กรมสอบสวนคดีพิเศษ 13 ก.พ. – ดีเอสไอประชุมร่วมกับพนักงานอัยการ ดำเนินคดีกับเครือข่าย “โกฟุก” ฐานฉ้อโกงภาษีน้ำมันทำรัฐเสียหายกว่าหมื่นล้านบาท
พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นประธานการประชุมร่วมระหว่างคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษและพนักงานอัยการตามที่อัยการสูงสุดมอบหมาย ในคดีพิเศษที่ 116/2563 โดยมีนายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน และคณะพนักงานอัยการร่วมสอบสวน ร่วมประชุมด้วย
สืบเนื่องจากกรมสอบสวนคดีพิเศษได้มีการสอบสวนดำเนินคดีพิเศษกรณีกลุ่มผู้บริหารและผู้ประกอบกิจการปิโตรเลียม กระทำความผิดเกี่ยวกับปิโตรเลียมโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ ต่อมาจากการสอบสวนพบว่าความผิดบางส่วนเกิดนอกราชอาณาจักรจึงได้หารือไปยังอัยการสูงสุด ว่าคดีพิเศษที่ 116/2563 เข้าข่ายเป็นความผิดนอกราชอาณาจักร ซึ่งอัยการสูงสุดหรือผู้รักษาการแทนเป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบหรือไม่ ต่อมาสำนักงานอัยการสูงสุด ได้มีหนังสือแจ้งว่าอัยการสูงสุดพิจารณาแล้วเห็นว่า ความผิดตามข้อกล่าวหาดังกล่าวเป็นความผิดซึ่งมีโทษตามกฎหมายไทยได้กระทำลงนอกราชอาณาจักรไทยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 20 จึงมอบหมายให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษคนหนึ่งคนใดในกรมสอบสวนคดีพิเศษทำการสอบสวน และมอบหมายให้นายฉัทปณัย รัตนพันธ์ อัยการผู้เชี่ยวชาญ นายปกาศิต เหลืองทอง อัยการพิเศษฝ่าย สำนักงานคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร ช่วยราชการสำนักงานการสอบสวน ปฏิบัติราชการในหน้าที่อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 2 สำนักงานอัยการพิเศษ ฝ่ายการสอบสวน 2 และนายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน คนใดคนหนึ่งทำการสอบสวนร่วมกับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ และให้อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือผู้รักษาการแทนเป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ
คดีนี้เกี่ยวข้องกับเครือข่าย “โกฟุก” ที่น่าเชื่อว่าทำให้รัฐเสียหายกว่า 10,000 ล้านบาท และเชื่อมโยงกับกรณีคดีฟอกเงินจากการพนันออนไลน์ ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ปฏิบัติการตรวจค้นไปก่อนหน้านี้ และมีหนังสือแจ้งให้กรมสรรพากรและกรมสรรพาสามิตตรวจสอบภาษีและให้มาร้องทุกข์ กล่าวโทษดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดแล้ว ในส่วนของข้อมูล ใบขนสินค้าขาออกได้รับจากกรมศุลกากรเพื่อนำมาใช้เป็นพยานหลักฐานแล้วบางส่วน และที่ประชุมยังได้มีการหารือ วางแนวทางในการสอบสวนและการรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งรัดดำเนินคดีกับกลุ่มผู้กระทำความผิดต่อไป.-119-สำนักข่าวไทย