จับตาบ่ายนี้ “บิ๊กต่อ” ส่งทนายฟ้อง “ทนายตั้ม” หมิ่นประมาท

กรุงเทพฯ 29 มี.ค. – บ่ายวันนี้ (29 มี.ค.) จับตา “บิ๊กต่อ” ส่งทนายความยื่นฟ้อง “ทนายตั้ม” ข้อหาหมิ่นประมาท หลังถูกพาดพิงจากการที่ “ทนายตั้ม” ออกมาแฉเส้นทางการเงินเว็บพนันออนไลน์โยงบิ๊กตำรวจ


มีรายงานว่าเวลา 13.30 น. วันนี้ (29 มี.ค.67) ทีมกฎหมายของ “บิ๊กต่อ” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะยื่นฟ้อง “ทนายตั้ม” นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ในคดีอาญาและคดีแพ่ง ข้อหา “หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา” ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้

ก่อนหน้านี้ นายสุธีพงศ์ ชีวิตเจริญ หนึ่งในทีมทนายความของบิ๊กต่อ บอกว่าจะมีการแถลงข่าวและไปฟ้องทนายตั้ม จากกรณีออกมาเปิดเผยข้อมูลหลักฐานที่เชื่อมโยงไปถึงบิ๊กต่อ จนทำให้ได้รับความเสียหายหลายอย่าง ทั้งครอบครัว หน่วยงานที่ดูแล และวัดต่างๆ โดยยืนยันจะมีการแถลงข่าวข้อเท็จจริงทั้งหมดที่ด้านหน้าศาล


นายสุธีพงศ์ บอกด้วยว่าบิ๊กต่อไม่ได้เครียดอะไร เพราะมันไม่มีหลักฐานอยู่แล้ว ยืนยันได้ว่าท่านไม่ได้ทำตามข่าวที่ออกไป

ส่วนการยื่นฟ้องครั้งนี้จะสู้อย่างไร เพราะทนายตั้มมีหลักฐานเส้นทางการเงิน ทั้งการเก็บส่วย 18 ประเภท และข้อมูลต่างๆ นายสุธีพงศ์ ตั้งคำถามกลับว่าเรื่องนี้ประเด็นหลักคือ เรื่องที่มาของเอกสารเป็นสิ่งสำคัญว่าได้มาอย่างไร เพราะไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆ จะเอาข้อมูลของใครมาเปิดก็ได้ แล้วมีคดีเกิดขึ้นแล้วหรือยัง และข้อมูลที่ได้มาเป็นของจริงหรือไม่ ได้มาโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ตรงนี้ต้องตรวจสอบก่อน ไม่ใช่ว่าใครนำอะไรมาเสนอก็เชื่อไปหมดว่าต้องเป็นไปตามนั้น ตรงนี้ต้องระมัดระวัง ยิ่งข่าวที่ออกไปตอนนี้ ทำให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก เราจึงต้องจัดการตรงนี้

“ประธาน ป.ป.ช.” ไม่หนักใจทำคดี “บิ๊กโจ๊ก” ลั่นต้องชัดเจนโปร่งใส
ส่วนคดีของ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กับพวก ที่ถูกกล่าวหาเรียกรับผลประโยชน์จากเว็บพนันออนไลน์ ทาง พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. ย้ำว่าเรื่องนี้ ป.ป.ช. มีมติไปแล้วว่าจะพิจารณาเอง เพราะถือเป็นเรื่องร้ายแรง จึงอยู่ในอำนาจหน้าที่ของกรรมการ ป.ป.ช. ที่จะต้องไต่สวน ซึ่งต้องรอให้เจ้าหน้าที่หาข้อเท็จจริงและดำเนินการก่อน ส่วนจะใช้เวลานานแค่ไหน ต้องเป็นไปตามกระบวนการ เมื่อรับเข้ามาก็ต้องมีการตรวจสอบ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้รับเอกสาร หากมีพยานหลักฐานเพียงพอ ก็ต้องตั้งไต่สวน ซึ่งทำได้ 2 กรณี โดยตอนนี้ไม่มีอนุกรรมการเหมือนอดีต ถ้าเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญมีผลกระทบเกี่ยวกับผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูงจะเป็นกรรมการไต่สวนโดยใช้กรรมการ 2 คน แต่หากเห็นว่าเป็นเรื่องใหญ่มากๆ จะให้คณะกรรมการทุกคนเป็นผู้ไต่สวน ดังนั้น เมื่อ ป.ป.ช. มีมติรับเรื่องกลับมาดู เอกสารทั้งหมดจะต้องส่งมาที่ ป.ป.ช. จากนั้นจะต้องมาดูว่าเอกสารมีพยานหลักฐานอะไรบ้างที่จะดำเนินการ จะเข้าสู่กระบวนการไต่สวนของ ป.ป.ช.


ส่วนกรณีที่ “ทนายตั้ม” ษิทรา เบี้ยบังเกิด ออกมาเปิดข้อมูลเพิ่มเติม จะนำมาประกอบการพิจารณาหรือไม่นั้น ประธานกรรมการ ป.ป.ช. บอกว่าตอนนี้ยังไม่มีการยื่นข้อมูลมา หากส่งมา ทาง ป.ป.ช. จะพิจารณา ซึ่งเรื่องที่ปรากฏเป็นข่าว แม้บางเรื่องจะมีการร้องทุกข์กล่าวโทษ แต่ข้อมูลยังไม่มาที่ ป.ป.ช. ยังไม่สามารถพิจารณาได้

ประธานกรรมการ ป.ป.ช. ยืนยันไม่หนักใจในการทำคดี แม้ “บิ๊กโจ๊ก” จะเป็นตำรวจรุ่นน้อง เพราะทุกอย่างต้องขึ้นอยู่ที่พยานหลักฐาน ที่สำคัญคือต้องให้ความเป็นธรรม พร้อมย้ำว่าจะไม่ปล่อยให้เรื่องเงียบ เพราะเป็นเรื่องที่สำคัญและประชาชนให้ความสนใจ ป.ป.ช. จะต้องทำให้ชัดเจนและมีความโปร่งใส

เลขาธิการต่อต้านคอร์รัปชัน ชี้นายกฯ ต้องมีคำตอบปม 2 บิ๊กตำรวจ
มีความเห็นจากเลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) นายมานะ นิมิตรมงคล ถึงประเด็นร้อนระหว่างบิ๊กต่อ และบิ๊กโจ๊ก ที่ตอนนี้แม้ทั้งคู่จะถูกสั่งย้ายไปสำนักนายกรัฐมนตรี และมีการตั้งกรรมการสอบสวน แต่ยังมีบุคคลอื่นออกมาแฉข้อมูลต่อเนื่อง เรื่องนี้ เลขาธิการองค์การการคอร์รัปชัน บอกว่าทางออกคือต้องทำให้เกิดความกระจ่างชัดโดยเร็วที่สุด ซึ่งจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากนายกรัฐมนตรีในฐานะผู้บริหารสูงสุด และยังเป็นประธาน ก.ตร. ที่จะต้องหาคำตอบให้เกิดความกระจ่างชัด จะซุกขยะไว้ใต้พรมไม่ได้ พร้อมยกตัวอย่างในฮ่องกง ซึ่งได้รับการยอมรับเรื่องการปราบทุจริตก็เริ่มต้นด้วยการขจัดทุจริตในวงการตำรวจ โดยมีการลงโทษตำรวจระดับสูงอย่างเด็ดขาด

เช่นเดียวกันในประเทศไทย ซึ่งมีตำรวจประมาณ 220,000 นาย หากจะมีการปลดตำรวจที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต 2,000 คน แล้วทำให้วงการตำรวจดูสูงขึ้น ก็น่าจะเป็นประโยชน์ต่อวงการตำรวจและประเทศไทย

ส่วนคณะกรรมการสอบสวนที่นายกรัฐมนตรีตั้งขึ้นจะต้องมีคำตอบที่ชัดเจน ไม่ใช่ถูกมองว่าเป็นพรรคพวกเดียวกัน และหากเป็นไปได้อยากให้มีการตั้งคณะกรรมการชุดใหญ่ที่มีความหลากหลาย เพื่อให้เกิดการยอมรับในผลการสอบสวน เพราะทุกเรื่องมีการกล่าวหากันไปมา รวมถึงเส้นทางการเงินต่างๆ ควรต้องมีคำตอบที่ชัดเจนให้กับสังคม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ครม.แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​-​คดีพิเศษ-​พศ.

ทำเนียบฯ 24 ก.ย. – ครม. แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ มอบ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​ -​ คดีพิเศษ -​ สำนักพุทธฯ​ ขณะที่ “เอกนิติ​” คุมพาณิชย์​ -​ สำนักงบฯ ด้าน “ธรรมนัส​” คุมท่องเที่ยว​ -​ เกษตร​ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี​นัดพิเศษ นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย​ มีมติแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรี​ 6 คน​ ประกอบด้วย นายพิพัฒน์​ รัชกิจประการ​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ดูแลกระทรวงคมนาคม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพลังงาน​ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์​แห่งชาติ​ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒฒาพิเศษ​ภาคตะวันออก​ (อีอีซี) นายโสภณ​ ซารัมย์​ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลด้านสังคม​ กระทรวงแรงงาน กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ​ (ส​ทนช.) […]

ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างหน้าวชิรพยาบาล แนะเลี่ยงเส้นทาง

24 ก.ย.- ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างบริเวณหน้าวชิรพยาบาล จนท.เร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วย-ประชาชนใกล้เคียง ออกนอกพื้นที่เสี่ยง แจ้งเตือนหลีกเลี่ยงเส้นทางอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจร ช่วงประมาณ 07.13 น. ศูนย์วิทยุพระราม199 รางานเหตุถนนทรุดตัวเป็นบริเวณกว้างใกล้เคียงอาคารของโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยสามเสน ถึงที่เกิดเหตุ ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นถนนทรุดตัวขนาดใหญ่ เป็นหลุมกว้าง 30 x 30 เมตร ลึก 50 เมตร ทรุดตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งบริเวณหน้าโรงพยาบาลและหน้าสถานีตำรวจสามเสน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและประชาชนใกล้เคียง ออกจากจุดที่เกิดเหตุ ล่าสุดสำนักงานเขตดุสิต แจ้งปิดการจราจรแยกวชิรพยาบาล – แยกซังฮี้ และบริเวณใกล้เคียงโดยรอบ เนื่องจากเหตุผิวจราจรทรุดตัวส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณูปโภคโดยรอบ และอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจรใกล้เคียงได้ -สำนักข่าวไทย

ครม. ตั้ง “ไตรศุลี” นั่งเลขาธิการนายกฯ อายุน้อยที่สุด

ทำเนียบ24 ก.ย. – ครม.นัดพิเศษ ตั้ง “ไตรศุลี ไตรสรณกุล” เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ วันนี้ (24 ก.ย.) มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม ครม. มีมติแต่งตั้งให้นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี หรือเรียกกันว่า “นายกฯ น้อย” ถือเป็นตำแหน่งสำคัญ ต้องคอยสนับสนุนการทำงานของนายกรัฐมนตรี รวมถึงการบริหารจัดการงานทั่วไป และประสานงานให้กับนายกรัฐมนตรีโดยตรง นอกจากนี้ ยังเป็นตำแหน่งที่จะต้องรวบรวมวิเคราะห์ และกลั่นกรองข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำเสนอความเห็นประกอบการพิจารณา และการสั่งการของนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม นางสาวไตรศุลี ถือเป็นผู้ที่รับตำแหน่ง เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ปัจจุบันนางสาวไตรศุลี อายุ 35 ปี และเป็นลูกสาวของ นายวิชิต ไตรสรณกุล นายก อบจ.ศรีสะเกษ จบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเริ่มต้นการทำงานทางการเมืองด้วยการดำรงตำแหน่งรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี […]

เจ้าของห้องคอนโด ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด

23 ก.ย. – เจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวายทำลายทรัพย์สิน ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษ หนุ่มเจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวาย ทำลายทรัพย์สิน รวมถึงใช้อาวุธมีดมาเคาะประตูเชิงข่มขู่กลางดึก เปิดใจว่าขณะเกิดเหตุตกใจกลัวมาก หากประตูพังอาจเกิดเหตุไม่คาดคิด ต้องวิ่งไปหลบในห้องนอนและเอาของมาวางกั้นไว้ แต่ก็ยังโทรฯ หาตำรวจและแจ้งนิติบุคคลคอนโด แต่ก็ไม่มีใครขึ้นมา ตอนนี้ต้องย้ายที่อยู่ชั่วคราวและลางาน เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย โดยมีหลายคนที่เจอเหตุการณ์เหมือนกับตนเอง ส่วนทางคู่กรณี ตนอยากจะบอกว่า ถ้าหากมีอาการจิตเวชจริงก็ขอให้เข้ารับการรักษา ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษเพราะเกินเวลานั้นมานานแล้ว ยืนยันจะดำเนินการตามกฎหมาย เพราะสุดท้ายแล้วเชื่อว่ากฎหมายจะให้ความเป็นธรรมกับตนได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

สีสันวันมงคล ครม.

26 ก.ย. – นายกรัฐมนตรีถือฤกษ์ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล ในโอกาสเข้าไปปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการครั้งแรก ขณะที่ยังมีรัฐมนตรีอีกหลายคนเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เช่นเดียวกัน แต่ละคนถือเคล็ดต่างกันไป สีสันวันมงคล ครม. -สำนักข่าวไทย

จารึกนาม “16 ทหารกล้า” แนวหน้าชายแดนไทย-กัมพูชา

26 ก.ย. – กองทัพบก จัดพิธีจารึกนาม และสดุดีกำลังพล ผู้สละชีพเพื่อชาติ จากกรณีพิพาทชายแดนไทย–กัมพูชา อย่างสมเกียรติ.-สำนักข่าวไทย

รอปูนแข็งตัว 6 ชม. แล้วเทซ้ำ วนไปจนถึงวันอาทิตย์

กทม. 26 ก.ย. – ผู้รับเหมาปรับแผน การเทปูนลงหลุมยักษ์ เป็นการเทตามวงรอบ 6 ชั่วโมง เว้น 6 ชั่วโมง เพื่อให้ปูนแข็งตัว โดยปูนที่เทลงไปก่อนหน้าได้ไปอุดช่องโหว่ในจุดที่จะเสี่ยงให้เกิดดินสไลด์ได้ทั้งหมด 100% แล้ว คาดการเทปูน จะจบตามแผนภายในวันอาทิตย์นี้.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย