปั่นลงทุนในเฟซบุ๊ก สูญกว่า 3.4 แสนบาท


นโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. รรท.ผบ.ตร. ,พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมทางออนไลน์ ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้เร่งทำการสืบสวนเพื่อติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหา ตามหมายจับเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการฉ้อโกลหลอกลวงประชาชนในสื่อสังคมออนไลน์ รวมถึง บัญชีม้า ที่เป็นโรคระบาดเชื้อร้ายทำร้ายความสงบสุขของประชาชนในสังคมในวงกว้าง

เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ได้สั่งให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.นิวัตน์ พึ่งอุทัยศรี รอง ผบก.สส.บช.น, พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ จันทราพิพัฒน์ รอง ผบก.สส.บช.น , พ.ต.อ.อดุลย์ ดอกพวง ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.ปกรณ์ ทองช่วง รอง ผกก.สส.4ฯ, พ.ต.ท.รัฐนันท์ สมวงศ์ รอง ผกก.สส.4ฯ ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ภัทร บุญอารักษ์ สว.กลุ่มงานสอบสวนฯ ช่วยราการ กก.4ฯ, ร.ต.อ.ณพวิทย์ ดิษฐ์ป้าน รอง สว.กก.สส.4ฯ , ร.ต.ต.เด่น ภูมิคอนสาร รอง สว. ดำเนินการจับกุม น.ส.อารียา อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดอ่างทอง ที่ 64/2567 ลงวันที่ 15 มีนาคม 2567


ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน“ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นผู้อื่น,โดยทุจริตนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน,เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝากโดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนโดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี,โอนรับโอนหรือเปลี่ยนสภาพทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดเพื่อซุกซ่อนหรือปกปิดแหล่งที่มาของทรัพย์สินนั้นและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่บุคคลสองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ”

พฤติการณ์ เมื่อวันที่ 4 พ.ย.2566 ผู้เสียหาย ได้เห็นโฆษณาใน Facebook ที่ใช้ซื้อบริษัท Facebook Shop ซึ่งอ้างว่าเป็นงานสั่งซื้อขายสินค้าในระบบ เพียงแค่เปิดหน้าเว็บไซต์ รอระบบ AI ทำการสั่งซื้ออัตโนมัติ 3-5 นาที ก็สามารถรับเงินปันผลเป็นกำไรได้ และได้รับค่าคอมมิชชั่น 10-50 % ของเงินฝาก โดยฝาก 1 ครั้ง และถอน *1 ครั้ง (เงินต้น + เงินปันผล) โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการชื่อ น.ส.พิไลรัตน์ เป็นผู้แนะนำระบบการทำงานการสร้างรายได้ และให้ทำการลงทะเบียนในเว็บ https://coupangthai666-job.com และผูกบัญชีเงินฝากของธนาคารกสิกรไทยไว้ในระบบ
ในครั้งที่ 1 โดยลงทุนไป 500 บาท สามารถถอนเงินลงทุ่นและเงินปันผลกำไรได้ 610 บาท
ในครั้งที่ 2 และ 3 เป็นเงิน 1,800 บาท และ 2,499 บาท ถอนเงินลงทุนและเงินปันผลกำไรในแต่ละครั้งกลับเข้าบัญชีที่ผูกไว้กับระบบได้เป็นเงิน 2,070 บาท และ 3,080 บาท ในครั้งที่ 4 เป็นเงินลงทุน 3,888 บาท ซึ่งจะได้เงินทุนและเงินปันผลกำไรคืนเป็นเงิน 5,054 บาท ซึ่งระหว่างระบบรอรับยอดเข้า ทาง คนร้ายได้แจ้งว่า ขณะนี้มีลูกค้าจำนวนมากเพื่ออำนวยความสะดวกให้ทุกท่าน คนร้ายทำภารกิจงานคู่ระดับเดียวกัน พอทำภาระกิจคู่ไปแล้ว ในครั้งที่ 4 ก็ไม่สามารถถอนเงินได้ ต้องทำภาระกิจต่อโดยการลงทุนเป็นเงิน 8,888 บาท จะได้เงินลงทุนและเงินปันผลกำไรคืน 18,386 บาท แต่เมื่อโอนเงินเพื่อทำภาระกิจให้เสร็จ ก็ยังไม่สามารถถอนเงินคืนได้ เพราะว่ายังเหลือภาระกิจสุดท้ายเป็นการโอนเงินยอด 28,888 บาท ซึ่งจะได้ผลตอบแทนเป็นเงิน 61,718 บาท ซึ่งเมื่อโอนเงินจำนวน 28,888 บาท ไปแล้ว ก็ยังไม่สามารถถอนเงินออกมาได้ ต้องชำระค่าขนส่งอีก 59,990 บาท ก่อนซึ่งจะสามารถถอนเงินคืนได้ทั้งหมดเป็นเงิน 151,703 บาท แต่แล้ว หลังจากโอนค่าขนส่งไปแล้วก็ยังไม่สามารถถอนเงินคืนได้ อ้างว่าลูกค้าถอนเงินไม่ตรงจำนวนกับระบบ ต้องทำอีก 2 ภารกิจเพื่อ ทำกการปลดล็อคระบบ โดยภาระกิจแรกต้องโอนเงิน 98,000 บาท และภาระกิจที่ 2 ต้องโอนเงินอีก 145,000 บาท ซึ่งหลังจากจบทั้งสองภาระกิจนี้แล้ว จะสามารถถอนเงินออกได้ทั้งหมดเป็นเงิน 428,703 บาท แต่เมื่อทำจบภาระกิจ ก็ยังไม่สามารถถอนเงินทั้งหมดออกมาได้ เนื่องจากระบบปฏิเสธการถอนเงิน โดยอ้างว่าได้ทำการตรวจสอบแล้ว พบว่าลูกค้าทำการสั่งซื้อเกินเวลา ต้องทำอีก 2 ภาระกิจเพื่อทำการปลดเป็นเงินทั้งหมด 196,000 บาท ซึ่วการกระทำดังกล่าวของคนร้ายเป็นการหลอกลวงให้โอนเงินโดยมีเงินปันผลกำไรเป็นสิ่งล่อใจ ผู้เสียหายจึงมาแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับคนร้าย จนกว่าคดีถึงที่สุด ความเสียหายในคดี 346,453 บาท นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เกษไชโย ภ.จว.อ่างทอง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ว่าตนเองได้เปิดบัญชีให้กับคนร้าย โดยรู้จักกันผ่าน Facebook เมื่อผู้เปิดบัญชีให้คนร้ายแล้วได้รับค่าจ้างจึงได้ส่งบัญชีไปให้คนร้าย ได้รับค่าตอบเเทนเป็นเงิน 300 บาท.-414-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ฆ่าควักหัวใจ

รวบชายชาวจีนฆ่าโหดคู่ขา กรีดหน้าอก ควักหัวใจ-ปอด

ตำรวจรวบชายชาวจีน ก่อเหตุสะเทือนขวัญฆ่าขู่ขาหมกห้องน้ำอพาร์ตเมนต์ กลางเมืองพัทยา พบร่องรอยถูกกรีดหน้าอก ควักหัวใจ ปอดหายไปข้างหนึ่ง

อุทาหรณ์! จอดรถยนต์ติดเครื่องไว้ เจอขโมยขับหนีหาย

อากาศร้อนเป็นเหตุ หนุ่มสตาร์ทเครื่องเปิดแอร์รถยนต์จอดไว้ ก่อนลงไปซื้อของ เดินออกมาอีกที เจอคนขโมยรถ ขับหนีหายไปแล้ว

ดับแล้ว 8 ราย รถชนบนมอเตอร์เวย์ อัดก๊อปปี้พังยับ

เกิดอุบัติเหตุใหญ่ช่วงกลางดึก บนมอเตอร์เวย์ สาย 7 มุ่งหน้าชลบุรี รถเทรลเลอร์ 2 คัน กับเอสยูวีอีก 1 คัน คนในรถเอสยูวี เสียชีวิต 8 ราย

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ไข้กลับอ่อนเพลีย หลังลงพื้นที่ท่ามกลางอากาศร้อนอบอ้าว

นายกฯ ไข้กลับ มีอาการอ่อนเพลีย หลังลงพื้นที่ท่ามกลางอากาศร้อนอบอ้าวทั้งวัน ก่อนนั่งหัวโต๊ะประชุมแก้ปัญหายาเสพติดข้ามแดน บอก ราคายาเสพติดแพงขึ้น สะท้อนผลการปราบปราม เน้นย้ำ ให้ความรู้ – โทษ แก่เด็ก และเยาวชน พร้อมให้โอกาสผู้เสพกลับคืนสังคม

นายกฯไปสกล

นายกฯ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำบึงหนองหาร

นายกฯ ลงพื้นที่ สกลนคร-นครพนม ก่อนประชุม ครม.สัญจร ติดตามสถานการณ์น้ำบึงหนองหาร แนะหน่วยงานลิสต์ปัญหาให้ชัดเจน หลังพื้นที่สะท้อนระบบนิเวศเสื่อมโทรม บึงตื้นเขิน ขณะ ม.เกษตร ของบฯ 50 ล้านบาท ตั้งศูนย์ Wellness Center ภาคอีสาน ดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ได้เบาะแสเพิ่ม โจร 30 วิ ล็อกเป้าชิงทอง 1.6 ล้าน

เหตุคนร้ายสวมชุดไรเดอร์ควงปืนปลอม ชิงทองมูลค่า 1.6 ล้าน กลางห้างอุดรฯ ชุดสืบยังเร่งแกะรอยล่า ยืนยันได้วงจรปิดเส้นทางมาชิงทองและเส้นทางหนีแล้ว มั่นใจคนร้ายล็อกเป้ามาชิงทองร้านนี้ร้านเดียว

ป่วนใต้

คนร้ายซุ่มโจมตี ยะลา-ปัตตานี อส.ดับ 2 เจ็บ 1

คนร้ายซุ่มโจมตีเจ้าหน้าที่ อส. ต่อเนื่อง 2 จุด ในพื้นที่ยะลาและปัตตานี เจ้าหน้าที่ อส. เสียชีวิต 2 นาย บาดเจ็บ 1 นาย พร้อมวางเพลิงเผารถยนต์และยิงถล่มฐานปฏิบัติการอย่างอุกอาจ