ส่งฟ้อง “ต่อ เรืองฤทธิ์” ข้อหาเมาแล้วขับ

กรุงเทพฯ 22 ธ.ค. – ตำรวจ สน.บางเขน ส่งฟ้อง “ต่อ เรืองฤทธิ์” ข้อหาเมาแล้วขับ หลังวัดระดับแอลกอฮอล์ได้ 235 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ด้านเจ้าตัวรู้สึกผิด ยินดีให้ความร่วมมือทุกขั้นตอน


วันนี้ (22 ธ.ค.) เวลา 09.00 น. ที่สถานีตำรวจนครบาลบางเขน “ต่อ เรืองฤทธิ์” อายุ 49 ปี ดารานักแสดง เข้ารายงานตัวกับพนักงานสอบสวนตามนัดหมาย หลังถูกเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจบริเวณถนนรามอินทรา ขอตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ผ่านทางลมหายใจและพบปริมาณแอลกอฮอล์ สูงถึง 235 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เมื่อกลางดึกของวันที่ 21 ธ.ค.ที่ผ่านมา และถูกแจ้งข้อหาขับรถขณะเมาสุรา

นายต่อ ยอมรับว่าตัวเองกระทำผิดและยินดีที่จะให้ความร่วมมือทุกขั้นตอน ซึ่งหลังจากนี้จะเดินทางไปศาลแขวงมีนบุรี เพื่อนำเอกสารไปแสดงตัวกับพนักงานอัยการเพื่อยื่นฟ้องต่อศาล ส่วนขั้นตอนหลังจากนี้ก็รอไปศาลและรอคำพิพากษาของศาลในสิ่งที่ท่านตัดสิน


ส่วนกรณีที่มีข่าวออกไปว่าตนเองอาละวาดนั้น ยืนยันว่าไม่ได้กระทำดังกล่าว ไม่รู้ว่าข่าวออกไปได้ยังไง ซึ่งคืนนั้นสารวัตรเจ้าของคดียังบอกเราคุยเรียบร้อยมาก ท่านยังเตือนเดี๋ยวมีนักข่าวมาอย่าเสียงดัง ตนเองก็ให้ความร่วมมือแต่โดยดี สภาพจิตใจตอนนี้ยังรู้สึกผิด พร้อมฝากเตือนในช่วงปีใหม่นี้ถ้าเมาอย่าขับ หันมาใช้รถสาธารณะจะดีกว่า เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้นมามันไม่คุ้มกับตัวเรา ไม่คุ้มกับคนอื่นที่ร่วมเดินทางกับเรา ปีใหม่นี้ขอทุกคนมีสติเดินทางอย่างปลอดภัย

ด้าน พ.ต.อ.อนันต์ วรสาตร์ ผกก.สน.บางเขน เปิดเผยว่า ตัวผู้ต้องหาได้ประกันตัวไปในวันที่เกิดเหตุ ซึ่ง บก.จร.เป็นผู้จับกุมนำมาส่งพนักงานสอบสวน สน.บางเขน โดยใช้เงินสดประกันตัวเองออกไป ซึ่งเช้าวันนี้เขาก็มารายงานตัว ซึ่งก็ได้ให้ทำเอกสารรายงานตัว เมื่อครบถ้วนก็จะให้ไปพบพนักงานอัยการ จากนั้นพนักงานอัยการก็จะได้พาไปส่งฟ้องต่อศาลแขวงมีนบุรี ส่วนอัตราโทษเป็นเรื่องที่ศาลจะลงโทษ ยกตัวอย่างปริมาณแอลกอฮอล์ 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์น้อย ๆ โทษก็อาจจะจำคุกไม่มาก แแต่ถ้าปริมาณแอลกอฮอล์ยิ่งมากขึ้นโทษก็จะยิ่งหนักขึ้น อาจจะมีโทษจำ หรือโทษจำรอลงอาญา บำเพ็ญสาธารณประโยชน์ รวมถึงอาจจะถูกยึดใบอนุญาตขับขี่ สุดท้ายแล้วขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล และหากมีการกระทำผิดซ้ำก็อาจจะถูกเพิ่มโทษตาม

ส่วนการจับกุมผู้ขับขี่ขณะเมาสุราในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากมีคำสั่งอนุญาตให้เปิดสถานบริการถึงเวลา 04.00 น. พบว่าสถิติผู้กระทำผิดเมาแล้วขับในพื้นที่ สน.บางเขน เพิ่มขึ้น แต่ขอใช้เวลาปฏิบัติงานอย่างน้อย 1 เดือน ถึงจะสามารถสรุปผลเพื่อรายงานภาพรวมอย่างชัดเจน. -413-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สามีเข้าเกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาดับ

สลด! สามีขับรถใส่เกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาเสียชีวิตในบ้านพักย่านวิภาวดี ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเบื้องต้น นำตัวสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” เจ้าตัวปิดปากเงียบ

ตร.ไซเบอร์คุมตัว “เอ็ม เอกชาติ” ฝากขัง เจ้าตัวปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามสื่อ ด้านตำรวจพบเส้นทางการเงินจากเว็บพนัน กว่า 30 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ช่วยผู้รอดชีวิตรายแรก เหตุตึก สตง.แห่งใหม่ ถล่ม

กทม. 28 มี.ค. – ช่วยได้แล้ว 1 ราย ผู้ที่ติดอยู่ใต้ซากอาคาร สตง.แห่งใหม่ พังถล่ม เป็นคนงานที่ติดอยู่ในช่องลิฟต์ เร่งนำส่ง รพ. อัปเดตตัวเลขผู้เสียชีวิต ณ เวลา 19.25 น. เพิ่มขึ้นเป็น 4 ราย บาดเจ็บ 9 ราย สูญหาย 117 ราย .-สำนักข่าวไทย

ระดมค้นหา 94 ชีวิต เหตุตึกถล่มย่านจตุจักร

เกาะติดเหตุอาคาร สตง.แห่งใหม่ พังถล่มจากแผ่นดินไหว จนท.ยังคงเร่งค้นหาผู้รอดชีวิต ตัวเลข ปภ. คาดมีคนงานติดอยู่ในซาก 94 ราย ยังไม่สามารถติดต่อได้ ขณะที่ยืนยันผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 3 ราย ด้านนายกฯ ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ ก่อนเดินทางไปยังศูนย์บัญชาการแผ่นดินไหว กทม.

กรมอุตุฯ เฝ้าระวังอาฟเตอร์ช็อก เขย่าแล้ว 21 ครั้ง

กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานอาฟเตอร์ช็อกแล้ว 21 ครั้ง นักวิชาการระบุ พลังงานของแผ่นดินไหวลดลงตามลำดับ แต่ที่น่าห่วงคือ โครงสร้างของอาคารต่างๆ โดยเฉพาะอาคารสูงในกรุงเทพฯ ซึ่งตั้งอยู่บนชั้นดินอ่อน ต้องมีการตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรง

นายกฯ ยันไม่เกิดสึนามิแน่ เหตุเป็นแผ่นดินไหวบนบก

นายกฯ เผยสถานการณ์แผ่นดินไหวคลี่คลาย ประชาชนกลับเข้าที่พัก-อาคารสูงได้ พร้อมเปิดพื้นที่สวนสาธารณะให้อยู่ ขณะรถไฟฟ้าเปิดให้ บริการอีกครั้งวันพรุ่งนี้ สั่งเร่งทยอยนำคนออกจากตึกถล่ม จตุจักร ก่อนลงพื้นที่ด่วน ยันไม่เกิดสึนามิแน่ เหตุเป็นแผ่นดินไหวบนบก