เตรียม 6 มาตรการ รับคนเข้าออกไทยผ่านสนามบินช่วงปีใหม่

กทม. 17 ธ.ค.-ตม.สนามบิน เผย 6 มาตรการ รับคนเข้า-ออกไทย ช่วงเทศกาลปีใหม่ สนามบินสุวรรณภูมิ คาดเกิน 1.5 แสนต่อวัน แนะเผื่อเวลาเช็กอิน 3 ชม.

พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผบก.ตม.2 และโฆษก สตม. ได้ตอบข้อซักถามผู้สื่อข่าว ถึงความพร้อมในการเตรียมรองรับนักท่องช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 ว่า คาดการณ์ว่าจะมีคนไทยและต่างชาติเดินทางเข้าออกระหว่างประเทศ โดยเฉพาะสุวรรณภูมิ กว่าวันละ 1.5 แสนคน จากเดิมราววันละ 1.2 แสนคน ต่อวัน อันเนื่องมาจากนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยววีซ่าฟรีของทางรัฐบาล


โดย พล.ต.ต.เชิงรณ เผยว่า ปัจจุบันสนามบินอาจมีการแออัดของผู้โดยสาร เนื่องจากการขยายตัวของเที่ยวบินและคนเดินทางที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสุวรรณภูมิเทียบกับพื้นที่อาคารผู้โดยสารที่มีในปัจจุบัน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องใช้วิธีบริหารจัดการ เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เพื่อไม่ให้กระทบต่อผู้เดินทางในช่วงที่มีเที่ยวบินหนาแน่น ซึ่งจะมียอดคนเข้าประเทศสูงสุดราว 5,000-6,000 คนต่อชั่วโมง และคนออกประเทศสูงสุดราว 4,000-5,000 คนต่อชั่วโมง

ซึ่งทาง บก.ตม.2 ในฐานะรับผิดชอบการตรวจคนเข้าออก ทางด่าน ตม.สุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต เชียงใหม่ และหาดใหญ่ ทำหน้าที่คัดกรองคนเข้าออกประเทศ ภายใต้หลักความมั่นคงของประเทศ ได้กำหนดมาตรการรองรับสำคัญ ได้แก่


1.จัดกำลังพลเสริมหน้าที่เวร โดยให้ จนท.ตม.เสริมเวรประจำเคาท์เตอร์ ก่อนเวลาเข้าเวรปกติ 3-4 ชม.เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนกำลังพล โดยได้รับการสนับสนุน จนท.ตม.จากด่านต่างๆทั่วประเทศ จาก ผบช.สตม.มาอีก 150 นาย ซึ่งจะสามารถจัดกำลัลพลประจำเคาท์เตอร์ตรวจเข้า และออก ได้มากที่สุด ทั้งนี้ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ได้ขอความร่วมมือ จนท.ตม.งดขาด ลาพักผ่อน เพื่อช่วยกันดูแลพี่น้องที่เดินทางระหว่างประเทศได้อย่างเต็มกำลัง

2.ใช้วิธีการเกลี่ยปริมาณ ผู้โดยสารขาเข้า ที่สุวรรณภูมิ ทั้ง 3 โซน ให้สมดุลย์กัน โดยหากฝั่งใดที่มีผู้โดยสารลงเครื่องหลายเที่ยวบินพร้อมกัน เป็นคลื่นคนขนาดใหญ่ทางฝั่งใด หากโถง ตม.ฝั่งนั้นเริ่มเต็ม ก็จะมี จนท.ตม.โบกให้ ผู้โดยสาร ไปโซนถัดไปที่หนาแน่นน้อยกว่า ซึ่งจะทำให้ได้รับการตรวจหนังสือเดินทางได้เร็วขึ้น

3.ผู้โดยสารที่มีเด็กเล็ก มีผู้สูงอายุ ผู้พิการ จะมีการคัดแยกให้รับการตรวจที่ช่องทาง Priority เพื่อบรรเทาความยากลำบาก


4.สำหรับผู้โดยสารคนไทย ได้ลดขั้นตอนการแสกนลายนิ้วมือที่ช่องตรวจหนังสือเดินทางไทย ทั้งขาเข้า และขาออก เนื่องจากคนไทยมีฐานข้อมูลหนังสือเดินทางไทยในระบบอยู่แล้ว

5.ประสานงานร่วมกับสายการบิน กรณีพบผู้โดยสารที่เสี่ยงตกเครื่อง ในขาออก ให้ประสานกับทาง ตม.ขาออก เพื่ออำนวยความสะดวกให้ทันขึ้นเครื่อง

6.พัฒนาระบบ Autometic channel ขาออก สุวรรณภูมิ ให้รองรับการตรวจคนต่างชาติที่ใช้ E-passport กว่า 70 ชาติทั่วโลก โดยเริ่มใช้งานตั้งแต่ 15 ธ.ค.66 เป็นต้นมา ซึ่งเป็นของขวัญปีใหม่ของ สตม.ตามนโยบาย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี

พล.ต.ต.เชิงรณ กล่าวอีกว่า ในช่วงเที่ยวบินลงที่สุวรรณภูมิพร้อมกัน บางชั่วโมงสูงถึง 25 เที่ยวบิน จะมีคลื่นผู้โดยสารขนาดใหญ่โถมเข้าที่โถง ตม. ซึ่งอาจมีภาพการสะสมของผู้โดยสาร ซึ่งทาง ตม.ได้มีมาตรการเร่งระบาย โดยใช้เวลาตรวจคัดกรองกว่า 7 ขั้นตอนตามมาตรฐานความมั่นคง ทันทีที่ยื่นพาสปอร์ตให้ จนท.ใช้เวลาไม่เกินคนละ 45 วินาที เท่านั้น นอกจากนั้น ยังมีการทดลองจับเวลาผู้โดยสารที่เดินเข้าโถง รอคิว และรับการตรวจต่อคน พบว่า ใช้เวลารอเข้ารับการตรวจราว 18-20นาที ซึ่งทาง ตม.จำเป็นต้องคัดกรองคนร้ายชาวต่างชาติที่อาจแฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยวมาด้วยเช่นกัน

ส่วนขาออกที่สุวรรณภูมิ ต้องเผื่อเวลาในขั้นตอนการ check in ที่ Airline การผ่านจุดตรวจค้นตามหลักความปลอดภัยสากล การผ่าน ตม. และการเดินไปที่หลุมจอดเพื่อขึ้นเครื่อง ซึ่งโดยรวมอาจต้องเผื่อเวลาไว้ล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 3 ชม. ซึ่งในส่วนของ ตม. หลังจากที่มีการใช้ Autometic channel ขาออก สุวรรณภูมิ ให้รองรับการตรวจคนต่างชาติที่ใช้ E-passport กว่า 70 ชาติทั่วโลก แล้ว พบว่า สามารถระบายความหนาแน่นผู้โดยสารได้ดีขึ้น ราว 6,000 คนต่อชั่วโมง จากเดิมตรวจระบายได้เพียง 4,100 คน

พล.ต.ต.เชิงรณ ยืนยันว่า นายกรัฐมนตรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รวมถึง ผบช.สตม. ให้ความสำคัญ กับการอำนวยความสะดวกภายใต้หลักความมั่นคง และ ตม.ถือเป็นหน้าตาของประเทศ จึงต้องใส่ใจในการปฏิบัติให้ดีที่สุด โดยเฉพาะช่วงเทศกาลปีใหม่ ที่จะเรียกคืนบรรยากาศท่องเที่ยวให้กลับมาคึกคักเหมือนเดิม โดย พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม.จะเดินทางมามอบนโยบายแก่ จนท.ตม.ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ใน 21 ธ.ค.2566 ต่อไป.-412.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

ศึกชิงนายก อบจ.เพชรบุรี แชมป์เก่ายังแรง

เลือกตั้งนายก อบจ.เพชรบุรี ไม่คึกคัก ผลไม่เป็นทางการ “ชัยยะ อังกินันทน์” แชมป์เก่า คะแนนนำทิ้งห่างคู่แข่ง ด้านเลขาฯ กกต. เผยภาพรวมทั้ง 3 จังหวัด คนมาใช้สิทธิน้อย คาดเบื่อเลือกตั้ง 2 รอบ

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

ลุ้นผลเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ขณะนี้การนับคะแนนตามหน่วยต่างๆ เสร็จสิ้นแล้ว อยู่ในขั้นตอนการรวมคะแนน ซึ่งในเขตเมือง ผลปรากฏว่าผู้สมัครจากพรรคประชาชนมีคะแนนนำ แต่อำเภอรอบนอก ตัวแทนพรรคเพื่อไทยมีคะแนนนำอยู่หลายหน่วยเลือกตั้ง