กรุงเทพฯ 4 เม.ย. – รวบ ‘ผู้หมวดไซเบอร์’ ใช้บ้านพักเป็นแหล่งผลิต-ประกอบอาวุธปืนแรงดันสูง ส่งขายผ่านออนไลน์ ผู้บัญชาการไซเบอร์ ทราบเรื่อง สั่งตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบผิดจริงไม่ละเว้น เอาผิดทั้งวินัย-อาญา
พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ (ตำรวจไซเบอร์) นำกำลัง จนท. เข้าตรวจค้น บ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้าน ต.บางรักน้อย อ.เมือง จ.นนทบุรี หลังสืบทราบว่าใช้เป็นสถานที่ในการจำหน่ายอาวุธปืนผ่านทางออนไลน์ โดยที่เกิดเหตุเป็นบ้านทาวน์เฮาส์สองชั้น ของ ร.ต.ท.ปัณณทัต อายุ 35 ปี ตำแหน่ง รอง สว. ในสังกัด สอท. หรือ ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งขณะเข้าค้นกำลังแพ็กอาวุธปืนเพื่อจัดส่งทางไปรษณีย์ให้กับลูกค้า ซึ่งจากการตรวจค้นภายในบ้าน พบอาวุธปืนยาวอัดลม 3 กระบอก เครื่องประกอบอาวุธปืนอีกจำนวนมาก อาทิ พานท้ายปืน 100 ชิ้น, ลำกล้องปืนสไนเปอร์ 150 ชิ้น ชุดยิง 47 ตัว กระสุนหัวร่มกว่า 200 นัด จึงตรวจยึดไว้
พล.ต.ท.วรวัฒน์ เปิดเผยว่า การตรวจค้นครั้งนี้สืบเนื่องจากข้อสั่งการของ นายกรัฐมนตรี ให้เร่งปราบปรามอาชญากรรมทางออนไลน์ให้มีผลชัดเจนใน 30 วัน ประกอบกับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยระดมกวาดล้างอาชญากรรมโดยเฉพาะในช่วงก่อนเทศกาลสงกรานต์ กระทั่งพบว่ามีการนำเสนอขายอาวุธปืนยาวอัดลมแรงดันสูง ผ่านทางยูทูบช่องหนึ่ง และมีผู้สนใจติดต่อสั่งซื้อผ่านไอดีไลน์ของช่องซึ่งมีสมาชิกกว่า 6,200 คน ผู้ติดตามกว่า 2,500 คน เจ้าหน้าที่จึงสืบสวน และรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเข้าตรวจค้นในวันนี้
ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าทำมาแล้ว 3 ปี ด้วยความชื่นชอบอาวุธปืน จึงการศึกษาและทดลองสั่งอุปกรณ์มาจากทางออนไลน์ มาประกอบขายให้กับกลุ่มลูกค้า ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคอีสาน มีลูกค้าสนใจสั่งซื้อเฉลี่ยเดือนละ 20-30 กระบอก ราคากระบอกละ 15,000 บาท ทำให้มีรายได้กว่า 300,000 บาทต่อเดือน
สำหรับอาวุธปืนอัดลมที่ตรวจยึดนั้น แม้ไม่ใช่อาวุธปืนจริง แต่หากนำมาใช้งานก็เป็นอันตรายแก่ชีวิต ซึ่งการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน แจ้งข้อหาข้อหาจำหน่ายอาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนโดยไม่ได้รับอนุญาต, ทำ ประกอบ ซ่อมแซม เปลี่ยนลักษณะ สั่ง นำเข้า มี หรือจำหน่ายซึ่งอาวุธหรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต และครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และ มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป .-สำนักข่าวไทย