ตร.เร่งล่าแก๊งทรายทอง เยาวชนป่วนเมือง

กทม. 21 ม.ค.- ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ เตรียมตั้งชุดเฉพาะกิจไล่ล่าปราบปราม “แก๊งทรายทอง” หนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นที่สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านมานานหลายปี ล่าสุดมีผู้เดือดร้อนเข้าขอความช่วยเหลือจากเพจดัง เพราะแจ้งตำรวจแต่ไม่มีความคืบหน้า

การล่าตัวแก๊งทรายทอง สืบเนื่องมาจากหญิงอายุ 45 ปี และลูกชาย อายุ 13 ปี สองแม่ลูก ได้เข้าร้องเรียนกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ว่า เมื่อวันที่ 10 ม.ค.67 ลูกชายถูก “นายตี๋ ท่าทราย” หัวหน้าแก๊งทรายทอง และพวก 7 คน รุมทำร้าย ที่หมู่บ้านในซอยสามัคคี จนบาดเจ็บ ดั้งหัก แก้วหูแตก เลือดช้ำในปอด ต้องผ่าตัด


โดยเด็กชายวัย 13 ปี บอกว่า ตนพูดคุยเคลียร์ปัญหาระหว่างเพื่อนสาวกับแฟนเก่า แต่ตกลงกันไม่ได้ นายตี๋ หัวหน้าแก๊งทรายทอง จึงสั่งให้ต่อยกันตัวต่อตัว แต่ไม่ทันได้ต่อย ตนกลับถูกแก๊งทรายทองรุมทำร้ายอย่างรุนแรง และบังคับห้ามบอกแม่ แต่สุดท้ายต้องยอมบอกแม่ เพราะถูกคาดคั้น หลังจากนั้นแก๊งทรายทองได้แชทมาข่มขู่ว่าจะเผาบ้าน แม่กับตนกลัวมาก จึงเข้าแจ้งความ แต่คดีไม่คืบหน้า จึงเดินทางมาขอความช่วยเหลือจากเพจสายไหมต้องรอด

ทั้งนี้ แก๊งทรายทอง จะใช้ลานออกกำลังกายของหมู่บ้านใน ซ.ติวานนท์ 45 ต.ตลาดขวัญ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี  เป็นที่รวมตัว ซึ่งมีข้อมูลจากชาวบ้านด้วยว่า แก๊งนี้มีพฤติการณ์อุ้มเด็กและชาวบ้านในพื้นที่มารุมทำร้าย และเคยพาผู้หญิงมารุมกระทำชำเรา ชอบเกาะกลุ่มโวยวาย มั่วสุมทุกคืน บางวันรวมตัวกว่า 20 คน เคยมีคนไปตักเตือนก็ถูกยางรถจักรยานยนต์ปาใส่   

ด้านนายภูมิ อายุ 18 ปี อดีตสมาชิกของแก๊งที่ถูกรุมทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส เล่าว่า เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา ตนถูกคู่กรณีขี่รถจักรยานยนต์ตาม ใช้ไม้กอล์ฟตีที่ศีรษะ และใช้มีดฟันซ้ำ ซึ่งคู่กรณีกล่าวหาว่าตนโยนอาวุธปืน ระเบิด ให้กับรุ่นพี่ในกลุ่ม ต้องเก็บตัวนานกว่า 1 เดือน ส่วนตัวไม่ทราบว่าหัวหน้าแก๊งคือใคร รู้แค่ว่าคนที่เข้ามาทำร้ายตน คือ นายตี๋ และนายเบื้อง กลุ่มนี้มีพฤติกรรมชอบไปไล่ตีคนแถวบางบัวทอง โดยการสุ่ม ทั้งปาระเบิด ยิง รุมทะเลาะวิวาท เพื่อสร้างชื่อเสียง สมาชิกในกลุ่มมีนับร้อยคน ตั้งแต่อายุ 13-วัยผู้ใหญ่ ส่วนอาวุธที่ใช้ก่อเหตุก็ดูและทำตามยูทูบ และก่อนที่ตนจะถอนตัวจากกลุ่ม ก็เคยโดนขู่ฆ่า อยากฝากเตือนเพื่อนๆ ที่ยังอยู่ในแก๊งว่าให้เลิกพฤติกรรมแบบนี้ เพราะคนอื่นได้รับความเดือดร้อน ไม่ได้เท่เลย


ขณะที่นายวันชัย ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน กล่าวว่า อยากให้วัยรุ่นพวกนี้หมดไป เยาวชนพวกนี้มีพฤติกรรมเกเร คนดีๆ ต้องอดทน ไม่มีใครกล้าไปยุ่งด้วย ผู้อาวุโสบ้านตรงข้ามเข้าโรงพยาบาลไปแล้ว เพราะโดนก่อกวนทุกคืน แจ้งความไปก็เท่านั้น ไม่เคยมีเจ้าหน้าที่มาดูจริงจัง  

ต่อมา นายเอกภพ พาสองแม่ลูกผู้เสียหาย เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดนนทบุรี ซึ่งบางช่วงบางตอน นายเอกภพ กล่าวว่า ควรนำกฎหมายที่มีออกมาบังคับใช้ขั้นเด็ดขาด วันนี้มีประชาชนหลายคนบอกข้อมูลว่า เด็กคนไหน ชื่ออะไร ใครมีอาวุธปืนเถื่อน หรือบ้านไหนที่ผลิตปืนเถื่อน หลังจากนี้เชื่อว่า หากท่านผู้กำกับการมีข้อมูลแล้ว คงให้เจ้าหน้าที่สืบสวนเข้าตรวจสอบและจับกุม หากพบเจออาวุธในบ้าน ผู้ปกครองอาจเดือดร้อนด้วย หากเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งดำเนินการอย่างจริงจัง สามารถแก้ไขปัญหาได้แน่นอน 

ด้าน พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ เผยว่า ตนเพิ่งย้ายมารับตำแหน่งได้ไม่ถึง 2 เดือน ทราบมาว่าในพื้นที่มีเหตุลักษณะทำนองนี้เกิดขึ้น ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ และเตรียมตั้งชุดเฉพาะกิจไล่ล่าปราบปรามแก๊งวัยรุ่น ยืนยันไม่ปล่อยวัยรุ่นเหล่านี้ไว้แน่ แม้จะเป็นเยาวชนก็ตาม เพื่อรวบรวมหลักฐานรายละเอียดให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ติดตามจับกุม


ต่อมา นางเอ (นามสมมติ) พาหลานชายอายุ 14 ปี และเพื่อนอายุ 14 ปี เข้าให้ปากคำที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ เนื่องจากเยาวชนทั้งสองเป็นสมาชิกแก๊งทรายทอง ซึ่งได้เผยถึงพฤติการณ์ของกลุ่มในการก่อเหตุ

เด็กชายวัย 14 ปี บอกว่า มีอยู่วันหนึ่ง นายโอ (ผู้บาดเจ็บ) ได้โทรมาฟ้องนายแทน (เพื่อนของตน) บอกว่า มีเด็กเมืองทอง ไม่ทราบชื่อ ไปเหยียบหน้าเพื่อนของนายตี๋ หัวหน้าแก๊งทรายทอง นายตี๋จึงให้ตนขี่รถจักรยานยนต์ไปรับนายโอ และเด็กเมืองทอง มาเคลียร์กันที่ตลาดซอยทาน นายตี๋ได้ถามเด็กเมืองทองว่า เหยียบหน้าเพื่อนตนจริงหรือเปล่า แต่คู่กรณีปฏิเสธ นายตี๋จึงถามนายโออีกครั้งว่าใครทำ ตอนนั้นนายโอพยักหน้า นายตี๋จึงสั่งลูกน้องต่อยนายโอ และให้รุมทำร้าย จากนั้นพวกตนก็ไปส่งนายโอและคู่กรณี ซึ่งก่อนทางเข้าหมู่บ้าน นายตี๋ยกล้อรถจักรยานยนต์ นายแทนก็ยกตาม ทำให้รถจักรยานยนต์ล้ม ตนจึงบาดเจ็บ ส่วนตัวไม่รู้จักใครในแก๊งทรายทอง รู้จักแค่นายตี๋ได้ 1 เดือน และเพื่อนชื่อแทน ซึ่งนายตี๋ชวนตนหนี แต่ตนไม่หนี และกลับบ้านมาบอกยาย

ด้านยายของเด็กชายวัย 14 ปี กล่าวว่า ตนได้รับโทรศัพท์ตำรวจว่าหลานชายมีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุทำร้ายร่างกาย ซึ่งหลานบอกว่ารู้จักแค่คนชื่อตี๋ ยอมรับว่าในฐานนะยาย ตนจะบอกคนรอบข้างเสมอว่าเห็นหลานตนทำอะไร สร้างความเดือดร้อนให้แจ้ง ส่วนตัวรู้ข่าวว่า นายตี๋ก่อเหตุลักษณะนี้บ่อย ไม่อยากให้หลานไปยุ่ง และเตือนหลายครั้งแล้ว ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาทั้ง 2 ราย ร่วมกันทำร้ายร่างกาย ส่วนคนในแก๊งที่เหลือ อยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย.–สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก