รวบแก๊งอ้างเป็นตำรวจหลอกติดตั้งแอปฯ ดูดเงิน

กรุงเทพฯ 20 ธ.ค. – ตำรวจไซเบอร์รวบแก๊งอ้างเป็นตำรวจ สภ.เมืองเชียงราย หลอกติดตั้ง TeamViewer ดูดเงินรวมความเสียหายเกือบ 1 ล้านบาท

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2565 มิจฉาชีพได้โทรศัพท์หาผู้เสียหาย อ้างว่าเป็นพนักงานของบริษัทจัดส่งสินค้าเอ็กซ์เพรสเชียงราย บอกว่าผู้เสียหายได้จัดส่งพัสดุซึ่งบรรจุสิ่งผิดกฎหมายพร้อมกำชับว่าห้ามมิให้ผู้เสียหายนำเรื่องดังกล่าวไปบอกใคร เพราะอาจโดนดำเนินคดีได้ ผู้เสียหายตกใจและทำอะไรไม่ถูกจึงได้ตัดสายทิ้งไป

หลังจากนั้น 2 วัน มิจฉาชีพคนเดิมได้โทรมาอีก อ้างว่ามีพัสดุผิดกฎหมายเช่นเดิม แต่ครั้งนี้มิจฉาชีพมีการส่งต่อสายให้อีกคน อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.เมืองเชียงราย แจ้งให้ผู้เสียหายเพิ่มเพื่อนในแอปไลน์แล้วได้สนทนาต่อผ่านแอปดังกล่าว โดยมิจฉาชีพอ้างว่าเป็นตำรวจยศ ร.ต.ท. พร้อมได้ส่งภาพบัตรประจำตัวราชการให้ผู้เสียหายดู จึงหลงเชื่อว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริง

ต่อมาคนร้ายได้พูดข่มขู่ว่าพัสดุผิดกฎหมายของผู้เสียหายมีส่วนเกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน และมิจฉาชีพได้ส่งลิงก์ ซึ่งทราบภายหลังว่าเป็นลิงก์สำหรับติดตั้งโปรแกรม “TeamViewer” โดยให้ผู้เสียหายกด พร้อมให้ผู้เสียหายแจ้งเลขบัตรประชาชน หมายเลขบัญชีธนาคาร รหัส PIN ของแอปพลิเคชันธนาคาร อีเมล์ วันเดือนปีเกิด ให้แก่มิจฉาชีพ และผู้เสียหายได้ทำตามขั้นตอนอื่นๆ ที่มิจฉาชีพสั่งและได้วางสายไป เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 15 นาที ผู้เสียหายได้เข้าไปดูยอดเงินของแอปฯ ธนาคาร พบว่าหายไปจำนวน 955,200 บาท จากนั้นได้พยายามติดต่อกลับไปหามิจฉาชีพอีกครั้งแต่ติดต่อไม่ได้ จึงรู้ตัวว่าถูกหลอกลวง จึงได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สอท. 3 ในเวลาต่อมา

พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. จึงได้สั่งการ พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสวนหาผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี ต่อมาสามารถขออำนาจศาลออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องได้หลายราย

กระทั่งช่วงเย็นของวันที่ 19 ธ.ค.66 ว่าที่ พ.ต.อ.อดิชาต อมรประดิษฐ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 ได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจนำหมายจับเข้าควบคุมตัว นายมงคล อายุ 30 ปี ชาวจันทบุรี ในข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ โดยแปลงตัวหรือปลอมตัวเป็นผู้อื่นโดย, ลวงว่าเป็นเจ้าพนักงานและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” โดยควบคุมตัวได้ที่บริเวณริมถนน ซอยสุขุมวิท 49 แยก 6 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ จึงนำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป .-412-สำนักข่าวไทย